เรื่องของเสี่ยๆ

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*โลกของการลงทุนมักเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาในเวลาอันรวดเร็ว จนบางครั้งไม่สามารถเอาเหตุผลที่มีอยู่มาอธิบายได้หมดเปลือก ซึ่งกลายเป็นฉนวนเหตุที่ทำให้ “โมนิก้า” มีนิสัยชอบเผือกเรื่องชาวบานเป็นประจำ เพราะทำให้รู้ว่า เรื่องนี้มันมีอะไรมากกว่าที่เห็น! จึงต้องมองประเด็นต่างๆ อย่างรอบด้าน อย่าหลงเชื่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นเพียงเพราะ “เขาเล่าว่า เขาบอกมา” ซึ่งจนบัดนี้ก็ยังไม่รู้ว่า เขาคนนั้นเป็นใคร?..อิอิอิ

*ประเด็นดังกล่าวคล้ายคลึงกับดัชนีพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงเมื่อสัปดาห์ก่อน ต่อจากนั้นก็ยืนซึมกระทือบริเวณ 1,615- 1,620 จุดร่วมสัปดาห์ ก่อนจะเด้งขึ้นมาปิดที่ 1,632.66 จุด บวกไป 11.36 จุด ด้วยมูลค่า 6.29 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของเกมหุ้นมากกว่าประเด็นอื่น ซึ่งอธิบายได้ด้วยยอดซื้อขายรายวันของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ หรือเอาสัญญา TFEX ที่เปิดไว้วันต่อวัน มาเทียบกับ SET ก็จะเห็นภาพได้ชัดขึ้นเจ้าค่ะ

*เหล่านี้เป็นข้อมูลที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องออกมาเต้นแร้งเต้นกามากกว่าคนอื่นๆ หลังพรายกระซิบ และจิ้งจกที่อยู่แถวตามซอกตึกต่างๆ มักนำข่าวลึกลับมาเม้าท์มอยให้ฟังเป็นประจำ จนล่วงรู้ถึงพฤติกรรมการเล่นหุ้นของบรรดาเสี่ยๆ ที่มักมีนัยแอบแฝงเป็นประจำ จึงอยากให้แฟนคลับลองไปพิจารณาเรื่องดังกล่าวกันอีกที เพื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับการลงทุนในวันข้างหน้านะจ๊ะ

*เหมือนกับการทะยานขึ้นของหุ้น WHA เดี๊ยนมองเป็นโมเมนเดิมๆ ไม่มีอะไรทำให้หัวใจดวงน้อยๆ พองโตขึ้นกว่าเดิม ยิ่งเห็นภาพของหุ้นวิ่งขึ้นลงในกรอบ 2.90-3.30 บาทไม่ต่ำกว่า 2-3 รอบ ย่อมเข้าใจเหตุผลที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.38 บาท บวกไป 0.22 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่า 2.37 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ผู้เล่นต้องไปสอบถาม เสี่ย ป. กันเอาเอง หรือจะให้ชัวร์ตาม เจ๊ จ. ผู้กุมบังเหียนก็จะเข้าใจได้ดีขึ้นค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกแปลกใจกับการเข้ามาเก็บหุ้น III เพิ่มเติมของ เมียเสี่ย จ. นักลงทุนขาใหญ่ ซึ่งมีวาจานุ่มนวล ไพเราะเสนาะหู ฟังแล้วเคลิบเคลิ้ม แต่เมื่อเผลอทีไร โดนกระซวกไส้แตกกันทุกคน เดี๊ยนถึงสันนิษฐานว่า การอ่อนตัวลงมาปิดที่ 9.75 บาท ลบไป 0.35 บาท หรือลงไป 3.50% ด้วยมูลค่า 668 ล้านบาท มันมีประเด็นที่ต้องคิดเยอะพอสมควรว่า จบเกมแล้วใช่ไหม?

*หากนึกถึงความเยือกเย็นในวีรกรรมต่างๆ ไม่ออก “โมนิก้า” ขอย้อนทุกท่านกลับไปดูโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับหุ้น SGF และ APEX มันมีที่มาที่ไปเป็นอย่างไร? วันนั้นมีการสาดโคลนกันไปมาอย่างไร? คนที่อยู่เบื้องหลังการทุบหุ้นจนสะบักสะบอมเป็นอย่างไร? เดี๊ยนเข้าใจว่า ทุกคนมีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้เยอะพอสมควร แต่ขึ้นอยู่กับว่า ใครจะออกมาเม้าท์ถึงรายละเอียดปลีกย่อยที่เกิดขึ้นนะคะ

