SUPER สร้างมาก่อหนี้
“เสี่ยจอม” หรือ “จอมทรัพย์ โลจายะ” ประธานคณะกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER เป็นนักฝันที่ขยันขันแข็ง เพราะเชื่อมั่นในอนาคตของบริษัทที่ตนเองบริหารอยู่เกิน 100%
แฉทุกวันทันเกมหุ้น
“เสี่ยจอม” หรือ “จอมทรัพย์ โลจายะ” ประธานคณะกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER เป็นนักฝันที่ขยันขันแข็ง เพราะเชื่อมั่นในอนาคตของบริษัทที่ตนเองบริหารอยู่เกิน 100%
ครั้งหนึ่งมีคำถามว่ายอดหนี้ 30,000 ล้านบาทเศษ ยอดดอกเบี้ยจ่ายปีละ 1,200 ล้านบาท ตกวันละ 3 ล้านบาทเศษ ไม่มีวันหยุดจ่าย … กลุ้มใจมั้ย
เสี่ยจอม บอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสไร้กังวลว่า … ตราบใดที่ SUPER ยังผลิตไฟฟ้าขายได้เงินสดทุกวัน วันละ15 ล้านบาท หรือปีละมากกว่า 6,000 ล้านบาท ไม่น่าจะกังวลไปทำไม…คนถามถึงกับหงายเงิบ
แต่ตัวเลขหนี้และดอกเบี้ยจ่ายที่ไม่มีวันลดเพราะความขยันเกินจำเป็นของเสี่ยจอมนี่แหละ ทำให้ SUPER ที่ใครๆ ว่ากันว่า รอวันผงาดขึ้นมาเป็นหุ้นชั้นดีได้ในอนาคต .. .ต้องรอต่อไป ด้วยราคาหุ้นที่ต่ำเตี้ยระดับแถวๆ 1.20 บาท เสมือนมีบุญ แต่กรรมมาบังตานักลงทุน
โดยเฉพาะเสี่ย ป.ปลา ณ อันดามัน…ที่เขาว่ากันว่า เป็นตัวการทุบเอาๆๆๆ ในรอบสามเดือนมานี้….ชนิดทำดีเท่าไรไม่ขึ้น
ช่วยไม่ได้จริงๆ แม้ว่า ล่าสุด SUPER มีอัตราส่วนค่า พี/อี ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มพลังงานทดแทน 4% หรือหากมองในแง่กำลังการผลิตที่จ่ายไฟฟ้าแล้ว SUPER ก็ถือว่าสูงที่สุด 762 เมกะวัตต์ (แม้เมื่อหักกลบจริง จะมีไม่ถึง 500 เมกะวัตต์) ซึ่งดีกว่าค่าเฉลี่ย 3 เท่าตัว…แต่ตัวเลขทำกำไรต่ำ บวกหนี้ที่ไม่มีวันหยุดโต ก็ทำให้ใครๆ ก็ไม่รัก SUPER…ยกเว้นชาวดอยทั้งหลายนับหมื่นราย
คำตอบคงหนีไม่พ้นความ (ไม่) เชื่อมั่น…ไม่มีปัจจัยอื่นใด
ตามแผนงานเดิมเมื่อกลางปีก่อน เสี่ยจอมคาดหมายว่า SUPER จะระดมทุนราว 1 หมื่นล้านบาท โดยใช้กำลังการผลิตไฟฟ้าราว 118 เมกะวัตต์ เป็นสินทรัพย์อ้างอิง …ขายให้กองทุนที่ตั้งขึ้นมาประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท เพื่อลดภาระหนี้เฉพาะหน้าลงไป แล้วทำให้มีกำไรพิเศษที่ทำให้ส่วนผู้ถือหุ้นพอกพูน รองรับการปรับโครงสร้างหนี้ และ ก่อหนี้รอบใหม่สำหรับการเงินลงทุนราว 1.5-2 หมื่นล้านบาท/ปี เพื่อรองรับการมีกำลังผลิตไฟฟ้าของบริษัทเพิ่มเป็น 2,500 ล้านบาทในช่วง 3 ปีข้างหน้า
