“เปิดหุ้นราคาพุ่งเกิน 10%” เดือน พ.ย.60
การลงทุนในตลาดหุ้นไทยเดือนพฤศจิกายนจบสิ้นไปด้วยบรรยากาศค่อนข้างผันผวน เพราะเมื่อดัชนีขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ระดับ 1,720 จุด ก็เจอแรงเทขายทำกำไรออกมา จนทำให้ดัชนีหลุด 1,700 จุด แล้วรุดลงไปทดสอบแนวรับ 1,680 จุด และเมื่อลงมาแถวแนวรับดังกล่าวก็มีแรงซื้อกลับจนทำให้ดัชนีขึ้นไปทดสอบแนวต้านเดิม
เส้นทางนักลงทุน
การลงทุนในตลาดหุ้นไทยเดือนพฤศจิกายนจบสิ้นไปด้วยบรรยากาศค่อนข้างผันผวน เพราะเมื่อดัชนีขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ระดับ 1,720 จุด ก็เจอแรงเทขายทำกำไรออกมา จนทำให้ดัชนีหลุด 1,700 จุด แล้วรุดลงไปทดสอบแนวรับ 1,680 จุด และเมื่อลงมาแถวแนวรับดังกล่าวก็มีแรงซื้อกลับจนทำให้ดัชนีขึ้นไปทดสอบแนวต้านเดิม
โดยตลอดทั้งเดือนเกิดเหตุการณ์ซ้ำๆ 3 ครั้งด้วยกัน แต่สุดท้ายของเดือน ณ วันที่ 30 พ.ย. 2560 ลงมาปิดที่ระดับ 1,697.39 จุด และหลังจากนั้นเข้าช่วงเดือนธันวาคมดัชนียังเคลื่อนไหวบริเวณ 1,700 จุด ถือเป็นช่วงที่ยังต้องลุ้นว่าดัชนีจะไปทิศทางไหนต่อไป
ถ้ามองในทางบวกเป็นช่วงเวลาของคนที่ชอบเล่นเก็งกำไร และคนที่รอเข้าซื้อเก็บช่วงที่ดัชนีฯ ปรับตัวลดลง ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะทยอยซื้อหุ้นในพอร์ตช่วงนี้
สำหรับการเลือกซื้อหุ้นในช่วงนี้อาจต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ หากเข้าหุ้นผิดตัวถึงขั้นเจ็บกันเลยทีเดียว ทั้งนี้ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ทำการสำรวจพฤติกรรมความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในเดือนพฤศจิกายนมาให้นักลงทุนเก็บไว้พิจารณาในการลงทุนช่วงต่อไป โดยเฉพาะหุ้นที่ปรับตัวขึ้นหวือหวาสวนดัชนี
สำหรับหุ้นที่มีราคาปรับตัวขึ้น (% เปลี่ยนแปลง) คัดหุ้นที่ขึ้นเกิน 10% อาทิ NNCL, PCSGH, LANNA, PYLON, KTC, HTC, RICHY, ROJNA, BEAUTY, CENTEL, AMATA, SAT, TSC, THREL, ERW, SC, TTW, MODERN, TIW, ESTAR, BTC, M, MPIC, AYUD, AKR, SF, PK, SVH, CGD และ KSL ตามลำดับ
ตัวอย่าง 5 อันดับแรกสำหรับหุ้นราคาพุ่งแรง โดย 1) บริษัท นวนคร จำกัด (มหาชน) หรือ NNCL ราคาหุ้นพุ่งขึ้น 29.53% หรือขึ้นไป 0.44 บาท วัดจากราคาปิดในวันที่ 30 พ.ย. 2560 อยู่ที่ 1.93 บาท ขณะที่วันที่ 31 ต.ค. 2560 อยู่ที่ 1.49 บาท เป็นผลจากผลการดำเนินงานไตรมาส 3 และงวด 9 เดือน ปี 2560 มีกำไรเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนค่อนข้างมาก จึงมีการเข้ามาไล่ราคา
(2) บริษัท พี.ซี.เอส.แมชีน กรุ๊ปโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PCSGH ราคาหุ้นพุ่งขึ้น 29.32% หรือขึ้นไป 1.95 บาท วัดจากราคาปิดในวันที่ 30 พ.ย. 2560 อยู่ที่ 8.60 บาท ขณะที่วันที่ 31 ต.ค. 2560 อยู่ที่ 6.65 บาท เป็นผลจากโบรกฯเชียร์ “ซื้อ” หลังได้งานเพิ่มผลิตชิ้นส่วนรถ EV 2 โครงการมูลค่ารวม 2 พันล้านบาท
(3) บริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) หรือ LANNA ราคาหุ้นพุ่งขึ้น 29.17% หรือขึ้นไป 4.20 บาท วัดจากราคาปิดในวันที่ 30 พ.ย. 2560 อยู่ที่ 18.60 บาท ขณะที่วันที่ 31 ต.ค. 2560 อยู่ที่ 14.40 บาท เป็นผลจากโบรกฯเชียร์ “ซื้อ” รับราคาถ่านหินขาขึ้น-จับตาผู้ร่วมทุนในโรงไฟฟ้าอินโดฯสรุปสิ้นปีนี้
(4) บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON ราคาหุ้นพุ่งขึ้น 22.39% หรือขึ้นไป 3 บาท วัดจากราคาปิดในวันที่ 30 พ.ย. 2560 อยู่ที่ 16.40 บาท ขณะที่วันที่ 31 ต.ค. 2560 อยู่ที่ 13.40 บาท เป็นการเล่นเก็งกำไรหลังมีการคาดไตรมาส 4 ปี 2560 พลิกฟื้นเติบโตรับงานภาครัฐ-เอกชนหนุน และรายได้ปี 2561 แตะ 1 พันล้านบาทตามการรับรู้ฯ Backlog
(5) บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC ราคาหุ้นพุ่งขึ้น 21.82% หรือขึ้นไป 30 บาท วัดจากราคาปิดในวันที่ 30 พ.ย. 2560 อยู่ที่ 167.50 บาท ขณะที่วันที่ 31 ต.ค. 2560 อยู่ที่ 137.50 บาท เป็นผลจากผลการดำเนินงานไตรมาส 3 และงวด 9 เดือน ปี 2560 มีกำไรเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนค่อนข้างมาก จึงมีการเข้ามาไล่ราคา ประกอบกับผลบวกจากบริษัทตั้งเป้าปี 2561 กำไรสุทธิสูงขึ้น, ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรโต 15%, พอร์ตสินเชื่อโต 10% และ NPL ใกล้เคียง 1.5%
บริษัทที่เหลือดูได้จากตารางประกอบ
เชื่อว่าราคาของหุ้นตัวอย่างดังกล่าวยังมีโอกาสการขยับขึ้นต่อได้ จากปัจจัยต่างๆ เข้ามาสนับสนุน โดยเฉพาะข่าวที่เป็นบวกต่อตัวบริษัท
…