IFEC คนไร้หัว
คำสั่งของ ก.ล.ต. ฉบับที่ 79/2560 วันอังคารที่ 5 กันยายน 2560 กล่าวโทษ นายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ในฐานะประธานกรรมการ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) กรณีกระทำโดยทุจริตโดยแสวงหาประโยชน์อันมิควรได้เพื่อตนเองหรือบุคคลอื่น มีความชัดเจนในการใช้ภาษาชนิดที่...ไม่ต้อง "แปลไทยเป็นไทย" แบบที่เป็นมาส่วนใหญ่
แฉทุกวันทันเกมหุ้น
คำสั่งของ ก.ล.ต. ฉบับที่ 79/2560 วันอังคารที่ 5 กันยายน 2560 กล่าวโทษ นายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ในฐานะประธานกรรมการ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) กรณีกระทำโดยทุจริตโดยแสวงหาประโยชน์อันมิควรได้เพื่อตนเองหรือบุคคลอื่น มีความชัดเจนในการใช้ภาษาชนิดที่…ไม่ต้อง “แปลไทยเป็นไทย” แบบที่เป็นมาส่วนใหญ่
ข้อความในประโยคกล่าวโทษที่ระบุว่า นายวิชัย…เจ้าของฉายา ศรีธนญ(วิ)ชัย….กระทำความผิดในระหว่างการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2560 เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 และการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 “…ในฐานะประธานกรรมการและประธานที่ประชุมทั้ง 2 ครั้ง ได้ดำเนินการให้ที่ประชุมเลือกตั้งกรรมการบริษัททดแทนตำแหน่งที่ว่างโดยใช้วิธีการลงคะแนนเสียงแบบสะสม (cumulative voting) ทั้งที่รู้ว่าข้อบังคับของบริษัทมิได้กำหนดให้สามารถกระทำได้…” เข้าข่าย”…เป็นการกระทำที่ตั้งใจกระทำผิดและได้รับประโยชน์จากผลการเลือกตั้งดังกล่าวซึ่งเข้าข่ายเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหาย หรือทำให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ตามมาตรา 89/7 และมาตรา 281/2 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ….”
คำกล่าวโทษของ ก.ล.ต. ซึ่งเป็นความผิดทางอาญา ทำให้ส่งเรื่องนายวิชัยต่อ ปอศ. เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป เพราะ ก.ล.ต. ใช้อำนาจฟ้องเองแบบ “ชงเอง ตบเอง” ไม่ได้ ….แต่ผลของคำกล่าวโทษ ทำให้นายวิชัยเข้าข่ายมีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนตามประกาศ ก.ล.ต.
นายวิชัยจึงมีคุณสมบัติต้องห้าม หรือขาดคุณสมบัติ ไม่สามารถเป็นกรรมการและผู้บริหารของ IFEC หรือบริษัทมหาชนจดทะเบียนที่ไหนได้อีก จนกว่าคดีจะถึงที่สุดคือ อัยการสั่งไม่ฟ้อง หรือ ศาลสั่งลงโทษเมื่อครบตามกระบวนการยุติธรรม
ช่วงจากนี้ไป ชื่อของนายวิชัยจึงหายไปจากสาระบบของIFEC ชั่วคราว จนกว่าจะพบกันอีก หรือ…ไม่พบกันอีกเลย
คำกล่าวโทษดังกล่าวของ ก.ล.ต. ถือเป็น “ไม้สุดท้าย” ที่จะทำให้ธุรกรรมที่คาราคาซังมานานกว่า 10 เดือนสามารถพบแสงสว่างปลายอุโมงค์ได้อีกครั้ง… ปิดตำนานคู่หูคู่โหด วิชัย-สิทธิชัยที่เกี่ยวกับธุรกรรมหวือหวานาน 3 ปีไปได้
