เงาทักษิณที่กระทรวงคลัง

หลักในการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ที่ได้รับการยกเว้นภาษีนั้น จะต้องเป็นการขายของบุคคลธรรมดา และขายผ่านตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น


ขี่พายุทะลุฟ้า : ชาญชัย สงวนวงค์

หลักในการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ที่ได้รับการยกเว้นภาษีนั้น จะต้องเป็นการขายของบุคคลธรรมดา และขายผ่านตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น

หากเป็นการขายหุ้นของนิติบุคคล ไม่ได้รับการยกเว้น!

เมื่อเร็วๆ นี้ นายฮาราลด์ ลิงค์ ซีอีโอบีกริมก็ขายหุ้นบีกริม เพาเวอร์ยกล็อต 4% จำนวน 6.25 ล้านหุ้นในราคาต่ำกว่าตลาดที่ 25 บาทได้เงินไปกว่า 156 ล้านบาทเหมือนกัน

โดยไม่ต้องจ่ายภาษีเพราะเป็นการขายหุ้นผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ

ไม่เพียงแต่ผู้บริหารและเจ้าของบริษัทบีกริมฯหรอก บริษัทจดทะเบียนอื่นๆ หากนำหุ้นออกมาขายผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯก็ไม่ต้องจ่ายภาษีด้วยกันทั้งนั้น

คนในตระกูลเบญจรงคกุลที่ขายหุ้นยูคอมให้บริษัทเทเลนอร์ ก็ไม่ต้องจ่ายภาษีเช่นกันเพราะเป็นการนำหุ้นมาขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ

เว้นแต่คนในตระกูลชินวัตรเท่านั้น ที่นำหุ้นชินคอร์ปมาขายผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ได้รับการยกเว้นภาษีเฉกเช่นผู้บริหารหรือเจ้าของบริษัทจดทะเบียนโดยทั่วไป

และก็เป็น 1  ในกรณียึดทรัพย์นายทักษิณ ชินวัตร

ผมไม่ได้ต้องการจะแก้ต่างอะไรให้กับนายทักษิณนะครับ แต่ไม่เข้าใจตรรกะเรื่อง “หลักยกเว้น” ในเรื่องนี้จริงๆ

เรื่องนายทักษิณซุกหุ้นชินคอร์ปในนามกองทุนต่างประเทศ แล้วโอนให้โอ๊ค-เอมนำหุ้นมาขายเทมาเส็กในตลาดหลักทรัพย์ไทย ก็จัดการนายทักษิณในข้อหาซุกหุ้นและผิดกฎหมายในเรื่องไม่แจ้งทรัพย์สินแท้จริงไปสิครับ

แต่หากบอกว่า ซื้อขายกันเป็นจำนวนเงินที่เยอะตั้ง 7.6 หมื่นล้านบาทแล้วไม่ยอมเสียภาษีสักบาทเดียว เป็นการซื้อขายที่ไม่ถูกต้องชอบธรรม เข้าข่ายใช้ตำแหน่งอำนาจหน้าที่เพื่อเอื้อประโยชน์ตนเอง…

มันก็เป็นคนละเรื่องเดียวกันจริงๆ

กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เปิดช่องเองให้ซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์ได้รับการยกเว้นภาษี ก็ต้องว่ากันไปตามนั้น

ส่วนจะมีกระบวนการสลับซับซ้อนอย่างไร หรือขัดอารมณ์ความรู้สึกว่าเงินตั้งเยอะ ทำไมไม่ยอมจ่ายภาษีสักแดง ก็ต้องไปพลิกหาความผิดในกรณีอื่น

ถึงได้เกิดหลัก 2 มาตรฐานในตลาดหุ้นไทยมาจนตราบเท่าทุกวันนี้ไงว่า ผู้บริหารหรือเจ้าของบริษัทจดทะเบียนทั่วไป ขายหุ้นไม่ต้องเสียภาษีได้

แต่หากเป็นในเครือชินฯต้องยกเว้น!

ก็ไม่อยากจะฟื้นฝอยหาตะเข็บอะไรมากมายหรอกนะครับ เพียงแต่เรื่องนี้ยังมีการตามราวีล้างผลาญข้าราชการสรรพากรที่เกี่ยวข้องในยุคนั้นอย่างไม่จบไม่สิ้น

นายยุทธนา หยิมการุณ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลังในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรละเว้นปฏิบัติหน้าที่ไม่ประเมินการเก็บภาษีจากการซื้อขายหุ้นของนายทักษิณว่ามีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก

กำลังอยู่ระหว่างเรียกสอบข้อมูลจากคณะกรรมการชุดต่างๆ แต่ในส่วนของการยื่นอุทธรณ์นั้น คณะกรรมการฯมีข้อสรุปแล้วว่ามีการละเว้นปฏิบัติหน้าที่อย่างชัดเจน และได้ส่งเรื่องให้กรมสรรพากรตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงกับผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว

น่าสงสารข้าราชการประจำนะครับ “ผีทักษิณ” ยังเฮี้ยนไม่เลิก เลยต้องมานั่งรับเวรกรรมในสิ่งที่กฎหมายในตอนนั้นไม่ได้ระบุไว้เป็นความผิด รวมทั้งไม่ระบุข้อยกเว้นคนในตระกูลชินฯให้แจ้งชัดไว้ด้วย

เอาแต่มุ่งสงครามล้างเผ่าพันธุ์กันสถานเดียว บ้านเมืองถึงได้ติดหล่มความล้าหลังดักดานมาถึง 10 กว่าปีไง

ขุนคลังอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ ผู้ผ่านงานแบงเกอร์มาโชกโชน น่าจะรู้ซึ้งและเข้าใจในเรื่องนี้ดีนะ

Back to top button