เกมแห่งความเชื่อมั่นพลวัต2015

ความผันผวนของดัชนีตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ บ่งบอกความสับสนในใจของนักลงทุนยามนี้ได้ชัดเจน เป็นที่ทราบกันดีว่า กระแสของบรรยากาศในตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ถูกข่าวดีจากวอลล์สตรีทขับเคลื่อนอย่างมีนัยสำคัญ ผสมโรงด้วยข่าวดีจากการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางจีนเป็นครั้งที่สามภายใน 6 เดือน


ความผันผวนของดัชนีตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ บ่งบอกความสับสนในใจของนักลงทุนยามนี้ได้ชัดเจน             เป็นที่ทราบกันดีว่า กระแสของบรรยากาศในตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ถูกข่าวดีจากวอลล์สตรีทขับเคลื่อนอย่างมีนัยสำคัญ ผสมโรงด้วยข่าวดีจากการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางจีนเป็นครั้งที่สามภายใน 6 เดือน

ตลาดหลักของเอเชียอย่างโตเกียว โซล เซี่ยงไฮ้ ฮ่องกง และมุมไบ  พากันบวกแรงกันทั่วหน้า โดยเฉพาะเซี่ยงไฮ้ที่บวกแรงถึง 3% เศษ แต่ตลาดอาเซียนและไทย กลับมีอาการป้อแป้ เพราะนักลงทุนโดยเฉพาะรายย่อยยังคงอยู่ในอาการลังเล เพราะความเชื่อมั่นไม่เต็มร้อย พยายามบวกในตอนเช้าเล็กน้อย แล้วก็มีแรงเทขายท้ายตลาด ปิดลบกันเป็นแถบ

นักวิเคราะห์หลายสำนักประเมินว่า การที่ดัชนีปรับตัวลงต่อ หลังจากรีบาวด์ขึ้นในช่วงเช้า เพราะยังขาดปัจจัยใหม่ๆ ผสมกับเศรษฐกิจไทยที่ยังอ่อนแอ  เชื่อมโยงกับความกังวลในสถานการณ์เจรจาหนี้สินกรีซที่จะถึงกำหนดชำระหนี้ในวันพรุ่งนี้

ข้อเท็จจริงที่นอกเหนือจากนักวิเคราะห์ อยู่ที่การซื้อขายรายกลุ่มและมูลค่าซื้อขายรวมของตลาด ซึ่งสังเกตไม่ยาก

หากพิจารณาจากมูลค่าซื้อขายประจำวัน จะเห็นได้ชัดว่า มูลค่าที่หดหายไปเหลือเพียงแค่ 3.2 หมื่นล้านบาทวานนี้ สะท้อนความไม่มั่นใจของนักลงทุนที่โดดเด่น

อีกมุมหนึ่ง ตารางการซื้อขายรายกลุ่มที่ยกมาประกอบนี้ สะท้อนได้ชัดเจนว่า นักลงทุนรายย่อยถอนตัวออกจากตลาดชัดเจนอย่างยิ่ง สัดส่วนซื้อขายในการซื้อแค่ 42.81% และสัดส่วนการขายที่ 47.32% เป็นประเด็นที่ทำให้เกิดสภาพ ”ตลาดวาย” ได้ชัดยิ่งกว่าคำบรรยายอื่นใด

บทบาทของนักลงทุนต่างชาติ (ซื้อ 29.45% ขาย 24.23% ของมูลค่า) และพอร์ตโบรกเกอร์ (ซื้อ 8.70% ขาย 15.18% ของมูลค่า) ที่โดดเด่นเป็นพิเศษ สะท้อนอิทธิพลของกลุ่มนักลงทุนสถาบันที่มีบทบาทครอบงำตลาดในช่วงนี้ชัดเจน

……………….

