CHO มหากาพย์ 11 ปี
11 ปีที่เสียเวลาไป และการเปิดประมูลซื้อรถเมล NGV 489 คันของ ขสมก.ที่ล้มเหลวมาแล้ว 7 ครั้ง ทำให้ท่าทีของคนที่เคยทำงานใหญ่โตมาก่อนอย่าง ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ไม่ต้องรอความล่าช้า ของบอร์ด ขสมก.ที่เอ้อละเหยลอยชายมายาวนานกับโครงการดังกล่าว เปิดการแถลงข่าวว่า พร้อมจะเซ็นกับเอกชนที่เสนอตัวเข้ามาในการประมูลครั้งที่ 8 ในเร็ววันนี้ ..เพื่อจะได้รู้กันว่า ความรวดเร็วนั้น มีต้นทุนต่อกว่าความล่าช้า
แฉทุกวันทันเกมหุ้น
11 ปีที่เสียเวลาไป และการเปิดประมูลซื้อรถเมล NGV 489 คันของ ขสมก.ที่ล้มเหลวมาแล้ว 7 ครั้ง ทำให้ท่าทีของคนที่เคยทำงานใหญ่โตมาก่อนอย่าง ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ไม่ต้องรอความล่าช้า ของบอร์ด ขสมก.ที่เอ้อละเหยลอยชายมายาวนานกับโครงการดังกล่าว เปิดการแถลงข่าวว่า พร้อมจะเซ็นกับเอกชนที่เสนอตัวเข้ามาในการประมูลครั้งที่ 8 ในเร็ววันนี้ ..เพื่อจะได้รู้กันว่า ความรวดเร็วนั้น มีต้นทุนต่อกว่าความล่าช้า
ดร.ไพรินทร์ ระบุว่า ได้รับรายงานจากคณะกรรมการ ขสมก. ที่มีนายณัฐชาติ จารุจินดา เป็นประธาน ว่า เมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา บอร์ดได้มีการนัดประชุมพร้อมลงมติอนุมัติผลการประกวดราคาโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 489 คัน พร้อมซ่อมแซมและบำรุงรักษา ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ราคากลาง 4,020,158,000.00 บาท
การประมูลดังกล่าว มีกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO (บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO และบริษัท สแกน อินเตอร์ จํากัด (มหาชน) หรือ SCN) เป็นผู้เสนอราคาเพียงรายเดียว…และเสนอราคาสูงกว่าราคากลางเล็กน้อย….ไม่เกิน10%
ตามเงื่อนไขของระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานรัฐ หากมีผู้เข้าประมูลรายเดียว และไม่เกินราคากลาง 10% (อัพราคากลางจากเดิมที่ “เบสท์ริน” เคยเสนอไว้ 3,387 ล้านบาท มาอยู่ที่ 4,020 ล้านบาท) ผู้รับผิดชอบแต่ละหน่วยงานรัฐ สามารถตัดสินใจได้เลยที่จะรับเงื่อนไขได้…หากมีความหาญกล้าเพียงพอ
ความกล้าของ ดร.ไพรินทร์ที่กล้าหาญล้างอาถรรพ์เช่นนี้…ห้ามเลียนแบบ หากไม่มีความสามารถเพียงพอ
ดร.ไพรินทร์ระบุว่า หากไม่ติดเงื่อนไขอื่นๆ….ขั้นตอนจากนี้ ขสมก.จะนัดหมายผู้รับงาน คือ กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO มาลงนามในสัญญา หากสามารถลงนามได้ภายในเดือนธันวาคมนี้
หากลงนามเสร็จ มหากาพย์อันยืดเยื้อยาวนาน ที่ผลักดันกันมาหลายรัฐบาลนานร่วม 11 ปี พร้อมกับตำนานนิยายน้ำเน่าซึ่งวนเวียนอยู่กับการประมูลที่ล้มซ้ำซาก…ปล่อยให้ ขสมก.ใช้รถคร่ำคร่าชนิด “เศษเหล็กเรียกซือเฮีย” (ที่มีอายุใหม่สุด ก็ยังมากกว่า 20 ปี)… วิ่งปุเลงๆ ไปให้บริการประชาชนชาวกรุงและปริมณฑล….จะได้จบสิ้นไปเสียที
