สังคมข่าวหุ้น
* เมื่อวานขาเข้าซื้อสุทธิทางบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ตะลุยเก็บไป 1,190 ล้านบาท ตามด้วยสถาบันที่เข้าเก็บ 308 ล้านบาท ส่วนขาเทขายสุทธิรายย่อยสาดออก 1,241 ล้านบาท และต่างชาติร่วมเทขายไป 257 ล้านบาท
สังคมข่าวหุ้น : นิวส์เวฟ
* เมื่อวานขาเข้าซื้อสุทธิทางบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ตะลุยเก็บไป 1,190 ล้านบาท ตามด้วยสถาบันที่เข้าเก็บ 308 ล้านบาท ส่วนขาเทขายสุทธิรายย่อยสาดออก 1,241 ล้านบาท และต่างชาติร่วมเทขายไป 257 ล้านบาท
* เริ่มกันด้วยหุ้นแรกวันนี้ขอโฟกัสความน่าสนใจไปสู่หุ้นบลูชิพไซส์ใหญ่ SCC หรือ พี่ปูนใหญ่ ของเรานั่นเอง ล่าสุดประกาศข่าวดีสั่งลุยแผนควบรวม 5 บริษัทธุรกิจกระเบื้องเซรามิกเพื่อให้กลายเป็นหนึ่งเดียวกัน
* เบื้องต้นกระบวนการทั้งหมดจะแล้วเสร็จแถวช่วงเดือน ส.ค.ปี 61 ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ เท่ากับจากนี้ไป SCC จะได้ “เรือธงธุรกิจกระเบื้องเซรามิก” รายใหม่มาครอบครองในมือทันที หลายคนอาจตั้งคำถามว่า ก่อนควบรวม 5 บริษัทที่พูดมา ธุรกิจกระเบื้องก็อยู่ภายใต้การดูแลของปูนใหญ่ แล้วแบบนี้จะควบรวมไปทำไมหรือจะเกิดผลดีอย่างไร
* งานนี้ ถ้าเจาะลึกลงไปจะเห็นได้ชัดเจนว่า ผลประโยชน์การควบรวมธุรกิจที่ชัดเจนมากสุดในครั้งนี้ คือ การได้อำนาจต่อรองในตลาดสูงขึ้นมหาศาล เพราะหลังควบรวมแล้วเท่ากับสินค้าในตลาดที่มีชื่อเสียงระดับชั้นนำและได้ยินติดหูประจำ เช่น COTTO-SOSUCO-CAMPANA จะกลายเป็นสินค้าที่อยู่ภายใต้จุดศูนย์กลางแห่งเดียว ขณะเดียวกันยังสร้างความเป็นระเบียบต่อการบริหารจัดการ พร้อมกับลดความซับซ้อนในเชิงโครงสร้างธุรกิจ
* ดังนั้น การทำตลาดต่อไปของ SCC ทั้งในไทยหรือต่างประเทศจากนี้ ได้ฐานทัพสินค้าขนาดใหญ่ยิ่งขึ้น ซึ่งหลังควบรวมเสร็จแล้ว บริษัทใหม่ (ชื่อเรียกไม่เป็นทางการ) ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า จะอัพเกรดเป็นบริษัทที่มีทุนจดทะเบียนหรือมาร์เก็ตแคปสูงขึ้นแบบทันตา พร้อมกับมีศักยภาพสร้างรายได้ระดับหมื่นล้านบาทต่อปี จึงถือเป็นปัจจัยบวกชิ้นใหญ่ของ SCC ที่ทิ้งไพ่เด็ดออกมาส่งท้ายปี 60 พร้อมกับส่งผลบวกต่อเนื่องต้อนรับงวดปี 61 ที่กำลังจะมาถึง
