ATP30 ลมตะวันออกพัดแรง

นายปิยะ เตชากูล อดีตวิศวกรที่ผันตัวมาร่วมหุ้นทำธุรกิจรับส่งคนงานไปทำงานในนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก ในนามบริษัท บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP30 เป็นนักฝันผสมกับนักสร้างฝันให้เป็นรูปธรรมเสมอมา


แฉทุกวันทันเกมหุ้น

นายปิยะ เตชากูล อดีตวิศวกรที่ผันตัวมาร่วมหุ้นทำธุรกิจรับส่งคนงานไปทำงานในนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก ในนามบริษัท บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP30 เป็นนักฝันผสมกับนักสร้างฝันให้เป็นรูปธรรมเสมอมา

การเติบโตแบบ “กินข้าวทีละคำ” ของ ATP30 จึงล้วนมีรายละเอียดที่เป็นกรณีศึกษาได้อย่างน่าติดตาม

ปีนี้ นายปิยะออกมาประกาศอย่างมั่นใจเช่นเดิม ก่อนประกาศงบไตรมาสสามว่า รายได้ตลอดปี 2560 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปี 2559 ที่มีรายได้อยู่ที่ 302 ล้านบาท เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง จะเติบโตกว่าช่วงครึ่งปีแรก 

ประกอบกับมีมูลค่างานอยู่ในมือ (Backlog) อยู่ที่ 1,600 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ในปี 2560 จำนวน 300 ล้านบาท และที่เหลือจะทยอยรับรู้ไปถึงปี 2565

แนวโน้มของธุรกิจยังเดินหน้าต่อไปไม่มีหยุดเพราะการต่อยอดความสำเร็จยังดำเนินการต่อเนื่อง โดยอยู่ระหว่างเจรจาลูกค้าเพื่อเข้าไปรับงานอีกประมาณ 2-3 ราย เพื่อสนับสนุนการเติบโตในอนาคต ซึ่งจะเห็นความชัดเจนบางส่วนในช่วงปลายปี 2560 และคาดจะสามารถให้บริการได้ภายในปี 2561 แต่ยังไม่สามารถระบุมูลค่าได้ในขณะนี้ เนื่องจากยังไม่ได้เซ็นสัญญาให้บริการ หลังจากในปัจจุบันบริษัทมีการให้บริการลูกค้าอยู่ที่ 32-33 ราย

นอกจากนี้ บริษัทยังมีโอกาสปรับเพิ่มเป้ารายได้ปี 2561 เป็นเติบโต 20% จากปี 2559 ที่ตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% เนื่องจากมีการเจรจาเข้ารับงานกับลูกค้าต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การปรับเพิ่มเป้ารายได้ดังกล่าวบริษัทยังต้องขออนุมัติกับคณะกรรมการบริษัทก่อน

ข่าวดีล่าสุด ATP30 ได้รับคัดเลือกให้บริการเดินรถรับส่งพนักงานอีก 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ปูนซีเมนต์ นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ SCCC ด้วยรถตู้ปรับอากาศจำนวน 7 คัน ซึ่งเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2560-31 ต.ค. 2563 และ บริษัท บริดจสโตน  สเปเชียลตี้ไทร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด หรือBSTMT ด้วยรถบัสปรับอากาศจำนวน 5 คันและรถมินิบัสปรับอากาศจำนวน 1 คัน เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2561-31 ธ.ค. 2562

นอกเหนือจากลูกค้าใหม่ทั้ง 2 รายข้างต้น ATP30 ยังได้รับการต่อสัญญาเดิม สำหรับให้บริการรับส่งบุคลากร บริษัท บริดจสโตน ไทร์แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (BTMT) เป็นระยะเวลาอีก 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2561 -31 ธ.ค. 2565 ด้วยรถมินิบัสปรับอากาศจำนวน 5 คัน โดยในขณะนี้บริษัทอยู่ในขั้นตอนการจัดทำสัญญา รวมถึงจัดเตรียมความพร้อมในเรื่องของจำนวนรถและพนักงานขับรถเพื่อให้บริการ โดยจะเริ่มให้บริการและทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีนี้เป็นต้นไป

