สถานีต่อไป 1,630 จุด?

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ภาวะตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา “โมนิก้า” ต้องขอปรบมือให้รัวๆ เมื่อดัชนียังปรับตัวขึ้นต่ออีก 2.26 จุด มายืนที่ 1,618.42 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขาย 4.47 หมื่นล้านบาท แต่งานนี้ใครใจไม่แข็งพอระวังจะ  “พลาดท่า” เหมือนคุณฤกษ์ในเพลิงบุญ ที่หลงระเริงไปกับความน่าหลงใหลของใจเริง ก็แหมเดี๊ยนเหลือไปเห็นแนวต้าน 1,620 จุด ที่ยังแข็งแกร่ง จนกลัวว่าดัชนีจะกลับมาเป็นอีหรอบเดิม แต่ถ้าหากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ก็ยังมีสิทธิ์ต่อวิ่งไปถึง 1,630-1,650 จุด ได้นะเจ้าค่ะ

*หันกลับมามองพอร์ตซื้อขายรายกลุ่มดูเหมือนว่าแรงซื้อจากฝั่งฝรั่งตาน้ำข้าวจะเริ่มแผ่ว เหลือซื้อสุทธิ 153.26 ล้านบาท หลังจากที่ช่วงกลางสัปดาห์กระหน่ำซื้อหุ้นไทยไปอย่างหนักหน่วง ส่วนรายย่อยก็ยังคงถือคติ “น้ำขึ้นให้รีบตัก” เห็นดัชนีวิ่งขึ้นทีไรเป็นต้องขายทำกำไรออกมาทันที…

*ต่อให้กองทุนและรายย่อยจะยัง “กล้าๆ กลัวๆ” กับภาวะตลาดแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคกับหุ้นน้องใหม่ป้ายแดง “III” ที่ขึ้นสังเวียนเทรดวันแรก ฮอตจนต้องร้องว้าว! ก็พี่แกเล่นเปิดตัวสุดอลังการด้วยราคา 7.10 บาท จาก IPO 4.80 บาท ก่อนจะไปปิดตัวที่ 7.55 บาท บวกไป 2.75 บาท หรือขึ้นไป 57.29% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2.09 พันล้านบาท ถือเป็น IPO ของปีนี้ที่โชว์ความเก๋าด้วยธุรกิจโลจิสติกส์ครบวงจรทั้งน้ำทั้งอากาศ แถมยังมีเครือข่ายพันธมิตรช่วยเอื้อประโยชน์  ฟอร์มดีอย่างงี้ “โมนิก้า” ก็น่าสนใจไม่ใช่น้อยนะเจ้าค่ะ

*มาต่อกันที่ CRANE ท้ายสัปดาห์วิ่งแรงถึง 2 วันติดทะยานมาปิดที่ 4.02 บาท บวกไป 0.46 บาท หรือขึ้นไป 12.92% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 151.02 ล้านบาท “โมนิก้า” เห็นถึงพัฒนาการที่แข็งแกร่ง “พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ” นับตั้งแต่เปิดมิติใหม่ขยายสู่ธุรกิจเสาเข็มเจาะ ก็มีงานเข้ามาล้นมือ ตามอุตสาหกรรมก่อสร้างที่กำลังคึกคัก ส่วนรถเครนเก่าก็ทยอยคัดทิ้ง ตัดค่าเสื่อมราคาไปหมดแล้ว อนาคตสดใสเห็นๆ กันแบบนี้ ราคาก็น่าจะไปต่อได้อีกไกล…

*ส่วนในรายของ ARROW สถานการณ์ดีขึ้นเป็นลำดับ! ทั้งราคาเหล็กที่เริ่มชะลอการปรับขึ้น และภาษีที่มีแนวโน้มลดลงจากการเพิ่มสายการผลิตที่เพิ่งได้ BOI ขณะที่ยอดสั่งซื้อท่อร้อยสายไฟเร่งตัวขึ้นจน Backlog แตะ 770 ล้านบาท แถมการขยายธุรกิจไปผลิตอุปกรณ์ท่อ Post-tension มีลุ้นคืนทุนเร็ว จนลากราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 14.60 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 1.39% เห็นฟอร์มดีแบบนี้มีลุ้นวิ่งสู่เป้าหมาย 19 บาท แน่เจ้าค่ะ

