สถิติมีไว้ทำลาย

* เป็นเหมือนกับที่ “โมนิก้า” ว่าไว้ไม่มีผิดเพี้ยน วานนี้มีลุ้นอีกเฮือก และดูเหมือนจะทำสำเร็จอยู่แล้วเชียว หลังดัชนีวิ่งทะลุยอดเดิมที่เคยทำไว้บริเวณ 1,753.79 จุดลงอย่างง่ายดาย แต่ในช่วงท้ายตลาดกลับโดนถล่มเทขายไม่ยั้ง จนดัชนีรูดลงไม่เป็นขบวน พร้อมกับเกิดคำถามขึ้นมาในทันทีว่า พระเจ้าจอร์จ!..มันเกิดอะไรขึ้น? เดี๊ยนตอบได้ทันทีว่า แล้วใครจะไปรู้ล่ะ..อิอิอิ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

* เป็นเหมือนกับที่ “โมนิก้า” ว่าไว้ไม่มีผิดเพี้ยน วานนี้มีลุ้นอีกเฮือก และดูเหมือนจะทำสำเร็จอยู่แล้วเชียว หลังดัชนีวิ่งทะลุยอดเดิมที่เคยทำไว้บริเวณ 1,753.79 จุดลงอย่างง่ายดาย แต่ในช่วงท้ายตลาดกลับโดนถล่มเทขายไม่ยั้ง จนดัชนีรูดลงไม่เป็นขบวน พร้อมกับเกิดคำถามขึ้นมาในทันทีว่า พระเจ้าจอร์จ!..มันเกิดอะไรขึ้น? เดี๊ยนตอบได้ทันทีว่า แล้วใครจะไปรู้ล่ะ..อิอิอิ

* เนื่องในระหว่างวันดัชนีสามารถวิ่งขึ้นไปถึง 1,763.36 จุด แต่สุดท้ายกลับลงมาปิดที่ 1,752.89 จุด เหลือบวกแค่ 0.41 จุด ด้วยมูลค่า 6.15 หมื่นล้านบาท มันเป็นสถานการณ์ที่ทำให้รู้ว่าบรรดากองทุนตัวแสบยังคงทำหน้าที่ดันหุ้นต่อไปอย่างไม่ลดละ หุ้นบลูชิพถึงเดินหน้าทำ new high และ all time high กันอย่างสนุกสนาน จึงเป็นช็อตที่ทำให้เชื่อว่าเปิดศักราชใหม่น่าจะเคาะขวารัวๆ กันต่ออีกยกนะคะ

* เมื่อสถานการณ์ทุกอย่างยังเอื้อให้เล่นกันสนุกสุดเหวี่ยง “โมนิก้า” ก็ขอทำตัวไหลตามน้ำไปกับเขาด้วย และไม่มีประโยชน์จะพูดถึงเรื่อง overbought เพราะการเล่นหุ้นชั่วโมงนี้ถูกขับเคลื่อนด้วยฟันด์โฟลว์ในประเทศเป็นหลัก พร้อมกับมีการหยิบยกประเด็นราคาหุ้นในอนาคตแบบสุดซอย ภาพของการลงทุนเที่ยวนี้ถึงเป็นอะไรที่ลึกล้ำเกินกว่าคำบรรยายใดๆ ทั้งสิ้นเจ้าค่ะ

* เหมือนกับรายของ GULF ยังคงเดินหน้าทำ all time high แบบไม่เหน็ดเหนื่อย จนล่าสุดขึ้นมาปิดที่ 62.75 บาท บวกไป 3.25 บาท หรือขึ้นไป 5.46% ด้วยมูลค่า 3 พันล้านบาท “โมนิก้า” ยังคงเชื่อว่ามาจากประเด็นการเติบโตที่เป็นรูปธรรม และเรื่องนี้กองทุนตัวแสบก็อยู่ดีอยู่แก่ใจ เมื่อมีเม็ดเงินก้อนใหม่ไหลเข้ามาในพอร์ต จึงทุ่มเงินซื้อหุ้นตัวนี้แบบไม่อั้น ภาพเลยดูเลิศหรูอลังการพะยะค่ะ

