SCC กระเบื้อง…แถวตรง!!!
หลังจากความพยายามขยับตัวมาหลายครั้ง กินเวลายาวนานทบทวนกลยุทธ์กว่า 8 ปี ในที่สุดการจัดทัพแบรนด์สินค้ากระเบื้องและเซรามิกของกลุ่ม SCG ก็ได้ฤกษ์เปิดตัว
แฉทุกวันทันเกมหุ้น
หลังจากความพยายามขยับตัวมาหลายครั้ง กินเวลายาวนานทบทวนกลยุทธ์กว่า 8 ปี ในที่สุดการจัดทัพแบรนด์สินค้ากระเบื้องและเซรามิกของกลุ่ม SCG ก็ได้ฤกษ์เปิดตัว
ตามประสาคนทำงานประเภท “เล็กๆ ไม่…ใหญ่ๆ ทำ”
บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันนี้ โดยอนุมัติการสนับสนุนการปรับโครงสร้างธุรกิจเซรามิก ด้วยการควบบริษัทย่อยของที่บริษัท ถือหุ้นผ่านบริษัท เซรามิค ซิเมนต์ไทย จำกัด (CCCL) รวมทั้งหมดจำนวน 5 บริษัท ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระเบื้องเซรามิกในประเทศไทย
ยุทธศาสตร์ธุรกิจแบบนี้คือการกระชับตราสินค้าใหม่ หรือ consolidation เพื่อจัดวางตำแหน่งสินค้าให้เหมาะสมกับภาพลักษณ์สินค้าในมุมมองของผู้บริโภค ป้องกันการทับซ้อนของแบรนด์…ซึ่งเป็นมุมมองด้านการตลาดที่มีความหมายลึกซึ้ง
แผนการควบรวมนี้ จะมีบริษัทในร่มธงเดียวกันเกี่ยวข้องด้วย 5 ราย ประกอบด้วย
- บริษัท เซรามิคอุตสาหกรรมไทย จำกัด (TCC)
- บมจ.ไทย-เยอรมัน เซรามิค อินดัสทรี่ (TGCI)
- บริษัท เดอะ สยาม เซรามิค กรุ๊ป อินดัสทรี่ส์ จำกัด (SGI)
- บริษัท โสสุโก้ แอนด์ กรุ๊ป (2008) จำกัด (SSG)
- บริษัท เจมาโก จำกัด (GMG) เป็นบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบบริษัท (บริษัทใหม่)
ตามรูปการณ์แล้ว ธุรกรรมการควบบริษัทและการจดทะเบียนหลักทรัพย์ของบริษัทใหม่ให้เป็นหลักทรัพย์ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2561
หลังการควบรวมเสร็จ จะทำให้ TGCI ต้องถอนตัวออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วถูกแทนที่ด้วย GMG โดยที่มติของบอร์ด SCC ระบุว่า TGCI จะดำเนินการยื่นคำขอให้รับหลักทรัพย์ของบริษัทใหม่ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ตามข้อบังคับเรื่อง การควบบริษัท
นั่นหมายความว่าอนาคต GMG อาจจะกลายเป็นเรือธง หรือ Flagship Company ในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายกระเบื้องเซรามิกในประเทศไทยทั้งหมดชนิดครบวงจร
คำถามคือทำไมดีลจึงจบช้ามาก ใช้เวลานานกว่า 8 เดือนทีเดียว
คำตอบคือ เนื่องจากผู้ถือหุ้นเดิมของกิจการทั้ง 5 ราย มาจากหลากหลาย ไม่ได้มีเฉพาะ SCC เท่านั้น โดยเฉพาะ TGCI ที่เป็นบริษัทมหาชนจดทะเบียนด้วย
แผนการควบบริษัท ประกอบด้วยการดำเนินการ 2 ส่วนหลัก ได้แก่ การโอนหุ้น และ การควบบริษัท
ในส่วนธุรกรรมการโอนหุ้น (ก่อนที่จะดำเนินธุรกรรมการควบบริษัท) ซึ่งเดิมไขว้ไปมาชวนให้งุนงง เริ่มตั้งแต่
