หุ้นเข้า SET50 และ JAS

วานนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ แจ้งรายชื่อเข้าออก SET50 และ SET100 ออกมาแล้ว รอบนี้มีการใช้ข้อมูลเช่น มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดฯ มูลค่าการซื้อขายว่าหุ้นมีสภาพคล่องแค่ไหน ฯลฯ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2559 ถึง 30 พฤศจิกายน 2560


ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

วานนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ แจ้งรายชื่อเข้าออก SET50 และ SET100 ออกมาแล้ว

รอบนี้มีการใช้ข้อมูลเช่น มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดฯ มูลค่าการซื้อขายว่าหุ้นมีสภาพคล่องแค่ไหน ฯลฯ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2559 ถึง 30 พฤศจิกายน 2560

และหุ้นที่จะเข้าคำนวณดัชนีฯ เริ่มมีผล 1 มกราคม 2561 – 30 มิถุนายน 2561

หุ้นตัวเต็งที่เข้า SET50 คือ SAWAD และ TPIPP ไม่หลุดโผจากทั้งหมดที่เข้า 6 ตัว

ทว่า SAWAD ดูเหมือนจะได้รับความสนใจมากสุดในรอบนี้

ทุกโบรกฯ ต่างคำนวณตัวเลขออกมาเหมือนกันว่ามีคุณสมบัติได้เข้าแน่นอน

ก่อนหน้านี้ SAWAD พลาดการเข้า MSCI โกลบอลฯ ไปอย่างฉิวเฉียด เพราะจริงๆ แล้วเข้าเกณฑ์เกือบทุกข้อ

แต่ขาดไปเพียงข้อเดียวคือ ต้องเป็นหุ้นใน SET50 ก่อน

มีการวิเคราะห์กันว่า หุ้นที่จะเข้า SET50 จะให้ผลตอบแทน (Capital gain) เฉลี่ย 3% ในช่วง 1 เดือนก่อนที่ตลาดหลักทรัพย์จะประกาศรายชื่อออกมา

ย้อนกลับไปดูราคาหุ้น SAWAD กันซักหน่อย

นับจากช่วงกลางเดือนตุลาคม 60

ราคาถูกไล่ขึ้นมาเรื่อยๆ และมาทำสถิติสูงสุดหรือนิวไฮที่ 73 บาท

ช่วงนั้นเป็นการเก็งกำไรว่าจะได้เข้า MSCI แน่นอน

แต่พอมีการประกาศออกมาและไม่มี SAWAD ราคาหุ้นถูกทิ้งหัวคะมำทันที และลงมาต่ำกว่า 60 บาท ก่อนที่จะค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นมายืนเหนือ 60 บาทอีกครั้ง

ราคาเป้าหมายโดยเฉลี่ยของหุ้น SAWAD

โบรกฯ ส่วนใหญ่ให้ไว้ระหว่าง 70 – 75 บาท

ระดับ พี/อี ปัจจุบัน อยู่ที่ 26-27 เท่า

มาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 68,772 ล้านบาท

ล่าสุด มีการเข้ามาไล่ราคากันอีกครั้งในช่วง 6-12 ธันวาคมที่ผ่านมา

แต่ก็ไม่ได้ขึ้นมารุนแรงเหมือนตอนที่คาดว่าจะได้เข้า MSCI

เข้าใจว่านักลงทุนเองก็คงกลัวๆ กันอยู่ เดี๋ยวจะผิดพลาดพากันหัวทิ่มอีก

มาดู TPIPP กันบ้าง

ราคาหุ้นยืนนิ่งเลย เหมือนถูกสะกดจิต

แม้จะเพิ่งขึ้น XD วันที่ 12 ธันวาคม เพื่อเตรียมจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.06 บาทต่อหุ้น

แต่ราคาหุ้นก่อนขึ้น XD และการที่เป็นหุ้นตัวเต็งเข้า SET50 ก็ไม่ค่อยตอบรับซักเท่าไหร่ ขึ้นๆ ลงๆ ทรงๆ ทรุดๆ อยู่แบบนี้

ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2560 เคยขยับขึ้นมาเหนือ 8.00 บาท

แต่ล่าสุดร่วงมาเหลือ 7.80-7.85 บาท

ดูเหมือนจะเป็นหุ้นโรงไฟฟ้าที่น่าสงสารมากสุด ไม่รู้ว่ามาจากสาเหตุอะไร ลองไปคาดเดากันเอาเอง

มีหุ้นอีกตัวคือ JAS ที่รอบก่อนๆ หน้านี้ทุกโบรกฯ คำนวณตรงกันว่าจะเข้า SET50 หรืออย่างน้อย SET100 แน่นอน

ทว่ารอบล่าสุดนี้กลับไม่กล่าวถึงกัน เหมือนยกธงขาวกันแล้ว

แต่ยังมีบางโบรกฯ เช่น บล.ทรีนีตี้ ที่บอกว่า JAS ควรได้เข้า SET100

เพียงแต่หากตลาดหลักทรัพย์อาจใช้ “ปัจจัยเชิงคุณภาพ” เข้ามาช่วยในการตัดสิน ทำให้ JAS ไม่ได้เข้าคำนวณในรอบนี้

Back to top button