เคาะส่งท้าย
*บรรยากาศการลงทุนในสัปดาห์สุดท้ายก่อนถึงช่วงเฉลิมฉลองปีใหม่ น่าจะมีความหงอยเหงาปะปนเยอะพอสมควร “โมนิก้า” ถึงขอทำตัวชิวๆ เพื่อรับกับสถานการณ์เรื่อยๆ เฉื่อยๆ ไม่ต้องรีบร้อนอะไรมากมาย เพราะนักเล่นขาใหญ่ก็เริ่มหยุดเทรดกันบ้างแล้ว ส่วนฝรั่งหัวทองก็คงไม่อยากทำอะไรมากกว่าที่เป็นอยู่ คงเหลือแค่เพียงกองทุนตัวแสบที่ยังพยายามดันหุ้นเพื่อทำตัวเลขปิดบัญชีสวยๆ พะยะค่ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*บรรยากาศการลงทุนในสัปดาห์สุดท้ายก่อนถึงช่วงเฉลิมฉลองปีใหม่ น่าจะมีความหงอยเหงาปะปนเยอะพอสมควร “โมนิก้า” ถึงขอทำตัวชิวๆ เพื่อรับกับสถานการณ์เรื่อยๆ เฉื่อยๆ ไม่ต้องรีบร้อนอะไรมากมาย เพราะนักเล่นขาใหญ่ก็เริ่มหยุดเทรดกันบ้างแล้ว ส่วนฝรั่งหัวทองก็คงไม่อยากทำอะไรมากกว่าที่เป็นอยู่ คงเหลือแค่เพียงกองทุนตัวแสบที่ยังพยายามดันหุ้นเพื่อทำตัวเลขปิดบัญชีสวยๆ พะยะค่ะ
*เมื่อรูปการณ์ออกมาในโทนนี้ทั้งหมด การเคาะหุ้นส่งท้ายก็ต้องโฟกัสไปที่หุ้นต่ำกว่าแวลู และหุ้นปันผลงามเป็นลำดับแรก เพราะมีสตอรี่ทำให้หุ้นวิ่งคึกเป็นม้าในปีหน้า “โมนิก้า” ถึงขอชายตามองหุ้นเหล่านี้มากกว่าหุ้นตัวอื่น แต่มีข้อแม้อยู่นิดหนึ่งว่า การซื้อเที่ยวนี้เป็นการเล่นราคาล่วงหน้า ผู้เล่นถึงต้องทนกับแรงเสียดทานในอนาคตให้ได้ ไม่เช่นนั้นอาจเผชิญกับรายการ “ขายหมู ซื้อหมา” นะจะบอกให้
*ฉะนั้นการที่ดัชนีขึ้นมายืนปิดที่ 1,742.08 จุด บวกไป 5.17 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นการส่งสัญญาณให้ผู้เล่นเริ่มวางแผนลงทุนตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้มันเป็นอะไรที่มากกว่าเคาะไปวันๆ หลังทุกคนรู้ดีว่า เมื่อเปิดศักราชใหม่อย่างเป็นทางการน่าจะมีการเข้ามาตะลุมบอนหุ้นกันอีกรอบ จึงต้องเล็งหุ้นบางตัวไว้สำหรับการเล่นรอบด้วยนะคะ
*งานนี้ถึงขึ้นอยู่กับแมงเม่าถนัดเล่นหุ้นแบบไหนมากกว่ากัน เพราะแต่ละคนก็มีสไตล์การเคาะกระดานไม่เหมือนกันเลย “โมนิก้า” ถึงพยายามให้นักเล่นจัดระเบียบแบบแผนชีวิตก่อนจะไปเที่ยวสนุกสนาน เพราะวันที่กลับมาเทรดกันอย่างเต็มตัวในสัปดาห์แรก น่าจะเป็นเกมที่ทุกคนเข้าทำเร็วมากเป็นพิเศษ ซึ่งบ่อยครั้งทำให้เดี๊ยนเกิดอาการหูลายตาลายไปพักหนึ่งนะจ๊ะ
*ประเด็นนี้สอดคล้องกับการเคาะหุ้น BEM บางวันก็เกิดอาการเหนื่อยๆ บางวันก็เกิดอาการคึกคักเหลือเกิน มันเป็นเกมที่ทำให้รู้ว่า เมื่อของเขาดี หุ้นก็ต้องไปดี ระเบียบวิธีคิดก็มีเพียงเท่านี้ จึงไม่ต้องถามหาเหตุผลที่ทำให้หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 7.75 บาท บวกไป 0.15 บาท ด้วยมูลค่า 455 ล้านบาท เพราะเป้าหมายที่กูรูสำนักต่างๆ ให้ไว้ในเที่ยวนี้อยู่ที่ระดับ 8.30 บาทเชียวน่า!