- บริษัท เซรามิค ซิเมนต์ไทย จำกัด หรือ CCCL ที่เป็นโฮลดิ้งของกลุ่มเซรามิกของกลุ่มนี้ โอนหุ้น 53.89% ที่ถืออยู่ใน บริษัท โสสุโก้ เซรามิกส์ จำกัด (SSC) ปัจจุบัน ให้แก่ TCC
- TCC จะโอนหุ้นที่ตนถืออยู่ 9.80% ใน SGI ให้แก่ CCCL ส่งผลให้ CCCL เป็นผู้ถือหุ้นใน SGI 100%
พ้นจากขั้นตอนโอนหุ้นแล้ว ก็จะได้เวลาของการควบบริษัททั้ง 5 เพื่อให้เหลือเฉพาะ GMG แค่รายเดียว เพื่อให้กลายเป็นบริษัทมหาชนจดทะเบียน ทดแทน TGCI ที่ต้องถอนตัวออกไปเพราะสิ้นสภาพ
ในการควบบริษัท จะมีการจัดสรรหุ้นของบริษัทใหม่ (GMG ในร่างใหม่) ให้แก่ผู้ถือหุ้นของแต่ละบริษัทย่อยทั้ง 5 ที่มีชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น โดยจะจัดสรรหุ้นของบริษัทใหม่ในอัตราส่วน ดังนี้
- 1 หุ้นเดิมใน TGCI ต่อ 1.25904909 หุ้น ในบริษัทใหม่
- 1 หุ้นเดิมใน TCC ต่อ 89.68702555 หุ้น ในบริษัทใหม่
- 1 หุ้นเดิมใน SGI ต่อ 8.78492469 หุ้น ในบริษัทใหม่
- 1 หุ้นเดิมใน SSG ต่อ 121.77578202 หุ้น ในบริษัทใหม่
- 1 หุ้นเดิมใน GMG ต่อ 27.36232939 หุ้น ในบริษัทใหม่
ตามแผนนี้ บริษัทใหม่ จะมีทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วเท่ากับ 5,962,621,233 บาท…5.962 พันล้านบาท….ตามลำดับ แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวนทั้งสิ้น 5,962,621,233 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ซึ่งเท่ากับทุนชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทย่อยทั้ง 5 แห่ง
ประเด็นอยู่ที่ TGCI เพราะเป็นบริษัทเดียวที่มีสถานะเป็นบริษัทมหาชนและเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ดังนั้นต้องจัดการประชุมเพื่อถามผู้ถือหุ้นเสียก่อนว่า ยินยอมพร้อมใจกับดีลควบรวมหรือไม่
แผนของ SCC ในกรณีที่ผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ของ TGCI รับรองอนุมัติดีลควบบริษัท แต่มีผู้ถือหุ้นบางส่วนคัดค้าน ก็จะ….จัดดำเนินการให้ CCCL เข้าเป็นผู้ซื้อหุ้น TGCI จากผู้ที่คัดค้าน ในราคาที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งสุดท้ายก่อนวันที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ TGCI ให้หมดเบ็ดเสร็จ
อีกประเด็นที่สำคัญอยู่ที่โครงสร้างการถือครองหุ้น บริษัทใหม่อาจขาดคุณสมบัติในเรื่องการกระจายการถือหุ้นรายย่อย (หรือ ฟรีโฟลต) ซึ่ง SCC มีแผนแก้ไขการกระจายหุ้นของรายย่อยเอาไว้แล้ว …แต่ยังบอกไม่ได้…แค่พูดว่า คาดว่าจะมีการกระจายหุ้นได้ตามเกณฑ์ภายในปี 2562-2563
หากมองข้ามเรื่องเล็กน้อย อาทิ การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น TGCI หรืออื่นๆ …นี่คือการขับเคลื่อน แบบรวบยอดที่มีความหมายยิ่งทางการตลาดของธุรกิจเซรามิกครบวงจรของ SCC…เพราะที่นี่ ไม่เคยทำอะไรเล่นๆ
ขยับตัวทีไร มีมูลค่าเพิ่มตามมาเสมอ
อิ อิ อิ