ACAP ทีเด็ดเพิ่มมูลค่า
ราคาหุ้นบริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ACAP เด้งแรงเมื่อวานตอนเช้าทันที ตอกย้ำว่าโอกาสหลุดใต้ 14.00 บาท ไม่ควรเกิดขึ้น..และจะไม่เกิดขึ้น
แฉทุกวันทันเกมหุ้น
ราคาหุ้นบริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ACAP เด้งแรงเมื่อวานตอนเช้าทันที ตอกย้ำว่าโอกาสหลุดใต้ 14.00 บาท ไม่ควรเกิดขึ้น..และจะไม่เกิดขึ้น
ข่าวดี 2 ข่าวที่ น.ส.สุกัญญา สุขเจริญไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ACAP บอกมาประกอบด้วย
– การเจรจาขายที่ดินภูเก็ต 40 ไร่ทำเลดี โดยมูลค่าที่ประเมินเบื้องต้นอยู่ที่ 356 ล้านบาท ซึ่งเป็นทรัพย์ที่ยึดมาจากลูกหนี้ จากมูลหนี้ 215 ล้านบาทที่ประกอบการด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งถือว่าดีกว่าการปล่อยกู้ทั่วไปที่มีมาร์จิ้น 12-15% เพราะเป็นที่ดินเปล่า อยู่ติดกับโครงการของพฤกษา ทำเลดีมองเห็นวิวทะเล มีผู้สนใจเข้ามาติดต่อกันหลายรายแล้ว ซึ่ง ACAP จะพยายามขายให้ได้ในราคาที่ดีสุด…ถ้าขายออกไปได้ แล้วบันทึกคาดว่าน่าจะได้กำไรไม่ต่ำกว่า 50%
– เตรียมพิจารณาจ่ายปันผลพิเศษให้ผู้ถือหุ้น หากมีกำไรพิเศษจากการขายที่ดินภูเก็ต นอกเหนือจากกำไรปกติ
ความเชื่อมั่นดังกล่าว ผสมกับข้อเท็จจริงที่ซีอีโอสาวเก่งและแกร่ง ออกมาระบุว่าผลประกอบการปกติในไตรมาสที่ 4 จะยังต่อเนื่องจากไตรมาส 3 ที่มีกำไรสุทธิกว่า 59.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 126% และแนวโน้มผลประกอบการในปีหน้า จะเติบโตกว่าปีนี้อย่างแน่นอน หลังรวมกำไรจากการขายที่ดินภูเก็ตเข้าไปด้วย โดยในอีก 5 ปีข้างหน้ายอดสินเชื่อจะเติบโตแตะ 2 หมื่นล้านบาท จากการที่บริษัทมีทุนที่แข็งแกร่งทำให้ศักยภาพในการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการได้ครบทุกกลุ่ม ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่
พูดกันง่ายๆ คือ สถานการณ์ยังเดินหน้าไปตามปกติ…ไม่ได้มีปัญหาอะไรน่ากังวล ยกเว้นความไร้เดียงสาของนักลงทุนในตลาดหุ้นบางกลุ่มที่นอกจากไม่เข้าใจการดำเนินงานของบริษัท….ยังลืมใส่ตุ้มหู มีอาหาร “หูเบา” เชื่อในข้อกล่าวหาเลื่อนลอย…เช่นว่ามีลักษณะการทำธุรกิจปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มเดียวกัน เหมือนกับลีสซิ่งบางราย
รู้จักสาวเค้ก….แม่เสือสาว สุกัญญา น้อยเกินไป….ซะแล้ว
เรื่องนี้ น.ส.สุกัญญาเองก็บอกว่าไม่อยากต่อล้อต่อเถียง …นอกจากขอยืนยันว่าบริษัทดำเนินกิจการด้วยความโปร่งใส ซึ่งเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ในเรื่องนี้
ก่อนที่จะพากันเชื่อน้ำยา ซีอีโอสาวสวยว่ามีดีแค่ไหน… ก็คงต้องไปพิจารณาดูค่าพี/อีของ ACAP เมื่อเทียบกับงบสิ้นงวดไตรมาสสามปีนี้ ของ ACAP ที่ระดับ 14.81 เท่า จากราคาหุ้นล่าสุด เทียบกับสิ้นปี 2559 ที่ 61 เท่า จากราคาหุ้นเพียงแค่ 21 บาทเศษ บอกให้รู้ว่า ควรซื้อมากกว่าควรขาย…ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน
