โยกเงิน
*การปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องของดัชนีดาวโจนส์อาจทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกมีอาการระริกระรี้ตามไปด้วยนั้น “โมนิก้า” บอกได้ทันทีว่า มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับจิตวิทยาการลงทุนมากกว่าปัจจัยพื้นฐาน ถึงทำให้ดัชนีเดินหน้าขึ้นไปอย่างไม่ลดราวาศอก เพราะแรงขับเคลื่อนหลักที่ทำให้ดัชนีเดินมาถึงตรงนี้ มันเกิดจากเรื่องสภาพคล่องทางการเงินที่ล้นโลกไงล่ะค่ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*การปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องของดัชนีดาวโจนส์อาจทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกมีอาการระริกระรี้ตามไปด้วยนั้น “โมนิก้า” บอกได้ทันทีว่า มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับจิตวิทยาการลงทุนมากกว่าปัจจัยพื้นฐาน ถึงทำให้ดัชนีเดินหน้าขึ้นไปอย่างไม่ลดราวาศอก เพราะแรงขับเคลื่อนหลักที่ทำให้ดัชนีเดินมาถึงตรงนี้ มันเกิดจากเรื่องสภาพคล่องทางการเงินที่ล้นโลกไงล่ะค่ะ
*นั่นหมายความว่า นี่เป็นเพียงการโยกเงินไปมาเพื่อรอวันเวลาที่ฟองสบู่แตก ซึ่งเป็นเรื่องที่เกจิอาจารย์ดังหลายสำนักเริ่มมีการพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ดูเหมือนคำท้วงติงดังกล่าวจะไม่สัมฤทธิ์ผลดั่งหวัง เพราะฝูงชนจำนวนมากยังเพลิดเพลินกับการเห็นดัชนีไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ จึงไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องอื่นมากกว่าการเคาะขวาแบบรัวๆ เดี๊ยนถึงมองการขึ้นของหุ้นเที่ยวนี้เป็นเพียงภาพมายานะจะบอกให้
*เมื่อทุกอย่างถูกตั้งไว้บนความเชื่อว่า ทุกอย่างจะสวยหรูไปหมด ก็ต้องกลับมาดูพื้นฐานของตลาดหุ้นไทยซัพพอร์ตการขึ้นของดัชนีมากน้อยขนาดไหน? เพราะการที่ดัชนีขึ้นมายืนอยู่ที่ 1,732.31 จุด บวกไป 8.60 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.57 หมื่นล้านบาท ย่อมได้รับแรงผลักดันจากความมั่นใจอะไรบ้างอย่าง ซึ่งวันนี้โฟกัสไปที่เรื่องของผลการดำเนินงานเป็นหลัก จึงต้องติดตามข่าวสารของหุ้นแต่ละตัวกันอย่างใกล้ชิดนะคะ
*ตัวแรกที่ “โมนิก้า” อยากให้แฟนคลับติดตามให้ดีเป็นพิเศษ คงโฟกัสไปที่พี่เทพ PTTEP เป็นอันดับแรก หลังหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 99 บาท บวกไป 1.50 บาท ด้วยมูลค่า 2.27 พันล้านบาท มันส่อให้เห็นว่าหุ้นกำลังจะเทคตัวผ่านแนวต้าน 100 บาทในไม่ช้าใช่หรือเปล่า? หากสถานการณ์ออกมาเป็นเช่นนั้นจริงๆ นี่เป็นจังหวะที่นักเล่นต้องวิ่งเข้าใส่แบบไม่ต้องรีรออะไรทั้งนั้น..จริงหรือไม่ วันนี้รู้กันจ้า!
*เหมือนกับในรายของ RS กลายเป็นหุ้นคุณภาพที่รายใหญ่ และรายย่อยต่างก็หมายปอง โดยแรงผลักดันที่ทำให้หุ้นขึ้นมายืนที่ 25.25 บาท บวกไป 0.95 บาท หรือขึ้นไป 3.90% ด้วยมูลค่า 248 ล้านบาท ก็มาจากการเข้าคำนวณในดัชนี FTSE SET Mid Cap Index ซึ่งมีผลอย่างเป็นทางการเมื่อ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา บวกกับปีหน้าจะมีการปรับผังรายการเพื่อเพิ่มยอดขายและกำไร จึงเป็นช็อตที่ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดนะคะ
*เช่นเดียวกับในรายของหุ้นลูก JAS-W3 โผล่ตัวเลขบิ๊กล็อตกว่า 2 พันล้านบาท พร้อมกับปรากฏข่าวลือ “บล.ไทยพาณิชย์” ดอดทำรายการซื้อหุ้นจาก “พิชญ์” มันทำให้ผู้คนมากมายเกิดอาการงงเป็นไก่ตาแตกไปตามกัน แต่สำหรับม้าแก่ชำนาญทางน่าจะพอมองเกมออก “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นพยายามเหลือบมองหุ้นพ่อดอกมะลิให้ดี เพราะการขยับของหุ้นแม่มีนัยสำคัญบางอย่างแน่นอนจ้า!
