หมดแรงยื้อ!โมนิก้าและทีมงาน

*วันนี้ “โมนิก้า” ไม่ได้อยากซ้ำเติมความผิดพลาดของใครทั้งสิ้น และไม่มีเวลามาปลอบใจพวกนักเล่นหน้าใหม่ที่ติดดอย เพราะแค่อยากจะเม้าท์ถึงบรรยากาศการลงทุนที่พลิกไปพลิกมาในเที่ยวนี้ มันบอกให้นักเล่นทั่วราชอาณาจักรได้รู้ว่า “ยิ่งซอย ยิ่งมัน” ไม่มีความจำเป็นต้องนอนกอดหุ้นต่อไปอย่างไร้จุดมุ่งหมาย เพราะมันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาเลยเจ้าค่ะ


*วันนี้ “โมนิก้า” ไม่ได้อยากซ้ำเติมความผิดพลาดของใครทั้งสิ้น และไม่มีเวลามาปลอบใจพวกนักเล่นหน้าใหม่ที่ติดดอย เพราะแค่อยากจะเม้าท์ถึงบรรยากาศการลงทุนที่พลิกไปพลิกมาในเที่ยวนี้ มันบอกให้นักเล่นทั่วราชอาณาจักรได้รู้ว่า “ยิ่งซอย ยิ่งมัน” ไม่มีความจำเป็นต้องนอนกอดหุ้นต่อไปอย่างไร้จุดมุ่งหมาย เพราะมันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาเลยเจ้าค่ะ

*บวกกับความพยายามดันดัชนีตลอดเวลา ทำให้เดี๊ยนรู้ว่า การขึ้นมายืนเหนือ 1,500 จุดเป็นเพียงกุศโลบายเพื่อหลอกล่อให้มีแรงซื้อตามมาเรื่อยๆ แต่เผอิญเหล่านักเล่นไม่ได้คิดเช่นนั้น จึงเลือกที่จะยืนดูอยู่ข้างเวทีเป็นการชั่วคราว เพราะรู้อยู่เต็มอกว่า หากเที่ยวนี้เข้าผิดจังหวะจะโคน โดนสอยปลายคางร่วงลงไปนอนกับพื้นแน่ มูลค่าการซื้อขายในแต่ละวันถึงได้หงอยเหงาไงล่ะค่ะ

*ล่าสุดเห็นดัชนีอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,510.41 จุด ลบไป 1.78 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.16 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นสัญญาณที่ถูกส่งออกมาย้ำครั้งแล้วครั้งเล่าว่า นักลงทุนทุกกลุ่มได้ลดสัดส่วนการลงทุนเป็นที่เรียบร้อย และที่เห็นยังซื้อๆ ขายๆ ก็เป็นเพียงแค่การเทรดดิ้งเพื่อฆ่าเวลาไปพลางๆ โดยมีปัจจัยต่างประเทศเป็นตัวชี้นำการขึ้นลงของหุ้นในแต่ละวันนะจะบอกให้

*เหมือนกับในรายของหุ้น KBANKพยายามเทคตัวขึ้นหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ต้านทานแรงเทขายที่มีออกมาตลอดเวลาไม่ไหว หุ้นถึงมีทิศทางอ่อนตัวลงอย่างช้าๆ ขนาดในช่วงที่ผ่านมามีผลงานเป็นแบ็กหนุนหลัง ยังทำได้แค่ประคองไม่ให้หุ้นทรุดตัวลงหนัก “โมนิก้า” ถึงได้แต่นั่งทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่อย่างน้อยแนวรับแถว 200 บาทก็เป็นจุดที่เคยเด้งกลับ เดี๊ยนถึงไม่วอรี่เมื่อเห็นหุ้นลงมาปิดที่ 206 บาท ลบไป 2 บาทไงล่ะค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของหุ้นพิมพ์นิยม TASCOเป็นหุ้นที่มีเกจิอาจารย์ดังให้คอมเม้นท์ไว้เยอะแยะ จึงกลายเป็นหุ้นที่นักลงทุนเข้ามาตะลุมบอลเยอะมาก ล่าสุดไม่สามารถวิ่งฝ่าทะลุแนวต้าน 16 บาทขึ้นไปได้ พร้อมกับโรยตัวลงมาปิดที่ 15 บาท บวกไป 0.10 บาท ตามทฤษฎีเขาเรียกอาการแบบนี้ว่า “หมดรอบ” หุ้นต้องย่ำฐานเพื่อสะสมกำลัง และระยะจังหวะเทคตัวขึ้นไปใหม่เจ้าค่ะ