แม้จะปิดไม่ทั้งหมดก็ตาม
ผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้ต่างพากันรับรู้ ความแสบสันต์ จากนิสัยดื้อรั้นและเล่ห์เพทุบายในการบริหารจัดการเพื่อยื้ออำนาจในองค์กรอย่าง IFEC ของนาย(หมอ)วิชัยนับแต่ปลายปี 2559 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันกันอย่างดีเป็นรูปธรรม ตอกย้ำว่าฉายา ศรีธนญ(วิ)ชัย…ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่เกิดจากฝีมือล้วนๆ
นับตั้งแต่ปฏิบัติการเข้าซื้อกิจการขายและเช่าเครื่องถ่ายเอกสารของอดีตบริษัทเครือสหกรุ๊ปเมื่อปี 2557 คู่หูวิชัย-สิทธิชัย มีส่วนสร้างสีสันจากสตอรี่ หุ้นพลังงานทางเลือกกับราคาหุ้น IFEC อย่างหวือหวา ชนิดแมงเม่าตราตรึงยาวนาน
โดยเฉพาะความแสบสันต์จากปฏิบัติการแอบขายหุ้นในมือแข่งกันทิ้งต่อเนื่องยาวนาน (ในลักษณะเข้าซื้อและขาย ทั้ง “ซื้อเช้า ขายบ่าย” หรือ “ซื้อบ่าย ขายเช้าพรุ่งนี้” สลับกันมาโดยตลอดปี2558-2559 ) ระหว่างหมอวิชัย กับ เสี่ยอ๋า นายสิทธิชัย พรทรัพย์อนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จนเหลือถือหุ้นรายละต่ำกว่า 5% …
จนกระทั่งเสี่ยอ๋า ชิงตัดหน้าลาออกตัดช่องน้อยไปก่อนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2559 เป็นปรากฏการณ์ “คนเก่าขายทิ้ง คนใหม่ดอดเก็บ” ของหุ้น IFEC เป็นตำนานสั้นๆ..เพราะ เสี่ยอ๋า ได้ขายหุ้นของตัวเองและพวก ออกให้กลุ่มทุน กลุ่มนายทวิช เตชะนาวากุล และลูก เกินกว่าสัดส่วน 10.21% กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง…
จากนั้นความชุลมุนวุ่นวายของสงครามแย่งชิงอำนาจในบอร์ดรูม ที่เต็มไปด้วยการใส่ความและเล่นเกมชักเย่อสารพัด ถูกนำมาใช้ต่อเนื่องอย่างพลิกแพลง และดำเนินไปท่ามกลางข่าวการเบี้ยวหนี้ตั๋วบี/อีและเงินกู้รูปแบบอื่นๆ เป็นวงเงินมากกว่า 8 พันล้านบาทกับบรรดาเจ้าหนี้ทั้งหลายแหล่
ที่กล่าวมานี้
สงครามส่วนตัวของหมอวิชัย ยังลุกลามไปถึงความเสียหายของผู้ถือหุ้นถูกละเลยเพราะหุ้นถูกห้ามการซื้อขายไม่สิ้นสุด จนถึงทุกวันนี้ และ.. ไม่มีใครรู้ว่าจะกลับมาซื้อขายตามปกติเมื่อใด เพราะงบการเงินของบริษัทที่ครั้งหนึ่งเคยสร้างนิทานเป็น “ธุรกิจแห่งอนาคต” นอกจากตัวเลขขาดทุนเละเทะเพราะ “เจ๊งบ๊ง” หมดจดทุกอย่าง ถูก ผู้สอบบัญชีไม่ยอม “แสดงความเห็น” หรือพูดง่ายๆ …ไม่รับรองงบอีกด้วย
คำถามคือ เมื่อไม่มีหมอวิชัยเสียแล้ว เท่ากับจากนี้ไป บอร์ดของ IFEC ก็ไม่มี… กลายเป็น “คนไร้หัว” ที่ต้องเรียกประชุมวิสามัญหาบอร์ดบริษัทกันครั้งใหม่ ตามกติกา …“ใครจะกล้าเข้ามา” รับเผือกร้อนต่อ
จะเป็นกลุ่มนายทวิช เตชะนาวากุล หรือกลุ่มไหน… ต้องติดตามด้วยใจระทึก
อิ อิ อิ