CHO ลุ้นล้างขาดทุนหมดในปี 60

ล่าสุด ราคาหุ้น CHO ได้ปรับตัวขึ้นอีกครั้ง โดยราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ 1.80 บาท บวกไป 0.03 บาท หรือขึ้นไป 1.69% มูลค่าการซื้อขาย 23.20 ล้านบาท นับเป็นการส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง...ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับตัวบริษัทนั่นเอง


คุณค่าบริษัท

ล่าสุด ราคาหุ้น CHO หรือ บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) ได้ปรับตัวขึ้นอีกครั้ง โดยราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ 1.80 บาท บวกไป 0.03 บาท หรือขึ้นไป 1.69% มูลค่าการซื้อขาย 23.20 ล้านบาท นับเป็นการส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง…ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับตัวบริษัทนั่นเอง

โดยเฉพาะในเรื่องที่คาดว่าจะล้างขาดทุนหมดในปี 60 และเติบโตสูงในปี 61 ตามที่หลายฝ่ายได้กล่าวไว้…

อย่างแนวโน้มครึ่งหลังของปี 60 เชื่อผลประกอบการจะพลิกกลับมาเป็นบวกอีกครั้งจาก คาดบริษัทจะรับรู้รายได้ในมือ (Backlog) ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 60 จำนวน 2.7 พันล้านบาท (รวมโครงการของ E-Ticket มูลค่า 1.6 พันล้านบาท) เข้ามาอีกราว 35%-40% มาจากส่วนงานในประเทศ 87% และงานต่างประเทศอีกราว 13% ทั้งนี้คาดจะทำให้บริษัทมีรายได้รวมปี 60 สูงขึ้น 1,727 ล้านบาท หรือ 63.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

นอกจากนี้ คาดจะไม่มีการบันทึกต้นทุน R&D ใหม่เข้ามาจากงานที่จะรับรู้ส่วนใหญ่เป็นสินค้าในกลุ่มมาตรฐานซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีใหม่ในการผลิตมาก โดยรวมน่าจะทำให้ GPM รวมกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้คาดผลประกอบการทั้งปี 60 จะพลิกกลับมามีกำไรอยู่ที่ 6 ล้านบาท จากปี 59 ที่ขาดทุน 91 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเติบโต 106.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ที่สำคัญไปกว่านั้น คาดแนวโน้มปี 61 เชื่อผลประกอบการจะโตสูงต่อเนื่องจากงวดเดียวกันของปีก่อน จากคาดการณ์สิ้นปี 60 จะเหลืองานในมือที่ยังไม่ได้ส่งมอบอยู่ราว 1.7 พันล้านบาท (รวมงานรถ catering ของการบินไทยมูลค่า 170 ล้านบาทที่คาดจะเซ็นสัญญาในต้นเดือน ต.ค. 60)

บวกกับแนวโน้มงานใหม่ที่คาดจะทยอยเข้ามา ส่งผลให้กำไรปี 61 อยู่ที่ 38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 548.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ยังไม่รวมโอกาสการได้งานโครงการใหญ่ อาทิ งานประมูลรถ NGV 489 คัน (รอบใหม่) งานโครงการรถรางเบาขอนแก่น (KKTT) ตลอดจนแผนขยายศูนย์ซ่อมรถบรรทุก “สิบล้อ 24 ชม.” ให้ครบทั้ง 8 แห่ง ภายในปี 61-63 (จากปัจจุบันเปิดไปแล้ว 1 แห่งที่แหลมฉบัง จ.ชลบุรี )

ดังนั้นทางนักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป เชื่อจะเห็นการฟื้นตัวของกำไรอย่างมีนัยจากแนวโน้มงานใหม่ๆ และโอกาสการเข้ามาของงานโครงการขนาดใหญ่ เช่น โครงการประมูลรถ NGV 489 คัน โครงการ KKTT ฯลฯ

อีกทั้งบริษัทยังเหลืองานในมืออยู่มาก ทั้งนี้ประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 61 อยู่ที่ 2.76 บาท (ยังไม่รวมงานโครงการใหญ่) อิงจากอัตราเติบโตเฉลี่ยของกำไรในปี 2560-2562 ที่ 245.6% เทียบ PEG เท่ากับ 0.35 เท่า แนะนำ “ซื้อ”

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย 487,619,730 หุ้น 41.22%
  2. นางวาสนา ทวีแสงสกุลไทย 68,640,000 หุ้น 5.80%
  3. น.ส.อัศนา ทวีแสงสกุลไทย 39,344,360 หุ้น 3.33%
  4. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 34,275,390 หุ้น 2.90%
  5. นายพุฒิพัฒน์ เวศย์วรุตม์ 25,741,975 หุ้น 2.18%

รายชื่อกรรมการ

  1. นางเพ็ญพิมล เวศย์วรุตม์ ประธานกรรมการบริษัท
  2. นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
  3. นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่
  4. นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการน.ส.อัศนา ทวีแสงสกุลไทย กรรมการ

Back to top button