พักแล้วขึ้นต่อ..?
นักวิเคราะห์หลายคนมองตรงกันว่า สัปดาห์นี้หุ้นปรับลง (แรง) แน่ๆ
ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร
นักวิเคราะห์หลายคนมองตรงกันว่า สัปดาห์นี้หุ้นปรับลง (แรง) แน่ๆ
แต่ไม่รู้ว่าวันไหน
สอดคล้องกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” เสนอข่าววันก่อนหน้านี้ว่า นักลงทุนต่างชาติอาจเทขายหุ้นขนาดใหญ่ออกมา หลังจากชอร์ตฟิวเจอร์สไว้กว่า 5 หมื่นสัญญา
เป้าหมายก็เพื่อทุบดัชนี แล้วไปทำกำไรจากการเปิดสถานะชอร์ตไว้
ตลาดหุ้นไทยยังถูกมองว่า ในแง่สัญญาณทางเทคนิคถือว่าเข้าเขตซื้อมากเกินไป หรือ Overbought
และอาจมีแรงเทขายทำกำไรออกมา
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KTBST มองว่าสัปดาห์นี้ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,621-1,628 จุด
ส่วนแนวต้านคือ 1,658 จุด
ตัวแปรที่มีผลต่อตลาด คือ สถานการณ์เกาหลีเหนือ และนักลงทุนต่างประเทศจะกลับเข้ามาซื้อหุ้นต่อหรือไม่
กลยุทธ์ลงทุนในสัปดาห์นี้ จึงแนะนำว่า ควรพิจารณา “ขายทำกำไร” ในหุ้นที่ราคาปรับขึ้นมามาก และใช้การเล่นแบบเปลี่ยนตัว เปลี่ยนกลุ่ม
หุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ ได้แก่ AMATA, CPALL, BBL, THANI, EPG และ SCC
มีมุมมองจากนักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง (BLS)
เขามองว่าสัปดาห์นี้หุ้นไทยไซด์เวย์ต่อแน่นอน
แนวรับ 1,628 จุด แนวต้าน 1,650 จุด และมีโอกาส “พักตัว” หลังทดสอบจุดสูงสุดเดิมบริเวณ 1,650 จุด ที่เคยทำไว้เมื่อ พ.ค. 2013
การพักตัวที่ว่านี้ ยังคงมองเป็นการพักตัวเพื่อ “แรลลี่ขึ้นต่อ”
และอิงจากปัจจัยพื้นฐาน คือ ดัชนีฯยังมีอัพไซด์ถึง 1,722 จุด ถ้าหุ้นภายใต้ BLS Universe ขึ้นจนถึงราคาเหมาะสมพื้นฐาน และ Earning yield gap ยังไม่แพงเพราะ ดอกเบี้ยขึ้นช้ากว่าที่คิด
กลยุทธ์แนะนำสะสมหุ้น “บลูชิพใหญ่” ที่ยังเหลือ Upside to fair value สูงเกิน 15% ขึ้นไป และ BLS แนะนำ “ซื้อ”
หุ้นที่ว่านั้น คือ INTUCH, BCP, CPALL, DTAC, SCC, PTTGC, BTS และ TCAP
หุ้นที่เชื่อมโยงกลุ่มปิโตรเคมี ที่คาดว่ามี Scope of upside ต่อกำไรจากปัจจัย Supply shortage หนุนแนวโน้มกำไรให้ดีกว่าคาด SCC, PTTGC และ IVL
และหุ้น Mid to Small cap หรือขนาดกลางและเล็ก ที่คาดว่าจะเป็นกลุ่มรองรับเม็ดเงินที่ล้นมาจาก Wealth effect ที่เพิ่มขึ้นตามหุ้นใหญ่รอบนี้
แนะนำ CCET, ECL, ECF, COM7 และ JMART
มาดูการมองของ บล.เอเชีย เวลท์ กันบ้าง
สัปดาห์นี้ ดัชนีลุ้นขึ้นทดสอบ เป้าดัชนีของ บล.เอเชีย เวลท์ ที่ระดับ 1,650 จุด และมองกรอบดัชนีไว้ที่ระดับ 1,618-1,650 จุด
ปัจจัยหนุนมาจากเศรษฐกิจและผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนตัวเลขที่ออกมาปรับตัวดีขึ้น
ตัวเลขเศรษฐกิจของจีน และญี่ปุ่น ที่ออกมาดีก็ช่วยหนุนด้วย
หุ้นที่แนะนำลงทุนในสัปดาห์นี้ คือ TASCO
ให้คาราคาเป้าหมาย 28.50 บาท
แต่เป้าหมายเบื้องต้นอยู่แถวๆ 26.25 บาท และมีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 22.80 บาท
ส่วน บล.ทิสโก้ มองว่า หุ้นไทยขึ้นมาแล้ว 7 วันติดต่อกัน (หากรวมเมื่อวานนี้ด้วย ดัชนีขึ้นมาแล้ว 8 วันติดต่อกัน) แต่แกว่งแดนบวกทั้งวันในกรอบ 1,633–1,647 จุด
คำแนะนำ คือ หาจังหวะหุ้นชะลอตัวสะสมเพิ่ม หรือถือ Let Profits Run เล็งเป้า ดัชนีที่ระดับ 1,650 จุด เริ่มแบ่งขายล็อกกำไร และใช้ Stop Loss เมื่อดัชนีปิดต่ำกว่า 1,615 จุด
ควรเน้นหุ้น Laggards ที่ราคาเพิ่งเริ่มขึ้น
ส่วนหุ้นเด่นเดือนกันยายน ANAN, BANPU, CK, RJH, ROJNA, TCAP และ TPIPP
ในด้านของนักลงทุนรายใหญ่ ต่างก็มองคล้ายกับนักวิเคราะห์
หุ้นสัปดาห์นี้มีโอกาสปรับลงสูง
ต้องขายตัวที่ราคาปรับขึ้นมาค่อนข้างมากออกจากพอร์ต รีบทำกำไรออกไปก่อน
อยู่ในโลกของตลาดทุน (หุ้น)
มองโลกสวยมากไม่ได้