เกี่ยวก้อยกิมมิค
“ใครไม่รู้จักน้องเกี่ยวก้อยถือว่าตกเทรนด์” โฆษกกลาโหมกล่าวถึงมาสคอตปรองดอง อย่างคงจะภาคภูมิใจ
ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง
“ใครไม่รู้จักน้องเกี่ยวก้อยถือว่าตกเทรนด์” โฆษกกลาโหมกล่าวถึงมาสคอตปรองดอง อย่างคงจะภาคภูมิใจ
ใช่เลย ในโลกโซเชียล ใครไม่ล้อน้องเกี่ยวก้อยถือว่าตกเทรนด์ตุ๊กตาหน้าดำยืมมาจากกองทัพบก ลงทุนซ่อม ซัก ตัดชุดใหม่ 8,000 บาท ด้านหนึ่งก็ต้องชมว่ารู้จักประหยัด แต่อีกด้านก็เหมือนรู้แก่ใจ ไม่รู้จะลงทุนไปทำไม เมื่อเป็นแค่กิมมิคที่ใครก็รู้ว่าไม่เป็นจริง
กระนั้น เท่าที่มีตัวเลขยืนยัน 3 ปี รัฐบาลใช้งบปรองดองไป 1,331 ล้านบาท ส่วนใหญ่ใช้ผ่าน กอ.รมน.
3 ปีผ่านไป ปรองดองอาจสำเร็จก็ได้ แต่เป็นในมุมกลับ ดังที่มีข้อเสนอ 2 พรรคใหญ่จับมือต้านนายกฯ คนนอก คนที่คุณก็รู้ว่าใคร แม้ไม่สำเร็จเพราะยังด่ากันไม่เลิก แต่ 2 พรรคก็รุมถล่มรัฐบาล คสช.โดยอัตโนมัติ ไม่เหมือนพรรคชาติพัฒนาที่ชม ครม.ใหม่งามตั้งแต่หัวจดบั้นท้าย
มีอย่างที่ไหน ตำรวจพบวัตถุระเบิดที่ฉะเชิงเทรา ใครเอาใส่กล่องไปทิ้งไม่รู้ อ้างว่าเชื่อมโยง “โกตี๋” ซึ่งมีข่าวตายไปแล้ว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็เอามาเป็นเหตุว่าปลดล็อกการเมืองยาก อาจต้องปลดล็อกใกล้เลือกตั้ง
พูดอย่างนี้ ไม่ใช่แค่แกนนำ นปช. พรรคเพื่อไทย วิรัตน์ กัลยาศิริ ฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ก็ออกมาโวยลั่น อย่าเอามาอ้างตีขลุม ยิ่งยืดเวลา เครดิต คสช.ยิ่งลดลง
ไม่แปลกอะไรที่ ปชป.กลายเป็นไม้เบื่อไม้เมารัฐบาล เพราะ 4 คำถาม 6 คำถาม แสดงความต้องการอยู่ยาวไปจนหลังเลือกตั้ง โดยจะสนับสนุนพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งวันนี้โผล่หัวมาแล้ว 1 รายคือพรรคของไพบูลย์ นิติตะวัน แม้ดูจะยังไม่ใช่ของจริง
ครม.สัญจรใต้ ว้ากชาวประมง ปะทะม็อบเทพา ก็กลายเป็นจุดเปลี่ยน ต่อท่าทีของนักเคลื่อนไหวภาคประชาชน NGO ซึ่งส่วนใหญ่เคยเป่านกหวีดปิดสนามบินโค่นระบอบทักษิณออกบัตรเชิญรัฐประหาร แต่ 3 ปีผ่านไป รัฐราชการเป็นใหญ่ ใช้อำนาจจัดการความขัดแย้งด้วยนโยบายแข็งกร้าว ก็ทำให้มาถึงจุดปะทุ ซึ่งต่อให้ยกเลิกโรงไฟฟ้าถ่านหิน ก็ไม่กลับไปเหมือนเดิม
แหม ขนาดพิภพ ธงไชย เรียกร้องให้ลุงตู่ลาออก จะเหมือนเดิมได้ไง ถึงแม้ไม่ค่อยมีใครแยแสพิภพ ธงไชย แล้วก็ตาม
แน่ละ ภาคประชาชนก็มี 2 ขั้ว นักศึกษาประชาชนประชาธิปไตยใหม่ ไผ่ ดาวดิน คัดค้าน คสช.มานานแต่ถูกตีตราว่าแดง พลัง 2 ข้างคงรวมกันยาก แต่ก็มีลักษณะเดียวกับ 2 พรรคคือต่างคนต่างกระหนาบ
กระนั้นในภาพรวม สถานการณ์รัฐบาลยังไม่ถึงขั้นย่ำแย่ เพราะกองทัพ รัฐราชการ อำนาจต่างๆ ยังจำเป็นต้องผนึกกำลังหนุนหลัง พล.อ.ประยุทธ์ แบบเดียวกับคนชั้นกลางระดับบนคนมั่งมี ภาคธุรกิจ กลัวความไม่มั่นคง มองไม่เห็นอนาคต ก็ยังอยากอยู่อย่างนี้ไปก่อน ขณะที่พลังทางสังคมอ่อนแอ ผู้คนสนใจการเมืองหรือเรื่องส่วนรวมน้อยกว่าเรื่องอื้อฉาวข่าวดารา
รัฐบาลจึงจะอยู่ไปอย่างนี้แหละ เดี๋ยวก็รอรับพี่ตูน เดี๋ยวก็เข้าเทศกาลท่องเที่ยวจับจ่าย ปัจจัยสำคัญยังเป็นเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ว่า ครม.ใหม่จะแก้ปัญหาระดับฐานรากได้ไหม ในขณะที่คนรุมวิพากษ์มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หวาดไหวกระทั่งเอาตัว “มาร์ค พิทบุล” ไปปรับทัศนคติ
อยู่ได้ ยื้อได้ ยังพอไหว แต่จะลงอย่างไร นั่นคือปัญหาใหญ่ ในภาวะที่ 2 พรรค 2 ข้างต่างรุมกระหนาบ การสืบทอดอำนาจผ่านการเลือกตั้งยิ่งเป็นไปได้ยาก จนไม่อยากปลดล็อกนั่นไง
ถ้าลงไม่ได้ ไม่สามารถเป็นไปตามโรดแมปมรสุมใหญ่ก็จะโหมเข้าใส่