พลิกแนวต้าน…เป็นแนวรับ
*วันก่อน “โมนิก้า” พยายามไม่สนใจการเคลื่อนตัวของดัชนีมากนัก เพราะดูอย่างไรก็คงไม่สามารถวิ่งผ่านแนวต้าน 1,720 จุดขึ้นไปอย่างสวยงาม แต่เอาเข้าจริงกลับมีแรงหนุนทำให้ดัชนีวิ่งทะลุแนวต้านดังกล่าวอีกครั้ง ก่อนจะปิดที่ 1,723.71 จุด บวกไป 6.02 จุด ด้วยมูลค่า 4.52 หมื่นล้านบาท พร้อมแสดงท่าทีขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,730 จุดในไม่ช้าแบบนี้ เดี๊ยนมองเป็นเกมโต้กลับเร็วที่นักเล่นต้องเร่งปรับตัวให้ทันในแต่ละวันเจ้าค่ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*วันก่อน “โมนิก้า” พยายามไม่สนใจการเคลื่อนตัวของดัชนีมากนัก เพราะดูอย่างไรก็คงไม่สามารถวิ่งผ่านแนวต้าน 1,720 จุดขึ้นไปอย่างสวยงาม แต่เอาเข้าจริงกลับมีแรงหนุนทำให้ดัชนีวิ่งทะลุแนวต้านดังกล่าวอีกครั้ง ก่อนจะปิดที่ 1,723.71 จุด บวกไป 6.02 จุด ด้วยมูลค่า 4.52 หมื่นล้านบาท พร้อมแสดงท่าทีขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,730 จุดในไม่ช้าแบบนี้ เดี๊ยนมองเป็นเกมโต้กลับเร็วที่นักเล่นต้องเร่งปรับตัวให้ทันในแต่ละวันเจ้าค่ะ
*เนื่องจากรูปแบบการเล่นเที่ยวนี้มีการอ่อยเหยื่อให้ตายใจ ต่อจากนั้นก็ดันหุ้นกันแบบเงียบๆ ส่งผลให้หุ้นบางตัวกระชากขึ้นมายืนราคาสูงอย่างง่ายดายนั้น “โมนิก้า” มองเป็นรูปแบบของแรงซื้อสะสมที่ทำให้หุ้นบางตัวมีวันนี้ ซึ่งทำให้ผู้รู้หลายท่านเริ่มคาดหวังจะได้เห็นตลาดหุ้นไทยขึ้นไปสร้างปรากฏการณ์ใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม จึงขออนุญาตทำตัวกลมกลืนให้เข้ากับสถานการณ์ของตลาดหุ้นตอนนี้เสียหน่อย..อิอิอิ
*สิ่งที่เดี๊ยนอยากจะเสริมอีกนิดหน่อยคือ เมื่อหุ้นบลูชิพพร้อมใจขึ้นอย่างเต็มเหนี่ยว แต่วอลุ่มกลับไม่ซัพพอร์ตอย่างที่ควรจะเป็น “โมนิก้า” ก็ไม่อยากให้แฟนคลับมองอะไรที่ยาวมากเกินไป และควรมองอะไรที่เป็นช็อตต่อช็อต เพื่อความคล่องตัวในการเข้าเล่น เพราะรูปแบบการเคาะขวายังไม่สุดซอย รวมทั้งคนเล่นส่วนใหญ่ยังยึดติดกับการเล่นสั้น จึงต้องว่ากันวันต่อวันนะคะ
*เหมือนกับในรายของ GULF ทะยานขึ้นมาปิดที่ 55.25 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 2.30% ด้วยมูลค่า 2.32 พันล้านบาท ก็มาจากความชัดเจนเรื่องรายได้ และเรื่องคดีความต่างๆ แรงซื้อถึงไหลกลับเข้ามาอีกรอบ “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง และถ้ามองไปข้างหน้าก็จะเห็นความสดใสซาบซ่านรออยู่เบื้องหน้า ย่อมเป็นช็อตที่น่าตามไปดูเรื่อยๆ ทุกวัน จึงไม่มีความจำเป็นต้องเหนียมอายอะไรทั้งนั้นจ้า
*เช่นเดียวกับในรายของ PTTEP พอทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น อะไรหลายอย่างก็ดูดีกว่าที่เป็นอยู่มาก ราคาหุ้นที่เคยซึมกระทือก็มีชีวิตชีวามากขึ้น หุ้นถึงวิ่งขึ้นมาปิดที่ 97.50 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 3.17% ด้วยมูลค่า 1.99 พันล้านบาทแบบชิวๆ “โมนิก้า” ถึงอยากให้กองเชียร์ตามไปลุ้นให้หุ้นวิ่งทะลุ 100 บาท เพื่อเป็นการเปลี่ยนฐานแนวรับใหม่ให้สูงขึ้นอย่างบูรณาการไงล่ะค่ะ
