กองทุนปั้นเกมเอง!โมนิก้าและทีมงาน
*ประเด็นที่ทำให้ กูรู กับ กูรู้ งงเป็นไก่ตาแตก ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูกันต่อไปเรื่อยๆ เพราะปัจจัยที่ทำให้ราคาหุ้นทะยานขึ้นแรงจนผิดวิสัย “โมนิก้า” ถือเป็นประเด็นที่อ่อนไหวมากๆ แถมในแต่ละวันยังแปรเปลี่ยนได้ตลอดเวลา เดี๊ยนถึงไม่อยากเชื่อว่า ดัชนีจะขึ้นไปยืนเหนือ 1,600 จุดได้ในเร็ววัน ซึ่งเป็นผลมาจากวอลุ่มที่เข้ามาไม่สม่ำเสมอ หุ้นถึงมีอาการตุปัดตุเป๋ให้เห็นเป็นระยะไงล่ะค่ะ
*ประเด็นที่ทำให้ กูรู กับ กูรู้ งงเป็นไก่ตาแตก ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูกันต่อไปเรื่อยๆ เพราะปัจจัยที่ทำให้ราคาหุ้นทะยานขึ้นแรงจนผิดวิสัย “โมนิก้า” ถือเป็นประเด็นที่อ่อนไหวมากๆ แถมในแต่ละวันยังแปรเปลี่ยนได้ตลอดเวลา เดี๊ยนถึงไม่อยากเชื่อว่า ดัชนีจะขึ้นไปยืนเหนือ 1,600 จุดได้ในเร็ววัน ซึ่งเป็นผลมาจากวอลุ่มที่เข้ามาไม่สม่ำเสมอ หุ้นถึงมีอาการตุปัดตุเป๋ให้เห็นเป็นระยะไงล่ะค่ะ
*ล่าสุดเห็นดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,525.96 จุด บวกไป 15.55 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.10 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้แมงเม่าหัวใจพองโตขึ้นมาในทันที พร้อมกับมีความฮึกเหิมขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อนั้น มันเป็นอาการของแมงเม่าบินเข้ากองไฟที่เกิดขึ้นให้เห็นหลายครั้ง และข่าวสารในช่วงนี้จะเต็มไปด้วยเรื่องราวสุดแสนประทับใจมากมายหลายเรื่องด้วยกันเจ้าค่ะ
*สิ่งที่ต้องคิดถัดมาคือ ในเมื่อแรงซื้อพุ่งตรงไปหาหุ้นบลูชิพ แต่ท่าทีของนักลงทุนสถาบันยังเน้นเล่นสั้นๆ การเข้าซื้อในแต่ละรอบไม่มีเหตุผลอธิบายที่ชัดเจน ส่งผลให้เวลาขายหุ้นทิ้งก็เลยกำกวมเข้าไปใหญ่ ล่าสุดกองทุนซื้อหุ้นเข้าพอร์ตไปทั้งสิ้น 2.70 พันล้านบาท พร้อมกับแสดงบทบาทเป็นเจ้าบุญทุ่ม “โมนิก้า” ถือเป็นเกมที่แมงเม่าอ่านออกอยู่แล้ว วานนี้เลยโยนสวนออกไป 2.30 พันล้านบาท จึงขอปรบมือดังๆ ให้กับความเก่งกาจของแมงเม่านะจะบอกให้
*เหตุผลที่ทำให้คิดเช่นนั้นมีรากเหง้ามาจากพฤติกรรมของกองทุนในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา กลายเป็นคนกำหนดดัชนี “ขึ้น” หรือ “ลง” อย่างเต็มตัว “โมนิก้า” ถึงไม่อยากเห็นแมงเม่าเข้าไปเล่นเกมของกองทุน และจนป่านนี้ยังไม่มีคำอธิบายการเข้าซื้อหุ้นอย่างบ้าคลั่งออกมาให้เห็นเลย เพราะข้อมูลที่มีออกมาให้เห็นมีแต่ด้านลบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปรับลดเป้าดัชนี ปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว หรือแม้กระทั้งปัญหาหนี้ของกรีซนะจ๊ะ