* เช่นเดียวกับในรายของ AOT วันนี้นึกถึงแค่เม็ดเงินจากกองทุนจะหยุดเมื่อไหร่? วันนั้นจะเป็นการพักตัวอย่างสมบูรณ์แบบ “โมนิก้า” ถึงไม่ค่อยคิดอะไรมากมาย เพราะสเต็ปการเล่นเที่ยวนี้เป็นการหว่านเม็ดเงินแบบไม่ยั้ง การไต่เพดานบินสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ถึงต้องดำเนินต่อไป เดี๊ยนถึงต้องถามแฟนคลับอีกครั้งว่า การที่หุ้นวิ่งขึ้นไปถึง 70 บาท หลังจากนั้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 67.50 บาท ลบไป 1 บาท ด้วยมูลค่า 3.81 พันล้านบาท เป็นการทำ high ครั้งสุดท้ายหรือเปล่า?

* เหมือนกับกรณีของ EA ทะยานขึ้นอย่างช้าๆ แต่เป็นการทำ all time high แบบไม่มีอาการเหน็ดเหนื่อย “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลในตัวมันเองอยู่แล้ว เพราะเมื่อมองเม็ดเงินที่จะไหลเข้ามาในบริษัทอย่างต่อเนื่อง ย่อมทำให้หุ้นตัวนี้มีเงินสดไว้ใช้แบบสนุกมือ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้บริหารลุยธุรกิจที่ใหญ่ขึ้นแบบสุดตัว หุ้นเลยเด้งขึ้นตามอย่างมีนัยสำคัญ วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นมายืนอยู่ที่ 52.75 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 1.44% ด้วยมูลค่า 467 ล้านบาทไงล่ะค่ะ

* ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันไปมอง GPSC เป็นคิวถัดมาในทันที เพราะการขึ้นเที่ยวนี้เป็นการพกความมั่นใจมาเต็มกระเป๋า บวกกับอะไรหลายอย่างก็เข้าทางปืนพอดี หุ้นถึงทะยานทำ all time high กันเป็นว่าเล่น แม้หุ้นจะขึ้นมายืนอยู่ที่ 73.25 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 1.38% ด้วยมูลค่า 760 ล้านบาท แต่ยังมีคนกระซิบข้างใบหูน้องโมว่า ถูกเกินไป? มันใช่รึป่าวพี่น้อง..

* เรื่องนี้เชื่อมโยงไปถึงกรณีของ BGRIM หลังวิ่งขึ้นมายืนอยู่ที่ 29.25             บาท บวกไป 0.25 บาท ด้วยมูลค่า 1.82 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นสถานการณ์ที่ผู้เล่นต้องเริ่มทำความเข้าใจในกระบวนการลงทุนอีกครั้ง หลังหุ้นถูกดันขึ้นมาเทรดบนค่า P/E 48 เท่า อาจเป็นช็อตที่ไม่มีผลกับการทำ all time high ของหุ้นก็จริง แต่ในอนาคตย่อมมีผลอย่างเลี่ยงไม่ได้แน่นอนจ้า!

* เม้าท์ถึงหุ้นตัวแรงแบบ “จัดหนัก จัดเต็ม” มาเยอะพอสมควร “โมนิก้า” ขอย้อนกลับมาดูหุ้นร้อนๆ เคาะมันๆ ไม่มีเหตุผลของการขึ้น และไม่มีคำอธิบายในตอนลงหนักอย่างเช่น UV กันบ้างดีกว่า ล่าสุดเห็นหุ้นขึ้นมายืนอยู่ที่ 9.20บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 2.22% ด้วยมูลค่า 280 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่ขาลุยไม่ควรพลาดขบวนรถด่วนเที่ยวสำคัญ จึงอยากให้จับตาดูดีๆ ว่าวันนี้จะเล่นต่อไหม?

* เหมือนกับในรายของ FSMART ชอบทำให้อยากแล้วจากไปแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นหุ้นที่นิสัยเสียมากตัวหนึ่งในเวลานี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเสี่ยใหญ่คนสำคัญยังมีอิทธิพลกับการขึ้นลงของหุ้น บางครั้งอยากจะดันก็ดันแบบสุดลิ่มทิ่มประตู บางครั้งอยากปล่อยของก็สาดทิ้งแบบไม่ดูดำดูดี วันนี้ถึงไม่ต้องถามเหตุผลที่ทำให้ราคาหุ้นลงมายืนอยู่ที่ 16.80บาท ลบไป 1.80 บาท หรือลงไป 9.70% ด้วยมูลค่า 210 ล้านบาทนะตัวเอง

Back to top button