ไม่เต็มใจขึ้น?

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*เมื่อวันศุกร์เป็นอีกครั้ง “โมนิก้า” มีโอกาสได้ไปพบเจอผู้คนมากมายหลายท่าน โดยทุกท่านพูดเหมือนกันว่า ตลาดหุ้นไทยไม่เต็มใจขึ้น? แรงซื้อถึงกะปริบกะปรอยอย่างไม่น่าเชื่อ และถ้าดูจากอาการชักดิ้นชักงอในบางจังหวะ บวกกับวอลุ่มหดหายไปในบางจังหวะ ย่อมเป็นสถานการณ์ที่ทำให้คนเล่นเกิดอาการจิตตกกันอย่างถ้วนหน้านั้น มันเป็นเรื่องที่ทำให้เดี๊ยนต้องฉุกคิดขึ้นมาในทันทีนะคะ

*เนื่องจากรูปแบบของการลงทุนมีแนวโน้มหงอยเหงาลงไปอีกครั้ง ซึ่งเป็นผลมาจากนักลงทุนซึมซับสถานการณ์ที่มีผลกับการซื้อหุ้นไปอย่างเต็มที่ จึงไม่มีอาการตื่นเต้นกับข่าวสารใหม่ๆ ที่เข้ามาเป็นระลอก แถมหุ้นขนาดใหญ่ก็โดนดักเทขายทำกำไรเป็นระยะ ส่งผลให้การเคลื่อนตัวของหุ้นยังเป็นลักษณะขึ้นแล้วลง เพียงแต่ฐานแนวรับใหม่เริ่มมีโมเมนตัมที่ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมเจ้าค่ะ

*ฉะนั้นการที่ดัชนีทรุดตัวลงไป 1,709.16 จุด ต่อจากนั้นเด้งขึ้นมาปิดที่ 1,717.69 จุด บวกไป 2.70 จุด ด้วยมูลค่า 5.18 หมื่นล้านบาท โดยตลอดทั้งวันพยายามขึ้นไปยืนเหนือแดนบวกตลอดเวลา มันทำให้ประเด็นคริสต์มาสแรลลี่กลายเป็นหมันในทันที และยังโยงไปถึงประเด็นของ window dressing อาจกลายเป็นเพียงประโยคบอกเล่าธรรมดาๆ ซึ่งอาจไม่มีนัยต่อการลงทุนในช่วงเวลาที่เหลืออยู่นะจ๊ะ

*ดูในรายของหุ้นพื้นฐาน แน่นปึ้ก BCPG  ทุกคนให้แวลูค่อนข้างสูง แต่กลับไม่มีใครไล่ราคาหุ้น “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังสำหรับคนที่อ่านเกมไม่ออก แต่สำหรับคนที่ถนัดเล่นรอบเป็นชีวิตจิตใจ การไต่ระดับขึ้นมาปิดที่ 23 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 2.22% ด้วยมูลค่า 848 ล้านบาท มันเป็นจังหวะของการตามไปดู เพราะยอดเก่าครั้งก่อนอยู่ที่บริเวณ 25 บาทนะจะบอกให้

*เหมือนกับในรายของ MTLS ไต่ระดับขึ้นมาปิดที่ 39.50 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 2.60% ด้วยมูลค่า 620 ล้านบาท ถือเป็นไซเคิลของหุ้นที่มาในแบบ “ช้าแต่มั่นคง” จึงเป็นหุ้นที่เหมาะสำหรับพวกนักลงทุนขาประจำ หรือพวกที่มีเงินเย็นเป็นการเฉพาะ เพราะหุ้นวิ่งขึ้นแบบ side way up เป็นเวลานาน..หากจินตนาการไม่ออก ลองไปดูกราฟช่วงต้นปี 2560 ที่ราคาหุ้นอยู่บริเวณ 25 บาท แล้วจะร้องอ๋อล้านเปอร์เซ็นต์…อิอิอิ