การประมูลครั้งที่ 8 นี้ ขสมก. ใช้วิธีการคัดเลือกวิธีพิเศษ เปิดทางผู้ที่เคยยื่นซื้อซองประมูล 8 รายเดิมเมื่อครั้งการประมูลครั้งที่ 7 (ที่ล่มปากอ่าวกลางคัน เพราะเอกชน 8 รายที่ซื้อเอกสาร พร้อมใจกันไม่มายื่นซองตามนัดมาเสนอราคาใหม่ ไม่ว่าเบสท์ริน, ซุปเปอร์เซ็นทรัลแก๊ส, สยามสแตนดาร์ดเอ็นเนอร์จี้, ไทยเทคโนโลยี แอนด์ดีเวลลอปเมนท์, ล็อกซเล่ย์, อัพเดท ดีเวลลอปเมนท์, วินด์โคส ออโตเมติก และช ทวี…ก่อนที่จะมีแค่รายเดียวที่เสนอตัวเข้ามา โดยไม่ต้องพึ่งพาการล็อกสเปกช่วย….ว่ากันแฟร์ๆ แม้จะมีเสียงกระแนะกระแหน เป็นธรรมดา
เช่นเดียวกัน จะได้เปิดตำนานหน้าใหม่ความสัมพันธ์ที่ “วิน-วิน” ระหว่าง CHO กับ ขสมก.ไปด้วยอย่างยั่งยืน
3 ปีก่อน CHO และ เสี่ยจิง นาย สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย ซีอีโอใหญ่ ของ CHO เคยปวดหัวและอกหักในที่สุดมาแล้ว กับความไม่เอาไหนของบอร์ด ขสมก.ที่นอกจากขี้ขลาดและบ้องตื้นกับการตั้ง TOR ประมูล เพื่อเป็นผู้ผลิตและประกอบรถเมล์ NGV ให้กับ ขสมก.จำนวน 489 คัน มูลค่า 1.5 พันล้านบาทเศษ พร้อมกับสัญญาซ่อมบำรุงอีกประมาณ 2.2 พันล้านบาทภายใน 10 ปีข้างหน้า ทั้งที่ประมูลชนะมาอย่างใสสะอาด
สาเหตุสำคัญก็อย่างที่รู้กันดีว่า เบื้องหลังมาจาก ปัจจัยลบที่เรียกว่า “เบสท์ริน กรุ๊ป เอฟเฟ็กต์” นั่นเอง….ทำให้ค่าเสียโอกาสของ CHO มีมหาศาล ราคาหุ้นตกรูดมหาราช
มาปีนี้ CHO และเสี่ยจิงยังไม่ยอมเข็ดหลาบ พาตัวเองเข้าร่วมประมูลติดตั้งระบบตั๋วที่เรียกว่า e-Ticket ให้กับ ขสมก.อีก ภายใต้ชื่อกิจการร่วมค้า JVCC และชนะ โดยมีเงื่อนไขใน TOR ระบุไว้ชัดเจนที่ย่นย่อว่า 1) ผู้รับจ้างต้องติดตั้งระบบ e-Ticket บนรถโดยสาร ขสมก.ไม่ต่ำกว่า 100 คันภายในระยะเวลา 120 วันนับถัดจากวันที่ลงนามในสัญญา 2) จากนั้นต้องติดตั้งระบบได้ไม่น้อยกว่า 700 คันภายใน 180 วัน และ 3) ติดตั้งให้ครบ 2,600 คัน ภายใน 1 ปี ภายในเงื่อนเวลา สิ้นเดือนพฤษภาคม 2561..แล้วก็ได้งานไปเรียบร้อย แม้ว่าจะต้องรอตรวจสอบอีกหลายขั้นตอน
นั่นเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะล่าสุดเมื่อมีการเปิดประมูลรถเมล NGV ครั้งล่าสุด (ครั้งที่ 8) CHO ก็อดใจไม่ไหว เข้าร่วมการประมูลด้วย แต่ไม่ได้มารายเดียวโด่เด่เหมือนเดิม ….หากมาพร้อมกับพันธมิตรใหม่ SCN ที่มีซีอีโอชื่อ นายสิทธิเดช มัยลาภ นำทีม….แถมยังถือเคล็ดใช้ชื่อ SCN นำหน้าพันธมิตรร่วมการงานเสียอีก
คงจะรู้ตัวว่า ชื่อ CHO กับ ขสมก.มันเกิดชงกัน..พอประมาณ
ตามเงื่อนไขที่นำเสนอ ทาง SCN-CHO เมื่อลงนามแล้วจะต้องทำตามแผนส่งมอบรถโดยสารตามขั้นตอนคือ จำนวน 100 คันแรกภายใน 90 วันนับจากวันลงนาม และส่งมอบอีก 120 คัน ภายใน 100 วัน อีก 100 คันส่งมอบภายใน 120 วัน และที่เหลือ 189 คันจะส่งมอบภายใน 180 วัน (ซึ่งจะได้รับมอบครบทั้งหมดก่อนช่วงเปิดภาคเรียนใหม่ในเดือนพฤษภาคม 2561
ถือเป็นของขวัญส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ เพื่อสานฝัน “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี ให้คนกรุงได้นั่งรถเมล์ใหม่เหมือนใครที่เจริญแล้วบ้าง
ข่าวดีดังกล่าว…มันต้องฉลองกันเสียหน่อย
วานนี้ ราคาหุ้น SCN จึงควงแขนกับหุ้น CHO พากันบวกแรงตามๆ กัน ขานรับข่าวดี ไม่ต้องเสียเวลา รอถึงขั้นเซ็นลงนามกัน
ตอนนี้ก็แค่รอให้ขั้นตอนเสร็จสมบูรณ์ เพื่อจะได้ปล่อยให้ตำนานมหากาพย์ประมูลรถ 11 ปีกลายเป็นอดีตไป….เว้นแต่ว่ามีเหตุอื่นมาขวางเสียก่อน
อิ อิ อิ