สาเหตุหลักอยู่ที่ผลประกอบการที่มีกำไรสุทธิและกำไรต่อหุ้นโดดเด่นอย่างมากเกินคาดเป็นฐานรากสำคัญ….โดยเฉพาะไตรมาสสามนี้ ที่เด่นจนต้องตะลึงตาค้าง
ที่สำคัญเป็นกำไรจากการดำเนินงานล้วนๆ ยังไม่ได้เกิดจากการตัดขายทรัพย์สินเก่าหรือทรัพย์สินที่ยึดจากลูกค้า….แบบขายผ้าเอาหน้ารอด
ในไตรมาสสาม ACAP รายงานงบการเงินที่สวยหรูแม้จะมีรายได้รวมไม่มากเพียงแค่ 103.18 ล้านบาท แต่ EBITDA ที่เหลือเชื่อ 81.80 ล้านบาท และกำไรสุทธิมากผิดความคาดหมายถึง 59.13 ล้านบาท
กำไรที่เกิดขึ้น ตรงกันข้ามกับคำบอกใบ้ล่วงหน้าที่ผู้บริหารของ ACAP ส่งสัญญาณทางลบมาก่อนหน้างบออกว่า…ในช่วงที่ผ่านมามีบริษัทลูกหนี้บางบริษัทที่ไม่สามารถชำระเงินคืนได้ตามกำหนด บริษัทได้บังคับทรัพย์มาแล้วบางส่วน และอยู่ระหว่างบังคับอีกรอบหนึ่ง แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ขายทอดตลาด เพราะต้องรอจังหวะเวลา….โอกาสที่กำไรลด อาจเป็นไปได้…ซึ่งไม่เกิดขึ้นจริง
กำไรสุทธิไตรมาสสามที่ทำให้กำไรสุทธิงวด 9 เดือน อร่ามตาอย่างมากถึง 223.66 ล้านบาท มากกว่ากำไรสุทธิตลอดทั้งปีของปี 2559 แล้วหากคิดจากรายได้ 561.30 ล้านบาท ก็ยังเติบโตอย่างมากเมื่อเทียบกับตลอดปี 2559 ที่มีรายได้รวมแค่ 421.15 ล้านบาท
ยิ่งกว่านั้น งบที่สุดสวยยังทำให้สัดส่วนทางการเงินอื่นของ ACAP เข้าข่าย “จิ๋วแต่แจ๋ว” ชนิดเถียงไม่ขึ้น นับแต่อัตรากำไรสุทธิที่ 39.85% อัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น 30.53% และอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ 11.32%….นี่ยังไม่รวมข่าวดีที่จะตามมาในเร็วๆ นี้
นั่นคือเงินสดที่จะเกิดจากการแปลงสิทธิ ACAP-W2 เป็นหุ้นสามัญที่จะเริ่มมีผลครั้งแรก (จากเงื่อนไขแปลงปีละ 2 ครั้งคือ 15 มิถุนายน และ 15 ธันวาคม) ในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ จำนวน 76.17 ล้านหน่วย ในราคาแปลงสิทธิแสนถูกคือ 6.00 บาท หากมีคนแปลงมาก จะยิ่งทำให้ค่า/อี และ พี/ดี ของ ACAP ลดลงไปอีกจากระดับปัจจุบัน
หากการแปลงสิทธิมากเกินคาด การเติบโตเพิ่มขึ้นของส่วนผู้ถือหุ้นที่ล่าสุดมาอยู่ที่ระดับ 1,198.73 ล้านบาท จะยิ่งโตพุ่งต่อไปข้างหน้าอีก ….ต่อยอดฐานทุน ทำให้ความสามารถในการก่อนี้มาปล่อยกู้ใหม่ทำได้สะดวกยิ่งขึ้น เพราะที่ผ่านมา ACAP ทำการก่อหนี้ระยะยาว มาปล่อยกู้ให้ลูกค้าในระยะสั้นอยู่แล้ว มีความเสี่ยงต่ำ
การได้เงินสดเข้ามาเพิ่มส่วนผู้ถือหุ้น พร้อมกับขยายความสามารถหาแหล่งเงินกู้เพิ่มเพื่อปล่อยเงินกู้เติบโตทะยานตามโอกาสที่เข้ามา มีหรือที่หุ้น ACAP…จะต่ำเตี้ยได้นาน
ใครใจแข็งได้ในยามที่ ไม่เข้าซื้อ ของดี ราคาถูก จะมาบ่นวันหน้าว่า “รู้งี้….” ก็คงเปล่าประโยชน์
อิ อิ อิ