แผนตั้งกองทุนถูกดึงให้ล่าช้าออกไป ทำให้แผนรีไฟแนนซ์เงินกู้ จำนวน 25,000 ล้านบาท ด้วยการออกหุ้นกู้ ทดแทนตั๋วบี/อีที่ตลาดวายไปแล้ว (เพราะพิษสงของ IFEC และ EARTH) ทำให้เสี่ยจอมตัดสินใจเดินหน้าแผนใหม่ เตรียมออกหุ้นกู้เร่งด่วนเป็นแผน 2 ทันที …แต่มันต้องผ่านขั้นตอนของการทำเรตติ้งเสียก่อน ซึ่งที่ผ่านมาในอดีต SUPER ไม่เคยมีเรตติ้งอะไรกับใครเขา เพราะขาดทุนมายาวนานต่อเนื่อง เพิ่งกลับมาทำกำไรแค่ 2 ปีนี้เท่านั้น
แผนนี้กลับทำงานได้ดีเกินคาด เพราะล่าสุดบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จัดอันดับเครดิตองค์กรของ SUPER จัดการมอบของขวัญปีใหม่เมื่อวันที่ 4 มกราคม ด้วยการประกาศเรตติ้งให้ที่ระดับ “BBB-” สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ด้วยเหตุผล 6 ประการ
1)มีกระแสเงินสดที่แน่นอนซึ่งได้รับจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และแนวโน้มเชิงบวกของอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน เป็นปัจจัยสนับสนุน จากการที่บริษัทมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับผู้จ่ายกระแสไฟฟ้าที่เป็นหน่วยงานภาครัฐซึ่งแต่ละสัญญามีการระบุราคาซื้อขายไฟฟ้าไว้อย่างชัดเจน ลดความเสี่ยงในการไม่ได้รับชำระเงินลงอยู่ในระดับต่ำ
2)ผลการดำเนินงานโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของบริษัทที่ผ่านมาเป็นที่น่าพอใจ โดยนับตั้งแต่เริ่มดำเนินการผลิต ปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้สูงกว่าปริมาณไฟฟ้าที่คาดว่าจะผลิตได้ตามความน่าจะเป็นที่ 75% เพียงแต่ผลในระยะยาวยังต้องรอการพิสูจน์ต่อไป เนื่องจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของบริษัทส่วนใหญ่เริ่มเปิดดำเนินการในปี 2559
3)อันดับเครดิตถูกลดทอนลงจากกลยุทธ์การลงทุนที่ค่อนข้างเสี่ยงของบริษัท เพราะบริษัทมีสินทรัพย์และหนี้สินเพิ่มขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่ปี 2557 จากการขยายธุรกิจอย่างรวดเร็ว อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทอยู่ที่ 64.5% ณ เดือนกันยายน 2560 ที่สำคัญต้นทุนเงินกู้ยืมของบริษัทก็ยังสูงกว่าบริษัทในประเทศรายอื่นๆ ที่ดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์
4)แม้อัตรากำไรจากการดำเนินงานของบริษัทจะอยู่เหนือระดับ 75% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า (โดย EBITDA จะเพิ่มขึ้นจนถึงระดับ 5,000 ล้านบาทในปี 2562) แต่กระแสเงินสดจากการดำเนินงานเมื่อเทียบกับภาระหนี้จะลดลง โดยภาระหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นจะทำให้ในช่วง 3 ปีข้างหน้า EBITDA จะลดลงเหลือ 2-3 เท่า จาก 3.5 เท่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2560 ในขณะที่อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมคาดว่าจะอยู่ในระดับ 7-8% ลดลงมาก เมื่อเทียบกับ 11.6% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2560