*อีกหนึ่งช็อตที่น่าจับตาต้องยกให้ IVL ก็มีมูฟเมนต์ที่น่าสนใจไม่น้อยกว่ารายข้างต้น บวกกับค่า P/E ยังอยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้สบายๆ หลังบริษัทมีแผนปั๊มรายได้ที่ชัดเจน และยังเดินหน้าเทกโอเวอร์กิจการเพื่อต่อยอดกำไรให้สวยหรู ราคาหุ้นถึงวิ่งขึ้นมายืนอยู่ที่ระดับ 53.75 บาท บวกไป 0.75 บาท ด้วยมูลค่า 1.47 พันล้านบาท จึงเป็นอีกหนึ่งหุ้นที่กำลังเปลี่ยนฐานเช่นกันเจ้าค่ะ
*ส่วนรายที่เปลี่ยนฐานเสร็จสมบูรณ์ และยังเป็นหุ้นสุดรักของ “โมนิก้า” มาแต่ไหนแต่ไรนั้น คงต้องยกตำแหน่งดังกล่าวให้กับ EA แต่เพียงผู้เดียว หลังหุ้นทะยานขึ้นมาทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 51.50 บาท แต่หลังจากนั้นโดนกดลงมาอยู่ที่ 49.50 บาท ลบไป 0.25 บาท ด้วยมูลค่า 582 ล้านบาท เดี๊ยนมองเป็นเรื่องของการทดสอบกำลังใจ เพื่อหุ้นจะไต่ระดับขึ้นไปอย่างมั่นคง..จริงหรือไม่? ลองถาม “น้องอมร” ดูกันเองแล้วกันค่ะ
*อีกหนึ่งตัวที่ต้องจับตาดูให้ดีๆ “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่หุ้น IRPC ทะยานขึ้นร่วมสัปดาห์ พร้อมด้วยแรงซื้อที่หนาแน่น จนหุ้นทำราคาสูงสุดในรอบ 10 ปี มันเป็นเรื่องที่ทำให้หัวใจของเดี๊ยนพองโตอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งเห็นราคาหุ้นยืนปิดที่ 6.80 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 3.80% ด้วยมูลค่า 1.25 พันล้านบาท ยิ่งทำให้การเล่นวันนี้สนุกตื่นเต้นขึ้นไปอีกขั้นพะยะค่ะ
*เมื่อทุกอย่างกลับมาเล่นบนพื้นฐาน ESSO จึงกลายเป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่ถูกดันขึ้นมาเล่นแบบสุดลิ่มทิ่มประตู เพราะเมื่อมองดูจากค่า P/E 8.50 เท่า ย่อมกลายเป็นหุ้นที่นักลงทุนขาประจำกระโจนเข้าใส่ไม่ยั้ง วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นมาทำ all time high นับตั้งแต่เข้าตลาดหุ้นเมื่อ 6 พ.ค. 2551 ด้วยการปิดที่ระดับ 17.50 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 4.80% ด้วยมูลค่า 914 ล้านบาท มันทำให้เดี๊ยนคิดว่าน่าจะมีช็อตไหลตามน้ำต่ออีกนะคะ
*เม้าท์ถึงหุ้นตัวใหญ่ๆ มาเยอะพอสมควร “โมนิก้า” ขอย้อนกลับมาดูอดีตดาวเด่น BWG ทะยานขึ้นมาปิดที่ 1.47 บาท บวกไป 0.07 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่า 104 ล้านบาท น่าจะเป็นเพียงการรีบาวด์หลังจากร่วงลงมาเป็นเวลานาน จึงกลายเป็นช็อตที่นักเล่นต้องอ่านจังหวะเคาะขวาให้ดีๆ เพราะตัวเลขกำไรไม่ได้เลิศเหมือนเมื่อก่อน และค่าพีอีก็ยังอยู่ในระดับสูงเจ้าค่ะ
*หากยังไม่รู้ว่าเรื่องนี้สอนบทเรียนให้รู้อะไรบ้าง “โมนิก้า” ขอแนะนำให้ดูตัวอย่างจากหุ้น AU ถูกดันขึ้นไปถึง 15.40 บาทอย่างรวดเร็ว ต่อจากนั้นมีมือที่มองไม่เห็นสาดหุ้นลงมาเรื่อยๆ จนสุดท้ายหุ้นลงมานอนปิดที่ระดับ 13.50 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 4.90% ด้วยมูลค่า 519 ล้านบาท เดี๊ยนก็ยังมองว่าราคาหุ้นลงน้อยเกินไปอยู่ดี เพราะขนาดลงในระดับนี้ ค่า P/E ยังอยู่ที่ระดับ 97.50 เท่า มันไม่ใช่จังหวะช้อนเลยพับผ่าสิ!