เปิด 4 หุ้นดาวเด่นกลุ่มค้าปลีก

การจับจ่ายใช้สอยมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น โดยเห็นสัญญาณการฟื้นตัวขึ้นของยอดขายของสาขาเดิมของกลุ่ม (same store sale growth-SSSG) จากติดลบ 5% ในไตรมาส 2/60 มาอยู่ที่ประมาณทรงตัวในเดือนสิงหาคม


เส้นทางนักลงทุน

การจับจ่ายใช้สอยมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น โดยเห็นสัญญาณการฟื้นตัวขึ้นของยอดขายของสาขาเดิมของกลุ่ม (same store sale growth-SSSG) จากติดลบ 5% ในไตรมาส 2/60 มาอยู่ที่ประมาณทรงตัวในเดือนสิงหาคม

นอกจากนี้ ดัชนีผู้บริโภคเดือน ส.ค. ปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน เนื่องจากเริ่มมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว รวมถึงภาคการส่งออก และท่องเที่ยวที่ดีขึ้น นักท่องเที่ยวจีนยังโตต่อเนื่องหลังผ่านพ้นการปรับตัวเรื่องทัวร์ศูนย์เหรียญและคาดว่าจะยังคงเติบโตได้ดีในช่วงปลายปี

ทำให้หลายฝ่ายคาดในไตรมาส 4 ปี 60 SSSG จะยังคงปรับตัวดีขึ้นหลังผ่านพ้นช่วงพระราชพิธีฯในเดือนตุลาคมและเข้าสู่ช่วงเทศกาลปลายปี รวมถึงการกระตุ้นจากภาครัฐ ในต่างจังหวัดการฟื้นตัวยังคงช้ากว่าในเขตเมือง เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรยังฟื้นตัวช้ากว่า การบริโภคของชนชั้นกลางมีแนวโน้มที่จะกลับมาเร็วกว่าปกติ

แน่นอนว่าการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคมีสัญญาณเป็นไปในทางบวก  แนะลงทุนในกลุ่มค้าปลีก อย่าง บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO, บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) หรือ ROBINS, บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC  และบริษัท เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท จำกัด (มหาชน) หรือ FN เป็นต้น

ที่สำคัญบริษัทดังกล่าวมีโบรกเกอร์คงแนะนำซื้อ เช่น บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO ทางโบรกเกอร์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง เชียร์ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 12.20 บาท เพราะเล็งยอดขายของสาขาเดิม same store sales growth (SSSG) ฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง หลังเริ่มเห็นสัญญาณกำลังซื้อฟื้นจากภาวะเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทได้ปรับกลยุทธ์การขยายสาขาเป็นขนาดที่เล็กลง “HMPRO S” และเกาะไปตาม Community mall ที่อยู่ในพื้นที่น่าสนใจ ซึ่งจะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากขึ้น เนื่องจากเป็นการควบคุมค่าใช้จ่ายในการลงทุน

อีกทั้งเน้นขายสินค้าที่มีมูลค่าสูงจาก Good เป็น Better ในประเภท Private Brand ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าปกติ 10-15% โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้ดังกล่าวราว 18% ของรายได้รวม ซึ่งตั้งเป้าจะเพิ่มสัดส่วนดังกล่าวให้เพิ่มขึ้นเป็น 20-25% ในอนาคต

ต่อมา บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) หรือ ROBINS ทางโบรกเกอร์เชียร์ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 79 บาท จากปัจจัยบวกในด้านของภาพรวมเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว การบริหารต้นทุนที่ดีและขยายสาขา คาดว่าบริษัทจะมีกำไร 2.8 พันล้านบาทในปี 2560 เพิ่มขึ้น 7% ขณะที่ในปี 2561 คาดจะมีกำไร 3.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากการขยายสาขาและรับรู้รายได้เต็มปีจากสาขาที่เพิ่มในปี 2560 และจากฐานการบริโภคปี 2560 ที่ต่ำในแง่กำลังซื้อและฝนชุก บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง หนี้สินต่อทุนสุทธิเป็น cash ซึ่งเอื้อต่อการขยายสาขาและกิจการ

ต่อมา บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC  ทางโบรกเกอร์ บล.เออีซี เชียร์ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 59 บาท เนื่องจากมองผลดำเนินงานของ BJC ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยช่วงครึ่งหลังของปี 60 คาดกำไรปกติโตสดใส หลังเริ่มเห็นการฟื้นตัวของผลดำเนินงาน BIGC (ช่วงครึ่งแรกปี 60 BIGC มีสัดส่วนกำไร 63% ของกำไร BJC) ซึ่งสะท้อนได้จากยอดขายสาขาเดิมของ BIGC เดือน ก.ค. ที่เริ่มพลิกบวก 2.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หลังช่วงครึ่งแรกปี 60 ติดลบกว่า 17.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

หลังปรับโมเดลธุรกิจเน้นขายสินค้ามาร์จิ้นสูงตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/59 และคาด BIGC จะมีกำไรปกติโตเด่นอีกครั้งในช่วงไตรมาส 4/60 ซึ่งเป็นฤดูกาลจับจ่ายใช้สอย และยังคงจะรับรู้ยอดขายสาขาใหม่ที่ขยายตัวต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการรับรู้ยอดขายในธุรกิจบรรจุภัณฑ์ที่คาดจะดีขึ้นหลังมีกำลังผลิตเพิ่มขึ้นจากเตาหลอมใหม่ที่สระบุรีดังกล่าวข้างต้น ส่งผลให้คงคาดปี 2560 BJC จะมีกำไรปกติ 5,153 ล้านบาท ยังโต 75.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และโตต่อ 13.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อนในปี 2561

และ บริษัท เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท จำกัด (มหาชน) หรือ FN ทางโบรกเกอร์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส เชียร์ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 5.60 บาท  เพราะเชื่อว่ากำไรจะกลับมาเติบโตจากไตรมาสก่อน อีกครั้งในไตรมาส 4/60 จากการฟื้นตัวของกำลังซื้อ และการท่องเที่ยวที่น่าจะคึกคักมากขึ้นตามฤดูกาล กอปรกับมีแผนเปิดสาขาใหม่แห่งที่ 2 ของปีที่ฉะเชิงเทรา ในเดือน พ.ย. และคาดหวังการกลับมาฟื้นตัวโดดเด่นในปี 2561 ส่วนหนึ่งมาจากฐานที่ต่ำมากในปีนี้ โดยคาดโต 65% จากงวดเดียวกันของปีก่อนเป็น 160 ล้านบาท จากการรับรู้ 2 สาขาใหม่ในปี 2560 เต็มปี และยังมีแผนเปิดสาขาใหม่อีก 2 แห่งในปีหน้า รวมถึงรายได้ค่าเช่าจะเติบโตต่อเนื่องจากพื้นที่เช่าเพิ่มขึ้น

ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงตัวเลือกในกลุ่มค้าปลีกที่คาดว่าจะขานรับสัญญาณฟื้นตัวของ SSSG ความเชื่อมั่นเศรษฐกิจ-ส่งออก-ท่องเที่ยวดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอยไปในทิศทางสดใสมากขึ้นอย่างแน่นอน…เพราะกำลังซื้อจะเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง ผลจะทำให้ยอดขายของกลุ่มค้าปลีกมีมากขึ้น

ดังนั้นจึงยกให้ HMPRO, ROBINS, BJC และ FN เป็น 4 หุ้นดาวเด่นที่จะได้รับประโยชน์!!

Back to top button