INTUCH แม่(ยังสาว)เสน่ห์หด

2 เหตุผลที่บรรดานักวิเคราะห์ ”ขาเชียร์” พากันแนะนำ "ซื้อ” ในหุ้นบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH เพราะ 1) กำไรสุทธิไตรมาสสามที่ 2.9 พันล้านบาท สะท้อนว่า การฟื้นตัวทางธุรกิจกำลังดีวันดีคืนชัดเจน 2) ราคาหุ้นที่ปรับตัวลง ทำให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลคาดหวังเฉลี่ยในปี 2561-2562 สูงขึ้นเป็น 5.5% ต่อปี ...พร้อมปรับให้ ราคาเหมาะสมปี 2561 ที่ 69.25 บาท ต่อหุ้น …ไม่ได้ช่วยอะไรเลย


แฉทุกวันทันเกมหุ้น

2 เหตุผลที่บรรดานักวิเคราะห์ ”ขาเชียร์” พากันแนะนำ “ซื้อ” ในหุ้นบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH เพราะ 1) กำไรสุทธิไตรมาสสามที่ 2.9 พันล้านบาท สะท้อนว่า การฟื้นตัวทางธุรกิจกำลังดีวันดีคืนชัดเจน 2) ราคาหุ้นที่ปรับตัวลง ทำให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลคาดหวังเฉลี่ยในปี 2561-2562 สูงขึ้นเป็น 5.5% ต่อปี …พร้อมปรับให้ ราคาเหมาะสมปี 2561 ที่ 69.25 บาท ต่อหุ้น …ไม่ได้ช่วยอะไรเลย

ราคาหุ้นของINTUCH ยังก็ไม่กลับแถวๆใต้แนวต้านใหม่ล่าสุด 56.00 บาท หลังจากร่วงผล็อยหมดสภาพ เมื่อ ”ข่าวจริง” เรื่องผลประกอบการออกมาหมาดๆ ชนิดไม่ดูดำดูดี…ทำเอาบรรดานักเล่นหุ้นพื้นฐาน ไม่ดูกราฟเทคนิคงงเป็นไก่ตาแตก…กำไรเพิ่ม ทำไมหุ้นร่วงหนัก(วะ)

ที่ผ่านมา INTUCH ได้ชื่อว่าเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่มีอัตรากำไรสุทธิสูงที่สุดระดับหัวแถวมายาวนานในตลาดหุ้นไทย ชนิดที่ทำให้นักลงทุนที่ถือหุ้น นอนตาหลับด้วยดีเสมอมาถือเป็นหุ้น “แมวอ้วน” ที่วางใจได้ ไม่ว่าจะผ่านร้อน ผ่านหนาวมากน้อยแค่ไหน… เพราะผลตอบแทนในเงินลงทุน ไม่ว่าส่วนต่างราคาหุ้น หรือ เงินปันผล ล้วนอะร้าอร่ามเหลือเกิน

สถานการณ์ปีนี้แตกต่างไปกว่าเดิม เพราะบริษัทลูกทั้งหลาย ไม่สามารถเป็น ”ห่านที่ไข่เป็นทองคำ” ได้เหมือนเดิม หรือ ไข่ฟองเล็กกว่าเดิม…แม่ยังสาวที่เคยสวยฟู่ฟ่า เลยเสน่ห์หมองลง เพราะใบหน้าหมองคล้ำ ไม่ต๊ะติ๊งโหน่งเหมือนอดีต

ผลประกอบการไตรมาสสามทีผ่านมา ที่มีกำไรสุทธิ  2.93 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน และ 2%เทียกบับไตรมาสก่อน ถือว่าต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้เล็กน้อยที่ 2.95 พันล้านบาท ทำให้ยังไม่เพียงพอเรียกขาปะจำกลับมาสนใจซ้ำอีก

เหตุผลหลักคือ ผลประกอบการบริษัทลูกอย่าง แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC เพิ่มขึ้น แต่ผลประกอบของบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM ลดลง

ผลประกอบการของ ADVANC เพิ่มขึ้น 14.4% เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน เนื่องจากรายได้จากธุรกิจมือถือ และ บรอดแบนด์มีสายที่ดีขึ้น เป็นตัวหนุนผลประกอบการ และมีต้นทุนการดำเนินงานที่ลดลง

ส่วน THCOM รายงานผลประกอบการน่าผิดหวัง แม้รายได้จากดาวเทียม IPSTAR เพิ่มขึ้น โดยมีผลกำไร 65.00 บาท ลดลงมากถึง 85% เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน YoY โดยผลประกอบการที่ลดลง QoQ มาจากการยกเลิกสัญญาของออสเตรเลีย จนรายได้รวมของธุรกิจดาวเทียมมีอัตราที่ชะลอตัวลง เนื่องจากมีธุรกิจใหม่นอกประเทศมาเสริมช่วย