5)ความเป็นไปได้ที่ระดับการก่อหนี้จะเพิ่มสูงขึ้นจากแผนการลงทุนขนาดใหญ่ในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า
6)แรงกดดันจากความเสี่ยงด้านการดำเนินงานและความเสี่ยงของประเทศซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการโรงไฟฟ้าที่บริษัทกำลังพัฒนาอยู่ จากโอกาสที่กฎระเบียบพร้อมเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา รวมถึงความเสี่ยงจากเครดิตของผู้รับซื้อไฟฟ้าในประเทศที่โครงการดำเนินงานอยู่ ซึ่งหากระบบการจัดการความเสี่ยงของบริษัทไม่ดีพอ ก็อาจทำให้บริษัทเกิดความผิดพลาดเสียหายได้
การมีอันดับเรตติ้งเป็นครั้งแรก…ย้ำ เปิดบริสุทธิ์ ชนิดมีเลือดหยดติ๋งๆ เป็นวัตถุพยาน….ถือเป็นข่าวดีมากกว่าข่าวร้ายแน่นอน เพราะทำให้ SUPER มีอำนาจต่อรองทางธุรกิจ 3 ทางพร้อมกันคือ 1)เป็นอิสระจากการพึ่งพาตลาดตั๋วบี/อี 2)ไม่ต้องพึ่งแบงก์ 3)สามารถออกหุ้นกู้ระลอกใหม่เพื่อทำให้ต้นทุนการเงินต่ำลง และมีสภาพคล่องสูงขึ้น
เข้าข่าย 3 in 1….เจ๋งเป้ง
งานนี้ คนหัวไวกว่ากามนิตหนุ่มอย่างเสี่ยจอม ไม่ยอมรอช้า…พอเห็นราคาหุ้นขยับรับข่าวเหนือ 1.20 บาท…ก็ต้องเป็นข่าวทันควัน….เครือข่ายไออาร์ ดีซะอย่าง สบายไป 8 อย่าง
เสี่ยจอมระบุทันทีว่า หวังว่า ในอนาคต “…จะมีการจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ออกมาเพิ่มเติม โดยคาดหวังจะมีอันดับเครดิตที่ระดับ “BBB” หรือ “BBB+” การออกหุ้นกู้เพื่อรีไฟแนนซ์หนี้ จะทำให้มีต้นทุนทางการเงินลดลงประมาณ 1-1.50% จากหนี้ที่มีกว่า 30,000 ล้านบาท…”
ไม่คาดหวังลมๆ แล้งๆ ให้เหงือกแห้งตาย เสี่ยจอม รีบระบุว่า SUPER อยู่ระหว่างการศึกษาในการออกหุ้นกู้ (ยังไม่สามารถระบุวงเงินได้ในขณะนี้) เพื่อรีไฟแนนซ์ ภายในปี 2561 เพื่อไปลดต้นทุนทางการเงิน จากขณะนี้ที่มีหนี้กว่า 30,000 ล้านบาท หากลดต้นทุนทางการเงินประมาณ 1% หรือเท่ากับกว่า 300 ล้านบาท และหากลดต้นทุนทางการเงินประมาณ 1.50% หรือเท่ากับกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้มีการประหยัดต้นทุนทางการเงิน หรือลดดอกเบี้ยจ่ายได้รวมกว่า 300-400 ล้านบาท
เรื่องออกกองทุน 1-1.2 หมื่นล้านบาท เมื่อใด เล็กจิ๊บจ๊อย ลงทันที
ตีเหล็กเมื่อร้อนอย่างนี้…ไม่รู้ว่าเสี่ยจอม จะส่งซิกไปยัง เสี่ย ป. ณ อันดามัน ว่า…มรึงขายได้ขายไป กรูไม่เคยแคร์…รึป่าว….ข่าวไม่ได้บอกเอาไว้
อิ อิ อิ