*ถ้าต้องการมองให้เห็นภาพดังกล่าวชัดเจนขึ้น “โมนิก้า” ขอแนะนำให้มองไปที่หุ้นขายไก่ CPFก่อนหน้านี้เทคตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 24 บาทมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ผ่านไปไม่ได้เหมือนดังใจฝัน จึงลงมาย่ำฐานแถว 22 บาทสักระยะหนึ่ง ต่อจากนั้นไต่เพดานบินขึ้นอย่างช้าๆ จนวานนี้ขึ้นมาปิดที่ 24.20บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 3% มันทำให้การขึ้นเที่ยวนี้มีความหมายอย่างยิ่ง..หากวันนี้ไปต่อได้ น่าจะเป็นการยกฐานใหม่อย่างสมบูรณ์แบบ หากไปต่อไม่ได้ น่าจะเข้าสูตร w-shapeนะจ๊ะ

*ส่วนที่ฉีกตัวไปเป็นหุ้นพิมพ์นิยมหน้าใหม่อย่างเต็มตัว “โมนิก้า” คงต้องชำเลืองดูเจ้าพ่อลีสซิ่งอย่าง MTLS  ต่อไปอีกหนึ่งวัน เหตุผลมาจากการยกตัวของหุ้นเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ครั้นจะไม่พูดถึง ก็กลัวจะตกกระแส ครั้นจะพูดติดๆ ก็กลัวจะเบื่อกันเสียก่อน แต่เผอิญวานนี้หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 18.50 บาท บวกไป 0.30 บาท มันเป็นไฟบังคับที่เดี๊ยนต้องตามกระแส เพราะเป้าหมายเขาให้ไว้ที่ 25 บาทเจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของหุ้นเก็งกำไรท้านรก KCเงื่อนไขทางธุรกิจถูกเปิดออกมาให้เห็นแบบโจ่งแจ้ง ทุกอย่างยังเป็นเพียงการมโนขั้นเทพ “โมนิก้า” ถึงได้แต่สังเวชใจที่เห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.66บาท บวกไป 0.84 บาท หรือขึ้นไป 30% เดี๊ยนไม่สามารถตีความเป็นเรื่องได้เลย นอกเสียจากการลากไปเชือดธรรมดาๆ ของมันเห็นกันอยู่เต็มสองลูกตา ไม่จำเป็นต้องเสแสร้งหรอกนะพ่อคุณ

*เช่นเดียวกับในรายของ ABCเดี๊ยนมองเห็นอาการผิดปกติของหุ้นมานานแล้ว และวานนี้ก็เห็นอาการผิดปกติมากขึ้นไปอีก พร้อมกับมีเสียงกระซิบมากับสายลมว่า ตอนนี้คนที่เล่นมีแต่พรรคพวกกันเอง และเหตุผลที่ทำเช่นนั้นก็เพื่อหาทางปล่อยของ “โมนิก้า” ถึงอยากให้ นักคิดสั้น..อุ๊ย..นักเล่นสั้น ลองหาเหตุผลที่ทำให้หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.37บาท บวกไป 0.24บาท หรือขึ้นไป 21% มันโอเคหรือเปล่า?

*อีกหนึ่งรายที่ต้องพิจารณากันให้ดีๆ “โมนิก้า” กลับมองเป็น EICแพตเทิร์นของหุ้น กับแพตเทิร์นของผู้บริหาร น่าจะมีอะไรใกล้เคียงกัน ราคาหุ้นถึงผลุบๆ โผล่ๆ ไม่สามารถหาความชัดเจนที่เกิดขึ้นในแต่ละรอบได้ ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.93บาท บวกไป 0.32 บาท หรือขึ้นไป 20% ทั้งที่ข้างในยังตะติ๋งโหน่ง มันเป็นอะไรที่พูดยาก ต้องให้พ่อทูนหัวเป็นคนอธิบายเองนะจ๊ะ

Back to top button