*ด้าน TACC ช่วงนี้มีราศีจับรอบใหม่! เห็นได้จากราคาหุ้นทางเทคนิคทะลุผ่านแนวต้านทุกเส้นมาได้อย่างแจ่มแจ๋ว โดยราคาหุ้นมาปิดที่ระดับ 6.80 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 3.82% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 60.12 ล้านบาท บวกกับผลงานครึ่งปีหลังยังสดใส แถมราคาหุ้นยัง Underperform กลุ่มทั้งที่ถูกกระทบจากภาษีน้ำตาลน้อยสุด ยังไงใครที่จับจ้องหุ้นรายนี้ก็น่าจะไปได้อีก เพราะเป้าหมายรอบนี้สูงถึง 7.5 บาทเลยจ้า…

*เหลือไปเห็นหุ้นยางมะตอยอย่าง TASCO เริ่มขยับขึ้นมาปิดที่ 23.50 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 1.29% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 629 ล้านบาท หลังผ่านมรสุมในช่วงครึ่งปีแรกที่ราคาน้ำมันอ่อนตัว รับผลขาดทุนจากสต็อคสินค้าและการป้องกันความเสี่ยงไปเต็มๆ เข้าช่วงครึ่งปีหลังแนวโน้มราคาน้ำมันดิบเริ่มฟื้นตัวทำให้มองเห็นช่องทางสดใสมากขึ้น นอกจากนี้ช่วงฤดูฝนที่เกิดภาวะน้ำท่วมหนักทำให้ความต้องการใช้ยางมะตอยเพื่อซ่อมแซมมีมาก เช่นเดียวกับความต้องการที่มากขึ้นในต่างประเทศตามปัจจัยฤดูกาล “โมนิก้า” มองว่า TASCO ก็ยังเป็นหุ้นอีกตัวที่น่าสนใจสำหรับช่วงที่เหลือของปีนี้

* มีสตอรี่ให้พูดถึงอีกครั้งกับ PLE หลังคว้างานอาคารแซทเทิลไลท์สุวรรณภูมิของ AOT ราคาหุ้นก็พุ่งแรงไปถึง 1.54 บาท แต่หลังจากนั้นก็เหมือนจะ “หมดแรง” กลับลงมาทรงๆอยู่ที่ 1.34 บาท แต่ของแบบนี้โบราณเค้าบอกว่า “น้ำขึ้นให้รีบตัก” มีข่าวดีอะไรก็รีบงัดออกมาให้หมดหน้าตัก ล่าสุดบริษัทได้ทำ MOU ขายหุ้นบริษัทย่อยให้บริษัทเฮลแคร์รายหนึ่ง มูลค่าสูงถึง 2.10 พันล้านบาท ว่ากันว่าดีลยักษ์นี้จะเสร็จสิ้นเดือนต.ค. หากไม่มีอะไรผิดพลาดก็คงบันทึกกำไรกัน ในไตรมาส 4 ปีนี้ แหม…มีข่าวดีขนาดนี้หุ้นจะไม่ขึ้นได้ยังไงกันคะ ล่าสุดราคาปิดที่ 1.69 บาท บวกไป 0.05 จุด หรือขึ้นไป 3.05% ด้วยมูลค่า 236.06 ล้านบาท

*เหมือนกับในรายของ ITD ปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น ปิดที่ 4.36 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 4.31% ด้วยมูลค่า 758 ล้านบาท หลังจากเพิ่งโชว์ฟอร์มหรูพลิกกลับมามีกำไรในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ยังมีปัจจัยบวกต่อเนื่องจากการประมูลรถไฟทางคู่ ซึ่ง ITD เป็นตัวเต็งที่จะได้งานรถไฟทางคู่มาบกะเบา-จิระ สัญญา 1 หลังเสนอราคาต่ำสุด ส่วนสัญญาณเทคนิคหายห่วง แสดงสัญญาณซื้อ พร้อมหนุนด้วย Volume อย่างมั่นคง พื้นฐานพร้อม เทคนิคเด่นแบบนี้ “โมนิก้า” ยกให้เป็นเบอร์ 1 หุ้นรับเหมา-ก่อสร้างเลยค่ะ

*ปิดท้ายกันด้วย  BAY ที่ถูกดันราคาให้เปิดแก๊ปกว้างขึ้นไปปิดที่ระดับ 39.25 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 1.95% มูลค่าการซื้อขาย 123.27 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นประเด็นที่นักลงทุนจะเข้าใหม่ต้องไต่ตรองก่อนเล่นตามน้ำ เพราะตามเทคนิคราคาเปิดแก๊ปแล้วมักจะลงมาปิดแก๊ปก่อน แล้วค่อยไปต่อ “รอจังหวะ”  เข้า แต่ใครที่เข้าก่อนหน้าอาจขายทำกำไร หรือถือยาวไป เพราะอย่างไรก็ดีหลายๆ ฝ่าย ปักธงว่าในส่วนสินเชื่อ SME ปีนี้มีโอกาสโตทะลุเป้า 6.8% แน่นอนจ้า…อิอิ