สังคมข่าวหุ้น

*ดัชนีหุ้นไทยวันก่อนขึ้นมาปิดนิวไฮได้นับจากการก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์ ถือเป็นสัญญาณที่ดี แต่ก็มีคำถามว่า ดัชนีขึ้นมาเที่ยวนี้ มีฟองสบู่ปลอมปนมาด้วยหรือไม่…? “คาเฟอีน” เลยสอบถามไปยังบรรดากูรูทั้งนักลงทุนรายใหญ่ นักวิเคราะห์ชั้นเซียน รุ่นเก๋า รุ่นใหม่ ต่างบอกตรงกันว่ามาจากปัจจัยพื้นฐานล้วนๆ ทั้งเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทยฟื้นตัว ผลประกอบการ บริษัทจดทะเบียน หรือ บจ.สุดแจ่ม


คาเฟอีน

*ดัชนีหุ้นไทยวันก่อนขึ้นมาปิดนิวไฮได้นับจากการก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์ ถือเป็นสัญญาณที่ดี แต่ก็มีคำถามว่า ดัชนีขึ้นมาเที่ยวนี้ มีฟองสบู่ปลอมปนมาด้วยหรือไม่…? “คาเฟอีน” เลยสอบถามไปยังบรรดากูรูทั้งนักลงทุนรายใหญ่ นักวิเคราะห์ชั้นเซียน รุ่นเก๋า รุ่นใหม่ ต่างบอกตรงกันว่ามาจากปัจจัยพื้นฐานล้วนๆ ทั้งเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทยฟื้นตัว ผลประกอบการ บริษัทจดทะเบียน หรือ บจ.สุดแจ่ม

*แต่ก็อย่างว่าล่ะ ดัชนีที่วิ่งขึ้นมา ส่วนใหญ่เป็นหุ้นขนาดใหญ่ช่วยดัน โดยมีบรรดา “กองทุน” เป็น “เจ้ามือ” มาตั้งแต่ปี 2560 ที่ซื้อสุทธิกว่า 1.02 แสนล้านบาท และพอโผล่ามาปี 2561 กองทุนที่มีเงินหน้าตักเพียบ!! ก็ยังเป็นเจ้ามือมาต่อเนื่อง ไล่เก็บหุ้นในกลุ่ม SET50 และ SET100 ทั้งกลุ่มน้ำมัน PTT PTTEP PTTGC IRPC ไฟฟ้า BGRIM GPSC GULF และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ทำให้รายย่อยที่มีหุ้นกลางกับเล็ก ถึงกับไปต่อไม่เป็น ติดหุ้นกันไปหมด จนต้องตัดขาดทุน และหันมาเล่นตัวใหญ่ๆ ตาม วิธีการแบบนี้ทำเอานักลงทุนรายใหญ่ถึงกับส่ายหัว และทำใจ เพราะของแบบนี้วงใครวงมัน ว่ากันไม่ได้

*เห็นยังคงมีการเตือนให้ระวังแรงเทขายจากกองทุนที่มีพวก แอลทีเอฟ จะครบอายุ 5 ปี มูลค่ากว่า 5.50 หมื่นล้านบาท ในเดือนมกราคานี้ แต่ก็มีการมองกันว่า พอถึงเวลาจริงๆ แรงขายอย่างมากน่าจะอยู่ระหว่าง 1.0 – 1.5 หมื่นล้านบาท  เพราะหลายๆ คนก็ยังถือหน่วยในกองทุนต่อไป ไม่ได้รีบใช้เงินอะไร และผลตอบแทนก็ยังดีอยู่ และเป็นขาขึ้นซะด้วย ขณะเดียวกัน การขายของกองทุนก็จะเป็นการทยอยขาย บวกกับมีเม็ดเงินใหม่เข้ามาเรื่อยๆ ก็ไม่น่าทำหุ้นร่วงลงแรงมากนัก หรือหากจะปรับลง ก็มาจากการปรับฐานมากกว่า เพราะหากนับจากช่วงปลายเดือน พ.ย.60 มาจนถึงวานนี้ (4 ม.ค.) หุ้นไทยขึ้นมาแล้ว 85-90 จุด และอาจจะเข้าเขตซื้อมากเกินไป

*สัปดาห์หน้าหุ้นใน กลุ่มธนาคารพาณิชย์ จะเริ่มแจ้งผลประกอบการไตรมาส 4/2560 กันออกมาแล้ว น่าจะเริ่มจาก TISCO ก่อนเป็นรายแรก ซึ่งจากการคาดการณ์ของโบรกฯนั้น ทิสโก้จะกระเป๋าตุงต่อเนื่องจากไตรมาส 3 แม้จะมีการตั้งสำรองหนี้เพิ่มจากตัวเลขหนี้เสียที่ติดมากับพอร์ตของสแตนดาร์ดชาร์ตเตอร์บ้าง แต่ก็ไม่ถือว่ามีนัยสำคัญอะไรมากนัก ขณะที่ก่อนหน้านี้เครดิตสวิส ให้ราคาเป้าหมาย 102 บาท อัพไซด์เหลือเยอะ

*ส่วนหุ้นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ เช่น KBANK  BBL KTB และ SCB ยังถูกจับตาว่าจะต้องสำรองหนี้เพิ่มหรือไม่ แต่หากดูจากการไล่ราคากันแล้ว ทั้ง KBANK และ BBL ก็น่าจะเป็นข่าวดีนะ ส่วนกรุงไทย หรือ  KTB ก็ลุ้นอยู่จะกลับมาแตะที่ 20 บาทได้หรือไม่ และเป็นแนวต้านสำคัญเลย ส่วน SCB ยังคงถูกมองว่า สินเชื่อขนาดใหญ่หลายโครงการยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ขณะที่ผู้บริหารแบงก์ก็ยืนยันว่า “ไม่มีปัญหา” และเตรียมแนวทางการดำเนินการไว้แล้ว

*หุ้น GULF วานนี้ ลงมาหาแนวรับสำคัญ 67.00 บาท และเอาอยู่เสียด้วย ทำให้ราคาดีดตัวกลับทันทีมาปิดที่ 69.25 บาท และทำให้รู้ว่าคนรอเก็บหุ้นไฟฟ้าตัวนี้กันเยอะมากๆ เพราะข่าวว่า ราคาแนวต้านแรกที่กำลังวิ่งขึ้นไปนั้นอยู่มากกว่า 80 บาท โบรกฯบางรายให้ถึง 90 บาท และบางคนมองไปถึงตัวเลข 3 หลัก เพราะหุ้น GULF จะมี COD ทุกไตรมาส เฉลี่ยต่อไตรมาสก็ 100 กว่าเมกกะวัตต์ ล่าสุด ไตรมาส 1 ก็ปล่อยมาอีกกว่า 125 เมกกะวัตต์แล้ว

*ตลาดหลักทรัพย์ หรือ ตลท. แจ้งมาล่าสุด ได้ถอดหุ้น บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น (IFEC) ออกจากการคำนวณดัชนีตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค. 61 แล้ว เหตุผลก็คือ หุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่ถูกสั่งพักการซื้อขายนานกว่า 1 ปี จะไม่ถูกนำมารวมในการคำนวณดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) เห็นข่าวนี้แล้ว ก็ยังไม่รู้ว่าเรื่องวุ่นๆ จะจบลงยังไง หรือกว่าจะจบ ก็อาจเหลือเพียงซากปรักหักพัง

Back to top button