*เช่นเดียวกับในรายของ BANPU จู่ๆ ก็สำแดงฤทธิ์เดชแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ นักเล่นเลยจับไต๋ได้อย่างรวดเร็วว่า คนที่คอยปั่นกระแสเป็นพวกกองทุน เพราะวันที่ก๊วนดังกล่าวเข้าซื้อ หุ้นตัวนี้ไปแรงทุกที ล่าสุดเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมายืนอยู่ที่ 17.50 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 1.75% ด้วยมูลค่า 1.86 พันล้านบาท เกี่ยวข้องกับยอดซื้อของนักลงทุนสถาบันหรือไม่..ลองไปคิดกันดูนะคะ

*ส่วนที่ไม่ต้องคิดอะไรทั้งสิ้นอย่าง GPSC ถือเป็นกรณีศึกษาที่ต้องศึกษาตัวธุรกิจเป็นลำดับแรก ต่อจากนั้นค่อยมองถึงโอกาสทะยานขึ้นของราคาหุ้น หากเข้าใจโมเมนต์ดังกล่าวอย่างลึกซึ้งก็ไม่ต้องแปลกใจที่เห็นหุ้นขึ้นมายืนอยู่ที่ 64.50 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 2.80% ด้วยมูลค่า 1.37 พันล้านบาท เพราะหุ้นกำลังเข้าสู่โหมดทะยานไปข้างหน้า จึงไม่ควรรีรออะไรทั้งสิ้นพะยะค่ะ

*สำหรับในรายของ IRPC ก็อยู่ในโหมดของการยกฐานให้สูงขึ้นกว่าเดิม โดยรอบนี้ต้องการขึ้นไปยืนเหนือแนวต้าน 6.70 บาท ขณะที่ราคาล่าสุดอยู่ที่ 6.55 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือลงไป 1.50% ด้วยมูลค่า 692 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นความท้าทายของนักโหนกระแสอย่างแท้จริง แถมการขึ้นของหุ้นเที่ยวนี้มาด้วยเรื่องการเติบโตเพียวๆ จึงต้องเคาะขวาให้ทันชาวบ้านพะยะค่ะ

*ส่วนเสือสุ่มของ GGC หลายคนเห็นติ๋มๆ เงียบๆ สุดท้ายกระชากขึ้นมาปิดที่ 16.70 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 3%  ด้วยมูลค่า 460 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นโมเมนต์ที่ไม่ต้องคิดอะไรมากอีกต่อไป แค่ให้รู้ว่ายอดเก่าอยู่ที่บริเวณ 19 บาท การจะขึ้นไปถึงบริเวณดังกล่าวต้องมีแรงซื้อเยอะพอสมควร วันนี้หุ้นถึงต้องเดินหน้าขึ้นไปอีกเรื่อยๆ ไม่เช่นนั้นโมเมนตัมจะเสียนะจ๊ะ

*แพตเทิร์นดังกล่าวเทียบได้กับ SSP เคยออกอาการตุปัดตุเป๋มาพักใหญ่ๆ หลังจากขาดแรงส่งเพื่อยกฐานให้สูงขึ้น หุ้นก็เลยพักฐานที่แนวรับ 8.30 บาทประมาณหนึ่งสัปดาห์ ล่าสุดเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมายืนที่ 8.55 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 3.65% ด้วยมูลค่า 47 ล้านบาท พร้อมกับเตรียมตัวทดสอบแนวต้าน 8.90 บาท มันเป็นจังหวะที่ต้องใส่กันสุดลิ่ม หากไปต่อไม่ไหว ต้องเซตเกมใหม่แน่นอนค่ะ

*ตัวอย่างที่ดีสุดในยามนี้คงเป็นในรายของหุ้น FVC ทะยานขึ้นจากข่าวทุ่มเงิน 250 ล้านบาทซื้อแฟรนไชส์วุฒิศักดิ์คลินิกนั้น “โมนิก้า” มองเป็นเกมหุ้นที่นักเล่นต้องจับทางให้ดีเป็นพิเศษ เพราะของมันเคยเห็นกันมาแล้วว่า เจ้าก่อนก็เจ๊งไม่เป็นท่า เจ้านี้เก่งมาจากไหนถึงจะทำรุ่ง แถมราคาหุ้นตอบรับด้วยการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.62 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 8.25% ด้วยมูลค่า 125 ล้านบาท โอเวอร์แอคติ้งไหมล่ะค่ะ