* หุ้น PTTEP เผลอแวบเดียววิ่งเฉียดระดับ 100 บาทกันไปแล้ว ใครเข้าสะสมในช่วงที่ผ่านมาตามที่เคยทักทายกันไว้ คงได้ฟันกำไรกันไปถ้วนหน้า แน่นอนถึงแม้ PTTEP ในปัจจุบันยังมีหลายเรื่องราวให้ต้องติดตามและยังมีปัจจัยเสี่ยงในเชิงอุตสาหกรรมและภาพรวมธุรกิจให้ท้าทายความสามารถหลายประเด็น
* แต่ถ้าดูจากแผนลงทุน 5 ปี 5 แสนล้านบาท ที่ประกาศออกมาล่าสุด รวมถึงบริษัทเองยังมีเงินสดติดตัวตุนในกระเป๋าอีกร่วม 1.3 แสนล้านบาท จึงตอกย้ำให้เห็นว่า PTTEP ยังคงเชื่อมั่นในธุรกิจปิโตรเลียมไม่มีเปลี่ยน และยังมีศักยภาพเติบโตได้ดีในอนาคต ขณะเดียวกันหากมีธุรกิจที่น่าสนใจหรือโครงการเด็ดๆ หลุดออกมา พี่เทพในฐานะยักษ์ใหญ่ E&P สัญชาติไทย ก็พร้อมกระโจนเข้าคว้าในทันที โดยเฉพาะกรณีการเปิดประมูลแหล่งบงกช-เอราวัณ ที่กำลังคืบหน้าไปได้ต่อเนื่อง
* ซึ่งการประมูลครั้งนี้หาก PTTEP คว้ามาได้จริง ในเบื้องต้นวงการเงินคาดว่า จะเพิ่มอัพไซด์หุ้นไม่น้อยกว่า 5-6 บาทเลยทีเดียว ส่วนในระยะสั้นยังมีปัจจัยบวกจากงบปี 60 จะมีโอกาสฟันกำไรสูงถึง 1.7 หมื่นล้านบาท เนื่องจากงวดไตรมาส 4 จะพลิกกลับมามีกำไรแข็งแกร่ง ไร้ปัจจัยลบถ่วงกดดันเหมือนไตรมาส 3 เพราะเดินเครื่องผลิตและขายปิโตรเลียมในระดับสูงได้ตามปกติเช่นเคย
* หุ้น CPT เข้าเทรดวันแรกแม้จะปิดลบอยู่ที่ 2.08 บาท ต่ำกว่าราคาจองไอพีโอ 2.30 บาท แต่ในเชิงพื้นฐานนับว่า มีสตอรี่เด่นน่าสนใจตุนไว้ไม่เบา และจะสามารถช่วยสนับสนุนเทรนด์ราคาหุ้นในอนาคต โดยเฉพาะกรณีบริษัทเตรียมตัวเข้าร่วมประมูลงานใหม่จากทั้งภาครัฐ-เอกชน คิดเป็นมูลค่ารวมสูงถึง 1,600 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมั่นใจว่า จะมีโอกาสได้รับงานเข้ามาเยอะ ส่วนฐานรายได้บริษัทเองยังคงรักษาการเติบโตได้ต่อเนื่อง ซึ่งนี่แหละคือจุดแข็งที่ช่วยหนุนหุ้น CPT ระยะยาว
* ปิดท้ายด้วยหุ้นน้องใหม่รายล่าสุด VCOM หรือ วินท์คอม เทคโนโลยี วันนี้ถึงคิวเข้าเทรดในตลาด mai เป็นครั้งแรก นับว่าเป็นอีกหนึ่งในหุ้นพื้นฐานโดดเด่น สะท้อนได้จากงบ 9 เดือนแรก ที่กวาดกำไรสุทธิไปแล้วถึง 44 ล้านบาท มากกว่าช่วงปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 25 ล้านบาท และยังสูงกว่าภาพรวมทั้งปี 59 ที่มีกำไรสุทธิ 40 ล้านบาท ด้วยซ้ำไป ใครมีหุ้นแล้วในมือขออวยพรให้โชคดีรับกำไรกันถ้วนหน้า ส่วนคนพลาดเป็นเจ้าของหุ้นช่วงเปิดจองไอพีโอ ไม่ต้องเสียดาย เพราะตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปสามารถเข้าเก็บในกระดานกันได้แล้วนั่นเอง *