*เช่นเดียวกับสถานการณ์ที่ดีขึ้นของหุ้น TKN หลังตกอยู่ในสภาพสะบักสะบอมเป็นเวลานานหลายเดือน ก็มีชื่อของนักลงทุนรายใหญ่อย่าง เฮีย ล. พร้อมกับลูกหาบเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเป็นประจำ “โมนิก้า” ถึงรู้สึกแปลกใจที่เจ้าของบริษัท ซึ่งได้ชื่อเป็นคนใหม่ไฟแรงอย่าง น้อง ต. ถึงปล่อยให้บรรดาขาโหดถลุงหุ้นกันอย่างเมามัน บทจะดัน ก็ดันสุด..พอถึงบทออกของ ก็สาดทุกราคา และประเด็นนี้ทำให้เดี๊ยนมองการเด้งขึ้นมาปิดที่ 22 บาท บวกไป 1.40 บาท หรือขึ้นไป 6.80% ด้วยมูลค่า 596 ล้านบาท เป็นช็อตล่อแมงเม่ารอบใหม่ของเฮียนะจะบอกให้

*ขาใหญ่อีกหนึ่งคนที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่ เสี่ย ย.  เข้าไปเกี่ยวพันกับหุ้นร้อนหลายตัว ซึ่งแต่ละตัวก็มีสภาพที่โชคเลือดไปตามกัน ล่าสุดมีคนเม้าท์ถึงสาเหตุที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับหุ้น PACE มันมีเหตุผลบางประการที่ยังไม่ได้รับการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ จึงต้องติดตามดูกันต่อไปอีกสักนิดหนึ่งว่า ตอนจบของเรื่องนี้จะลงเอ่ยแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งขนาดไหน?

*เนื่องจากที่ผ่านมาเจอแต่เรื่องแย่ๆ เที่ยวนี้ก็น่าจะล้างอาถรรพ์ได้สำเร็จสักที เพราะคนที่เข้ามาช่วยอัดฉีดเม็ดเงินมีหลายเจ้าด้วยกัน บวกกับแผนดึงพาร์ตเนอร์เข้ามาช่วยธุรกิจ ก็คืบหน้าไปทีละขั้นตามลำดับชั้น จึงน่าจะทำให้สถานการณ์ของบริษัทสดใสขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจะทำให้ เสี่ย ป. ได้รับอานิสงส์จากเรื่องดังกล่าวไปด้วยอีกคน บรรดาแมงลือเลยแนะนำให้จับตาดูหุ้นตัวนี้เป็นพิเศษไงล่ะค่ะ

*เม้าท์ถึงเรื่องที่ดีขึ้นก็ต้องหันมามอง เสี่ย น. ซึ่งผู้คนมากมายเม้าท์กันสนั่นหวั่นไหวว่า ตอนนี้เข้า ITEL แบบเต็มตัว หลังมองเห็นศักยภาพในการสร้างรายได้ และการทำกำไร บวกกับช่วงนี้มีข่าวดีรอรับเต็มประตูหน้าต่าง ไล่เรียงตั้งแต่เน็ตชายขอบ ต่อจากนั้นมีเรื่องระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ หลังจากนั้นมีเรื่องของเคเบิ้ลใต้น้ำที่ไทยต้องการเป็นฮับในภูมิภาคนี้ วานนี้ถึงเห็นหุ้นเด้งขึ้นมายืน 5.85 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป5.4% ด้วยมูลค่า 155 ล้านบาทเจ้าค่ะ

*ตบท้ายกันที่ควันหลงคู่ซี้จอมแสบกันสักหน่อย หลังพรายกระซิบร้อยท่อต่อสายตรงมาอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า ทั้งคู่ปรับปรุงตัวใหม่แล้ว! โดยคนที่เป็นหมอได้หันมาซื้อหุ้นลงทุนมากขึ้น ไม่มีการเข้าไปเคาะไล่ราคาเหมือนกระแสข่าวที่เม้าท์กัน ส่วนเจ๊รายหลังไม่ได้มีพอร์ตใหญ่โตอย่างที่ร่ำลือ เพราะพอร์ตเล่นหุ้นของเจ๊เล็กเท่าลูกหมา “โมนิก้า” ในฐานะคนทำอะไรแฟร์ๆ เลยนำเรื่องมาบอกเล่าให้ทราบ..ส่วนจะ “เชื่อ” หรือ “ไม่เชื่อ” ก็ใช้วิจารณญาณกันเอาเองนะจ๊ะ