กำไรโดยรวมระยะ 9 เดือนที่ลดลงมาก ทำให้กำไรต่อหุ้นดูลดลงหมดเสน่ห์จริงๆ เหลือแค่หุ้นละ 2.78 บาท ซึ่งคาดว่า จะทำให้สิ้นปีมีกำไรสุทธิไม่เกิน 1.2 หมื่นล้านบาท และกำไรต่อหุ้นไม่เกิน 3.50 บาท (หากไม่มีกำไรพิเศษมาช่วย) ทำให้ค่าพี/อีล่าสุดแพงลิ่วมากถึง 16.01 เท่าเลยทีเดียว เทียบกับสิ้นปี 2559 ที่พี/อี แค่ 8.74 เท่า เท่านั้น…กดดันราคาห้ขึ้นยากในอนาคต

การประมูลคลื่นความถี่1800/900 MHz ในต้นปีหน้าและปัญหาเรื้อรังในประเด็นความเป็นเจ้าของของดาวเทียม THCOM 7/8 ของ THCOM เป็นปัจจัยกดดันการดำเนินงาน…. แม้จะได้การขาย CSL ของ THCOM ให้ ADVANC และ SINGTEL จะทำให้กำไรของ THCOM และ INTUCH เพิ่มขึ้น และทำให้ผลประกอบการดีขึ้น แต่ก็ป็นแค่ข่าวดีชั่วคราว…ทำนองเดียวกันกับตัวเลขกำไรพิเศษในไตรมาสสองของปีนี้ ที่รวมเอาตัวเลขกำไรทางบัญชี จากผลการปรับปรุงประมาณการหนี้สินของไอทีวีในไตรมาส 2/2559 จำนวน 3,691 ล้านบาท เข้าไว้ด้วย

กำไรลด ยังพอทำใจยอมรับได้ แต่ปันผลลดนี่สิ จะให้ทำใจยอมรับ..ช่างกระไรอยู่นะ

เงินปันผลครึ่งแรกของปี ลดลงเกือบครึ่งของปีก่อนจาก 2 เหตุคือ กำไรลดลง และนโยบายจ่ายปันผลใหม่ของ ADVANC จากเดิม 100% ของกำไรสุทธิต่อหุ้น เป็น 70% ที่เริ่มใช้เป็นครั้งแรกปีนี้ …ใครที่ว่าไม่มีผล ให้ดูเป็นกรณีศึกษาได้เลย

อดีตที่ผ่านมา INTUCH สามารถทำกำไรสุทธิได้ดีเป็นเรื่องปกตินับแต่กลุ่มเทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ของรัฐบาลสิงคโปร์เข้ามาถือหุ้นใหญ่ในต้นปี 2549…. นักลงทุนที่ถือหุ้นนอนตาหลับด้วยดีเสมอ ไม่ว่าจะผ่านสถานการณ์ร้อนๆหนาวๆมาแค่ไหน… ผลตอบแทนในเงินลงทุน ไม่ว่าส่วนต่างราคาหุ้น หรือ เงินปันผล (ที่มีนโยบายปันผล 100%) ล้วนอะร้าอร่ามตลอด

แถมบางปี มีปันผลพิเศษเสียอีก…เป็นเสน่ห์ที่ลืมไม่ลง

ยามนี้ สถานการร์ที่ยากลำบาก ก็ชวนให้ตั้งคำถามว่า เสน่ห์ที่ลดลงของINTUCH ทั้งจากกำไรที่หดหาย และการจ่ายปันผลที่ “เหนียวกว่าเดิม” จะมีเสน่ห์อะไรที่ดึงดูดนักลงทุนไม่ให้ทิ้ง INTUCH จนราคาหลุดไปใต้ระดับ 50.00 บาทได้

คำตอบเดียวคือ… กำไรพิเศษ และปันผลพิเศษ….อย่างอื่นไม่มีความหมาย…ยกเว้นแจกฟรี วอร์แรนต์ในอัตราที่จูงใจ

สำคัญที่ว่ากรรมการหน้าสลอนในบอร์ดของ INTUCH จะกล้านำวิศวกรรมการเงินพวกนี้มาใช้ …อ๊ะป่าว

ถ้าบอร์ดกล้าตัดสินใจ  ผู้ถือหุ้นก็คงกล้าถือหุ้น INTUCH ต่อไปอีกนานนนนนนน

อิ อิ อิ

Back to top button