ข่าวดีดังกล่าว เสือปืนไวอย่างนักวิเคราะห์บางสำนัก ออกมาขานรับทันที ปรับราคาเป้าหมายของ หุ้น ATP30 เป็น 2.00 บาท เนื่องจากกำไรสุทธิที่จะเติบโตมากกว่ารายได้ ประกอบกับในปัจจุบัน ATP30 ครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 2% ทำให้มีช่องว่างในการเติบโตได้อีกมาก

เหตุผลของนักวิเคราะห์คือ คาดหมายว่า กำไรสุทธิในไตรมาส 3/2560 ของ ATP30 คาดอยู่ที่ 8 ล้านบาท เติบโต 49% จากไตรมาส 2/60 และเติบโต 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากเริ่มให้บริการบริษัทในเครือของ SCCC ในเดือน ก.ย. 2560 และให้บริการลูกค้ารายใหญ่ ได้แก่ บริษัท ออโตลิฟ (ประเทศไทย) โดยรถบัส 21 คัน ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย. 2560 ประกอบกับมีวันหยุดน้อย ทำให้โรงงานสามารถเปิดดำเนินงานได้เต็มเวลา

หากกำไรสุทธิเป็นตามคาด นักวิเคราะห์ประเมินว่า ในช่วง 9 เดือนแรกอยู่ที่ 15.50 ล้านบาท จะส่งผลให้กำไรสุทธิปี 2560 คาดจะอยู่ที่ 24 ล้านบาท เติบโต 11% จากปี 2559 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 22 ล้านบาท

กำไรที่เคยสะดุดครึ่งแรกของปีนี้ จึงเป็นแค่ปัญหา”ทางเทคนิค”ธรรมดาเท่านั้น เนื่องจากการการบันทึกบัญชีปกติของการรับรองรถเก่าให้ใช้งานได้ยาวขึ้นกว่าเดิม

บริษัทที่มีโมเดลธุรกิจแปลกกว่าใคร แต่เติบโตกับรายได้และกำไรต่อเนื่อง ไม่มีว่อกแว่ก ทำให้ราคาหุ้นของ ATP30 ตอนแรกที่เข้ามาในตลาด อาจจะมีหนี้ติดเข้ามาด้วยจากการทำลีสซิ่งมูลค่ามหาศาล ที่ต้องทยอยจ่ายกันมาเรื่อยๆ ทำให้เสน่ห์ถูกมองข้ามไปบางส่วน….กลายเป็นอดีตที่ไม่หวนคืนไปเสียแล้ว

ราคาหุ้นของ ATP30 ยามนี้ ที่ย่ำฐานแถวใต้ 1.80 บาท มานานหลายเดือน หลังจากวิศวกรรมการเงินเมื่อต้นปีก่อน จนกระทั่งราคาที่เคยโบยบินเหนือ 2.20 บาท ด้วยงบสวยหรูถูกกระทบบ้าง ก็ือเป็นราคาที่น่าสนใจเพราะ”ไม่แพง”

ที่บอกว่าไม่แพงเพราะ…..อัตรากำไรสุทธิที่เพิ่มมากกว่าอัตราเติบโตของรายได้ ตอกย้ำว่า ATP30 ยังอยู่ในเส้นทางของการครุ่นคิดหาทางสร้างรายได้มากขึ้นต่อเนื่อง เพราะโอกาสเปิดกว้างสำหรํบคนที่มองเห็น

ยิ่งแหล่งทำงานหลักของATP30 เต็มไปด้วยโรงงานอุตสาหกรรม…รวมทั้งอนาคตที่จะมีEEC ด้วยแล้ว โอกาสย่งเปิดกว้างชนิดแทบจะไร้ขีดจำกัดกันเลยทีเดียว..นอกจากจะสะดุดขาตัวเองเท่านั้น

หากหลายคนไม่เป็นความจำเสื่อมไปเสียก่อน จะต้องไม่ลืมว่าปีที่ผ่านมา อัตราผลอตบแทนคิดเป็นร้อยละของATP30 เป็นอันดับหนึ่งของตลาด…นะจะบอกให้

อันนี้ ห้ามลืมเด็ดขาด

อิ อิ อิ

Back to top button