เกลียดทรัมป์รักลุงตู่

ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

เพิ่งบ่นอยู่หลัดๆ ว่าโดนต่างชาติ Black List ห้ามเข้าประเทศ จู่ๆ พล.อ.ประยุทธ์ก็ได้รับเชิญไปเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ ทำให้รัฐบาลทหารไทยภาคภูมิใจยิ่งนัก

นี่เป็นครั้งแรกนะครับ เพราะ 2 ครั้งที่เคยไป ที่ได้จับมือโอบามาถ่ายภาพอวดคนไทยเป็นการไปประชุม UN โอบามาไม่ได้เชิญ แต่ไม่สามารถห้ามเข้าประเทศ เพราะไปในฐานะสมาชิก UN

ถามว่าน่าดีใจไหม ที่สหรัฐฯ มหาอำนาจโลกประชาธิปไตยให้เกียรติเชิญไปเยือน ก็คงดีอยู่หรอก ถ้าไม่ใช่ยุคทรัมป์ ที่แม้มาจากเลือกตั้งก็ถูกชาวโลกชาวอเมริกันประณาม ว่าเหยียดผิวเหยียดเพศแบ่งชาติพันธุ์ ละเมิดสิทธิมนุษยชน ซ้ำยังชูนโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน”

ภาพลักษณ์ทรัมป์ไม่ได้ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ไทย ในแง่ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน เพียงเอามาอวดได้ว่า มหาอำนาจทุกขั้ว อเมริกา จีน รัสเซีย ไม่รังเกียจที่จะคบค้าสมาคม แต่คบค้าแล้วใครได้เปรียบเสียเปรียบ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เพราะที่คบๆ มาก็เห็นซื้ออาวุธจีน รัสเซีย แต่ซื้ออาวุธอเมริกาดีนะครับ โปร่งใส มีการตรวจสอบเข้มข้น ห้ามจ่ายสินบนใต้โต๊ะ ฉะนั้นถ้าซื้อเรือดำน้ำอเมริกาต้องปรบมือให้

ย้ำอีกที อเมริกายุคทรัมป์ โยนเสรีภาพสิทธิมนุษยชนทิ้งไป ชู “อเมริกาต้องมาก่อน”  ฉะนั้นการที่ทรัมป์เชิญไปเยือน ก็เห็นลิ้นไก่ตั้งแต่อ้าปากว่า เพื่อผลประโยชน์อเมริกา แต่จะเป็นเรื่องการเมืองโลก ต้องการถ่วงอิทธิพลจีน หรือเรื่องทางการค้าแบบทวิภาคี FTA ต้องดูอีกที

หวังว่าถ้ามีข้อตกลงที่เสียเปรียบ ก็จะหลบเลี่ยง ไม่ใช่หวังการยอมรับจนเอาอะไรไปแลกก็ยอม

เพราะอย่างที่บอกว่าการได้จับมือทรัมป์ ไม่ช่วยสร้างภาพลักษณ์อะไรหรอก ไม่ใช่เรื่องน่าดีใจอะไรนักหนา ไม่เชื่อ ลองถามคนชั้นกลางในเมืองที่รักลุงตู่อยู่ก็ได้

คนชั้นกลางไทยส่วนใหญ่ไม่ได้ชอบทรัมป์ ตอนเลือกตั้งเชียร์ฮิลลารีมากกว่า เพราะทรัมป์สามหาว หยาบคาย ไร้สมบัติผู้ดี คนเลือกทรัมป์ก็เป็นพวกผู้ใช้แรงงานไม่มีการศึกษา หลงเชื่อประชานิยม อ้อ ทรัมป์ยังเป็นเพื่อนทักษิณอีกต่างหาก

เรื่องนี้ต้องเข้าใจว่า คนชั้นกลางไทยที่เชียร์รัฐประหารในประเทศ เวลามองปัญหานอกประเทศกลับเกลียดพวก “ฝ่ายขวา” เช่นพวกเหยียดเพศเหยียดผิว กีดกันคนต่างเชื้อชาติศาสนา ยกย่องเนลสัน แมนเดลา หรือวีรบุรุษนักต่อสู้ประเทศต่างๆ ชื่นชมโอบามา เพิ่งจะเกลียดโอบามาตอนอเมริกาแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับรัฐประหาร ผ่านทูตคริสตี้ ทูตเดวีส์ (ซึ่งทำให้รัฐมนตรีดอน ปรมัตถ์วินัย หน้าแหกหลายริ้ว)

ฉะนั้น ตอนมีม็อบเหยียดผิวก่อเหตุที่เมืองชาร์ล็อตส์วิลล์ คนไทยก็รุมประณามนักวิชาการรายหนึ่งด่าพวกคลูคลักซ์แคลนพวกนาซีใหม่ว่าเลวร้ายไม่ต่างกับม็อบเสื้อแดงบุกการประชุมอาเซียนซัมมิทที่พัทยา

หรืออย่างตอนนี้ คนไทยก็รุ่มด่าพม่า ประณามอองซานซูจี แม้ไม่อยากรับผู้ลี้ภัยโรฮิงญา แต่สะใจที่ตอนพม่าเลือกตั้งแล้วคนแห่แหนชมว่า พม่าจะเป็นประชาธิปไตยล้ำหน้าไทย เห็นไหม หัวร่อทีหลังดังกว่า

เชื่อไหมล่ะ ในสายตาคนรักลุงตู่ ทรัมป์ยังเป็นประชาธิปไตยน้อยกว่าลุงตู่เสียอีก ฉะนั้นจะให้ทำใจยอมรับทรัมป์นี่คงลำบากไม่ใช่น้อย

ท้ายที่สุด คบทรัมป์ ก็เป็นแค่เรื่องผลประโยชน์เท่านั้น ไม่ได้ช่วยสร้างภาพลักษณ์นักหรอก ชาวบ้านทั่วไปก็ไม่รู้สึกแปลกอะไร ถ้าโอบามาเชิญไปสิ โอ้โห โลกสะเทือน