WICE ติดปีกโตทางลัด
กิจการที่แปลงตัวเองจากบริษัทเอกชนเป็นบริษัทมหาชนจดทะเบียน ที่ตัดสินใจเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ล้วนมีเป้าหมายหลัก 2 ด้านเท่านั้นเองคือ 1) ลดต้นทุนทางการเงินจากหนี้ท่วม 2) เร่งการเติบโตทางลัดหรือ inorganic growth
แฉทุกวันทันเกมหุ้น
กิจการที่แปลงตัวเองจากบริษัทเอกชนเป็นบริษัทมหาชนจดทะเบียน ที่ตัดสินใจเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ล้วนมีเป้าหมายหลัก 2 ด้านเท่านั้นเองคือ 1) ลดต้นทุนทางการเงินจากหนี้ท่วม 2) เร่งการเติบโตทางลัดหรือ inorganic growth
ผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหารของ บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE จัดอยู่ในกลุ่มหลัง
นับแต่เข้าตลาดมาเมื่อปี 2558 WICE มุ่งมั่นกับการเร่งโตทางลัดชัดเจน เพื่อกลายร่างเป็นบริษัทข้ามชาติให้ได้ และประสบความสำเร็จน่าพอใจไปในปี 2559 เป็นก้าวแรกที่น่าสนใจ และปีนี้ 2560 ก็ถือเป็นก้าวที่สองน่าสนใจยิ่ง
ในก้าวที่สองนี้ WICE ได้แจ้งตลาดฯ ล่าสุดว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (31 ต.ค.) อนุมัติการทำสัญญาเข้าซื้อหุ้นสามัญของ UWT จำนวน 80,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 เหรียญดอลลาร์ฮ่องกง คิดเป็น 80% ของหุ้นสามัญทั้งหมด คิดเป็นมูลค่า 3.38 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า 115.03 ล้านบาท
UWT ดำเนินธุรกิจอยู่ในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง โดยรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ทั้งการนำเข้าและส่งออก โดยการขนส่งทั้งทางอากาศ และทางทะเล รวมถึงให้บริการรับจัดการขนส่งทางบกด้วยรถบรรทุก ซึ่งกลุ่มลูกค้าสำคัญของ UWT ได้แก่ กลุ่มผู้ผลิตในอุตสาหกรรมต่างๆ และกลุ่มผู้ค้าปลีก
ธุรกิจของ UWT จึงอยู่ในเส้นทางเดียวกันของ WICE ชนิดไร้รอยตะเข็บ…เป็นบูรณาการแนวตั้งที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้
นอกจากฮ่องกงแล้ว UWT ยังมีบริษัทย่อย คือ Guangzhou Universal Worldwide Transportation Limited (GUWT) ถือหุ้นอยู่ 100% ดำเนินธุรกิจในมณฑลกวางโจว ประเทศจีน รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ทั้งการนำเข้าและส่งออก โดยการขนส่งทั้งทางอากาศ และทางทะเล รวมถึงการให้บริการรับจัดการขนส่งทางบกและคลังสินค้า และมีสาขาอยู่ที่เมืองเซี่ยงไฮ้
ดีลที่เกิดขึ้นนี้ จะมีการใช้เงินสดที่บริษัทมีอยู่เข้าซื้อทั้งหมด โดยทยอยจ่ายเงินค่าหุ้นเป็น 2 งวด ได้แก่ 40 ล้านบาทในเดือนธันวาคมปีนี้ และอีกงวดจำนวน 75 ล้านบาท ภายในปี 2565
ข้อดีของการผ่อนชำระค่าหุ้น ทำให้ WICE คงสถานะเงินสดเอาไว้ได้ ไม่ต้องเพิ่มทุนและไม่ต้องวุ่นวายกับวิศวกรรมการเงินมากมาย แถมยังไม่ต้องก่อหนี้ยุ่งเหยิง
ที่สำคัญกว่าเรื่องเงิน อยู่ที่ช่วยยกระดับฐานะของ WICE เพื่อขยายโครงข่ายธุรกิจ Freight Forwarder เพิ่มอีก 1 เป็น 3 พื้นที่ ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ และแห่งใหม่ คือ ฮ่องกงและจีน
ยุทธศาสตร์เช่นนี้ นักวิเคราะห์พากันมองว่า เป็นกลยุทธ์เติบโต 2 ทิศทาง ได้แก่ organic ตามภาวะนำเข้าส่งออกของทั้ง 3 พื้นที่ และ inorganic จากการซื้อกิจการ (M&A) ธุรกิจเดียวกันในพื้นที่บริการแตกต่างกัน และได้เครือข่ายกว้างใหญ่ขึ้น
เหลือเพียงอย่างเดียวที่ต้องพัฒนา คือ การรักษาโมเมนตัมของการเติบโต ไม่ให้วัฒนธรรมองค์กรเกิดปัญหา “เลือดเป็นพิษ” เท่านั้นเอง
จะบอกว่า นี่คือ “ก้าวเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่” เพราะเป็นการต่อยอดของก้าวแรกที่เคยเกิดขึ้นในลักษณะและเงื่อนไขที่แตกต่างออกไป…ก็ไม่ผิดกติกาอะไร
ปี 2559 WICE โดยซีอีโอใหญ่ นางอารยา คงสุนทร และนายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ตัดสินใจร่วมกับกรรมการนำบริษัทเข้าซื้อกิจการของ Sun Express Logistics., Ltd. หรือ SEL ที่เป็นบริษัทผู้ดำเนินธุรกิจรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศในสิงคโปร์ โดยเน้นให้บริการทางอากาศในกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ให้กับผู้ผลิตรายใหญ่ระดับโลก ถือเป็นการซื้อกิจการที่มีขนาดใกล้เคียงสูสีกัน ไม่ต้องเจอปัญหา “ปลาเล็กกินปลาใหญ่” เพราะในปี 2558 มีรายได้หลักจากการให้บริการรวมอยู่ที่ 480 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 61 ล้านบาท ใกล้เคียงกับ WICE
ที่น่าสนใจคือ ความสามารถทำกำไรของ SEL คิดจากอัตรากำไรสุทธิต่อรายได้รวม มากถึง 12.57% ซึ่งถือว่าสูงกว่า WICE เอง
ดีลธุรกิจครั้งนั้น ทำให้หลังการควบรวมกิจการ ความสามารถในการทำกำไรของ WICE จะเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น คาดว่า อัตรากำไรสุทธิของ WICE จะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับกว่า 10% แต่ที่น่าสนใจกลับเป็นวิธีการในการซื้อขายกิจการด้วยวิศวกรรมการเงินที่น่าจับตา
ตามข้อตกลง WICE จะเข้าซื้อหุ้น SEL จำนวน 700,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 100% มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ ด้วยวิธีการแลกหุ้นสามัญ (Share Swap) และชำระด้วยเงินสด คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวม 424.97 ล้านบาท…แต่ไม่ได้จ่ายเงินสดทั้งก้อนในทันที
ผลลัพธ์จากความสำเร็จก้าวแรก ทำให้ WICE เติบโตทั้งรายได้และกำไรก้าวกระโดดทันที ไม่ต้องรอนาน
ก้าวที่สองที่ต่างออกไป อาจจะไม่ได้ทำให้ WICE เติบโตมากมายเหมือนก้าวแรก แต่มีฐานธุรกิจที่มั่นคงและลดความเสี่ยงมากขึ้นจากการเป็นบริษัทข้ามชาติที่นับวันเติบใหญ่
เสมือนติดปีกให้อนาคต…ยังไงก็ยังงั้น
อิ อิ อิ