มูลค่าซื้อขายประจำวันที่ 11 พฤษภาคม 2558 รายกลุ่มของตลาดหุ้นไทย

หน่วย: ล้านบาท

นักลงทุน

ซื้อ

ขาย

สุทธิ

มูลค่า

%

มูลค่า

%

มูลค่า

%

สถาบันในประเทศ

6,101.55

19.04

4,252.17

13.27

1,849.38

บัญชีบริษัทหลักทรัพย์

2,788.21

8.70

4,865.44

15.18

-2,077.23

นักลงทุนต่างประเทศ

9,436.16

29.45

7,763.09

24.23

1,673.07

นักลงทุนทั่วไปในประเทศ

13,718.62

42.81

15,163.83

47.32

-1,445.21

                ———–

               

อาการเทขายทิ้งท้ายตลาดวานนี้ของพอร์ตโบรกเกอร์ เป็นการทำกำไรที่สอดรับกับสัญญาณทางเทคนิคของตลาดที่ออกอาการชัดเจนว่า การปรับตัวของดัชนีตลาดหุ้นนั้น เชื่อมโยงเข้ากับภาพรวมของเศรษฐกิจไทยที่ออกอาการไม่ดีต่อเนื่อง

ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาสแรกที่ต่ำกว่าคาด และคาดว่าจะส่งผลต่อเนื่องไปยังไตรมาสที่สองของปีนี้ ทำให้มีการคาดเดาทางลบว่า บริษัทจดทะเบียนจะมีอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้นไม่เป็นไปตามคาด เพราะสภาพเศรษฐกิจที่ขยายตัวช้า เห็นได้จากกำไรต่อหุ้นของกลุ่มธนาคารพาณิชย์แบงก์ที่นอกจากลดลงแล้ว ยังมีปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ในระดับสูง ทำให้กังวลว่าแบงก์อาจจะปล่อยสินเชื่อลดลงในช่วงครึ่งปีหลัง

มุมมองทางลบดังกล่าว มีการประเมินจากนักวิเคราะห์บางสำนักว่า  ทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยจะลงไปทดสอบระดับต่ำสุดที่ 1,310 จุด ได้ในช่วงปลายไตรมาส 2 โดยที่อาจจะมีการรีบาวด์กลับในช่วงไตรมาส 3 และฟื้นตัวดีขึ้นในไตรมาส 4  โดยขึ้นกับสถานการณ์ทางการเมืองและสภาพของเศรษฐกิจโลก

ที่แน่นอนก็คือ ปีนี้โอกาสที่จะมีกระแสไหลเข้าของทุนเก็งกำไรระลอกใหญ่ ไม่น่าจะเกิดขึ้นเร็วเท่าใดนัก

ยิ่งถ้าหากสถานการณ์ในยูโรโซนเรื่องปัญหาหนี้กรีซ ที่เผชิญกับภาวะผิดนัดชำระหนี้วงเงิน 750 ล้านยูโรที่มีกำหนดชำระต่อเจ้าหนี้ ก็จะยิ่งซ้ำเติมรุนแรงมากยิ่งขึ้น

ความไม่มั่นใจดังกล่าว สวนทางกับตลาดหุ้นในเอเชียตะวันออกที่กลับมาคึกคักร้อนแรงอย่างยิ่ง

เงินทุนเก็งกำไรนั้น เคลื่อนไหวไปกับความกลัวและความโลภเป็นกระแสที่ต่อสู้กันในแต่ละช่วงไม่รู้จบ โดยมีความเชื่อมั่นของนักลงทุนเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญ 

ความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดภาวะตลาดกระทิง ความเชื่อมั่นที่ถดถอย ทำให้เกิดภาวะตลาดหมี เป็นสัจธรรม ความหมายเรื่องนี้ เข้าใจกันได้ไม่ยาก  ทำนองเดียวกันกับความเชื่อมั่นในนักการเมือง เพราะเป็นประเด็นที่มีปัจจัยนามธรรมเกี่ยวข้องด้วย

กระบวนการสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนนั้น แม้จะเป็นนามธรรม แต่หากเข้าใจและมองเห็นทะลุปรุโปร่ง ก็เป็นเรื่องไม่ยาก แต่หากไม่เข้าใจก็จะเป็นปัญหาเส้นผมบังภูเขาโดยปริยาย

อย่าได้ประหลาดใจ หากจะพบว่า นับจากนี้ไป บทวิเคราะห์ทุกเช้าของสำนักบริษัทหลักทรัพย์ จะถูกนักลงทุนพิจารณาละเอียดลออมากขึ้น เพราะความไว้วางใจของนักลงทุนกำลังเปลี่ยนไป

ในยามที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยกำลังปริ่มๆ ว่าแนวรับ 1,500 จุดนั้น จะแข็งแกร่งมากน้อยแค่ไหน หรือว่าจะต้องพึ่งพาแนวรับที่ระดับ 1,450 จุด เกมแห่งความเชื่อมั่น มีความหมายอย่างมาก

Back to top button