*เช่นเดียวกับในรายของ PTG มองในแง่ของปัจจัยพื้นฐานก็ไม่มีอะไรแย่ลงแบบผิดหูผิด และยังไม่เห็นกูรูใหญ่ๆ บอกให้ลดน้ำหนักการลงทุน “โมนิก้า” ถึงมองเรื่องนี้เป็นเกมของรายใหญ่มากกว่าประเด็นอื่น จึงมองการเทกตัวขึ้นมาปิดที่ 21.50 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 2.40% ด้วยมูลค่า 335 ล้านบาท น่าจะเป็นช็อตของการมองสั้นๆ มากกว่ามองไปข้างหน้าไกลๆ นะจะบอกให้
*คล้ายคลึงกับกรณีของหุ้นน้องใหม่ CPT ถูกถล่มจนเสียศูนย์ตั้งแต่วันแรกที่เข้าเทรด 20 ธ.ค. หลังราคาหุ้นรูดหลุดจองไป 9% ก่อนจะตั้งหลักยืนสู้แรงเทขายในวันถัดมาได้อย่างเสียวไส้ ต่อจากนั้นขยับขึ้นด้วยแรงซื้อที่หนาแน่น จนสุดท้ายเห็นหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 2.18 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 2.80% ด้วยมูลค่า 152 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องความเชื่อมั่นที่ต้องสร้างกันอีกพักใหญ่ๆ พร้อมกันนั้นแมงลือก็มีการแซวกันอย่างสนุกปากว่า สงสัยพีอาร์ไม่ได้เรื่อง ก็เลยออกทะเลไปไกล..อิอิอิ
*ส่วนตัวที่สามารถมองยาวได้หน่อย “โมนิก้า” กลับมองไปที่หุ้น PTTGC ยังคงพยายามทำยอดใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิมอย่างต่อเนื่อง แม้ในบางจังหวะจะมีการถอยลงมาบ้าง แต่พอถึงจังหวะขึ้นก็ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวังแต่อย่างใด เดี๊ยนถึงมองราคาปิดที่ 85.25 บาท บวกไป 1.50 บาท ด้วยมูลค่า 1.27 พันล้านบาท มันเป็นจังหวะของการไหลตามน้ำแบบไม่ต้องคิดอะไรมากไงล่ะค่ะ
*หากต้องการคิดเยอะๆ และต้องการเกาะติดขอบกระดาน “โมนิก้า” ขอแนะนำให้มองหุ้น ACAP ในทันทีมันใด หลังแสดงอภินิหารด้วยการพุ่งพรวดพราดขึ้นมาปิดที่ 13.10 บาท บวกไป 2.20 บาท หรือขึ้นไป 20% ด้วยมูลค่า 341 ล้านบาท มันเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ และน่าจะมาจากความตั้งใจให้ “หุ้นมาแรง แซงทุกทางโค้ง” จึงต้องตามติดไปดูว่าจะไปได้ไกลขนาดไหนนะคะ
*สำหรับรายที่มาแบบเนิ่บๆ พร้อมกับสตอรี่ดีเป็นกองหนุน “โมนิก้า” คงต้องเหลือบตาไปมองดู VCOM หลังเปิดตัวอย่างสวยหรู และพยายามเดินหน้าขึ้นช้าๆ แต่สุดท้ายทำได้แค่ปิดบริเวณ 3.96 บาท ลบไป 0.04 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 299 ล้านบาท เท่ากับเปิดช่องให้นักเล่นเข้ามาตะลุมบอนได้หลายยก ซึ่งเป็นผลมาจากการเทรดของหุ้นวันนี้ยังอยู่บนค่า P/E 20 เท่าเองนะเจ้านาย!
*ตบท้ายกันที่พระเอกของวันอย่าง PTT หลังกระชากขึ้นมาพรวดเดียวในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของการซื้อขาย จนราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ 446 บาท บวกไป 8 บาท หรือขึ้นไป 1.83% ด้วยมูลค่า 2.59 พันล้านบาท มันสะท้อนให้เห็นว่าพวกนักเล่นสถาบันต้องการหุ้นตัวนี้เพิ่มเติม จึงไล่ซื้อหุ้นมาตั้งแต่ต้นเดือนจนถึงวานนี้ และดูเหมือนจะมีการไล่ราคากันต่ออีกพักใหญ่นะจะบอกให้