*เม้าท์ถึงจุดนี้ต้องย้อนกลับมาดูที่ SQ หุ้นเจ้าปัญหากันสักนิดหนึ่ง เพราะที่ผ่านมาถูกปูภาพด้วยเรื่องราวอันสวยหรู พอเอาเข้าจริงกลับออกทะเลไปแบบกู่ไม่กลับ แถมงานใหญ่ยังหลุดลอยไปจากมือแบบน่าเจ็บใจ “โมนิก้า” ถึงมองไม่เห็นลู่ทางที่จะทำให้หุ้นตัวนี้มีสตอรี่ growth มาบิ้วด์อารมณ์นักเล่น วันนี้ถึงมองไม่เห็นความจำเป็นในการกระโจนเข้าไปเล่นในช่วงที่ทุกอย่างยังไม่นิ่งนะคะ
*เหมือนกับกรณีของหุ้นเหล็ก MCS มีปัญหาความขัดแย้งภายในเกิดขึ้นอย่างรุนแรง จนไม่มีทางที่จะอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข ซึ่งนำไปสู่การไม่เผาผีอย่างเป็นทางการนั้น “โมนิก้า” ถึงมองเรื่องนี้เป็นหนังเรื่องยาวที่ต้องติดตามดูให้ดี เพราะรูปแบบมันนำไปสู่ “มิตรกลายเป็นศัตรู” บริษัทจะต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้การเข้าลงทุนในช่วงนี้เสี่ยงสูงนะจะบอกให้
*หุ้นอันตรายที่ “โมนิก้า” อยากให้แฟนคลับพึ่งระวังให้ดี “โมนิก้า” ขอแนะนำให้ดู RSP เป็นตัวอย่างสำหรับการเล่นในเที่ยวนี้ เพราะมีแรงเทขายสาดหุ้นออกมาแบบไม่หยุดหย่อน จนหุ้นหลุดราคา IPO 5.80 ลงมาอย่างง่ายดาย บรรดาเกจิอาจารย์ดังเลยพากันสงสัยว่า ขนของจากไหนมาขายกันเยอะเหลือเกิน วานนี้หุ้นถึงลงมายืนอยู่ที่ 4.98 บาท ลบไป 0.32 บาท หรือลงไป 6% แบบนี้..คงต้องมีคนออกมาให้คำตอบกับสังคมแล้วล่ะค่ะ
*อีกหนึ่งตัวที่ต้องระวังให้ดี “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่ THANA มีแรงซื้อเข้ามาดันหุ้นเป็นจำนวนมาก จนหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.70 บาท บวกไป 0.62 บาท หรือขึ้นไป 29.80% ด้วยมูลค่า 127 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่ทำให้รู้ว่า เกมหุ้นเริ่มปะทุขึ้นมาอีกครั้ง โดยกิมมิคที่ถูกนำมาใช้เที่ยวนี้ก็เป็นแบบการเข้าทำเร็ว ซึ่งไม่มีใครรู้ว่า ตอนจบของเกมจะออกมาเป็นอย่างไร? จึงไม่ควรเผลอใจไปกับเรื่องดังกล่าวมากนักนะคะ
*คล้ายกับกรณีที่เกิดขึ้นกับ NCL ถูกดันขึ้นมาเล่นพักหนึ่ง พอมาเห็นอีกทีพบว่าหุ้นไหลลงมายืนอยู่ที่ 2.48 บาท ลบไป 0.52 บาท หรือลงไป 17.30% มันเป็นช็อตที่ทำให้ “โมนิก้า” เกิดอาการอึ้งกิมกี่ไปพักใหญ่เหมือนกัน เพราะตามรูปแบบมันไม่น่า “จบเร็ว จบหนัก” จึงกลายเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาของการเล่นแบบสุดซอย ต่อจากนั้นก็บาดเจ็บกันอย่างถ้วนหน้าไงล่ะค่ะ