*ข้อมูลเหล่านี้แหละ..ที่ทำให้เดี๊ยนระเหี่ยใจอย่างแรง เพราะท่าทีชักเข้าชักออกของกองทุนทำให้หุ้นจองน้องใหม่อย่าง GPSC เสียศูนย์ไปเลยในทันที โดยเฉพาะในมุมของนักล่าหุ้นจอง เริ่มรู้สึกเข็ดขยาดกับหุ้นขนาดใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ ก็พี่ท่านเล่นทุบจนหุ้นหลุดจอง 27 บาทลงไปอย่างง่าย ถัดมาอีกวันดันหุ้นขึ้นมาปิดที่ 27.75 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 6.70% จนมีคำพูดลอยตามลมออกมาว่า ซื้อหุ้นในกระดานคุ้มกว่า!(วันที่ร่วงลงมาปิด 26 บาท)
*งานนี้ดูเหมือนว่า แมงเม่าจะอ่านเกมขาด จึงเริ่มสื่อสารกันเองในก๊วน และนำไปสู่การเม้าท์ในที่สาธารณะ “โมนิก้า” ถึงเป็นห่วงหุ้น IPO ที่มีแกนหลักเป็นนักลงทุนสถาบันว่า อาจไม่มีใครเอา? เพราะมองไม่เห็นประโยชน์ในการจองซื้อหุ้น ถ้าเหตุการณ์ดำเนินแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ตลาดหุ้นจองจะเป็นอย่างไร? นี่เป็นคำถามที่ผู้คนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องเริ่มคิดกันแล้วนะจ๊ะ
*เหมือนกับในรายของพี่เบิ้ม PTT วันนี้เล่นข่าวบันทึกกำไรจากการขายหุ้นบางจาก BCP แต่ไม่มีใครพูดถึงอนาคตของบริษัทจะเดินไปแบบไหน? “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายความคิดของแต่ละคนพอสมควร ก่อนจะไปถึงตรงจุดนั้น ราคาหุ้นก็วิ่งรับข่าวขึ้นมาปิดที่ 368 บาท บวกไป 8 บาท ส่วนจะไปถึง 380 บาทแล้วลงทันที หรือกระชากขึ้นไปทดสอบ high เดิมแถว 400 บาท อันนี้ต้องตามต่อไปเรื่อยๆ เจ้าค่ะ
*เหตุผลที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องออกตัวแบบแทงกั๊กมาจากบทเรียนที่เกิดขึ้นกับหุ้น AOT มันเป็นอะไรที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกอึดอัดใจอย่างแรง เพราะทันทีที่หุ้นกระชากขึ้นไปทำ high ที่ระดับ 330 บาท หลังจากนั้นหุ้นก็ซึมลงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน พร้อมกันนั้นก็เกิดข่าวลบมากมายเข้ามาถล่ม ล่าสุดเห็นหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 299 บาท บวกไป13 บาท หรือขึ้นไป 4.50% เดี๊ยนเม้าท์ได้แค่ว่า มันเป็นเกมของกองทุนที่ถนัดเรื่อง “ปั้นเอง ชงเอง ทุบเอง” แมงเม่าอย่างเราๆ ท่านๆ ขายทำกำไรไว้ก่อนเถอะจ้า!
*เหมือนกับในรายของ CPF ทุกคนรู้อยู่เต็มอก เข้าใจกันเป็นอย่างดี แต่ทำไมถึงสาดหุ้นออกมาราวกับธุรกิจกำลังจะเจ๊ง! แต่สุดท้ายก็กลับเข้ามาไล่ซื้อหุ้นอีกรอบ “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉยๆ ทุกครั้งที่หุ้นเหล่านี้ทิ้งตัวลงแรง และในช่วงที่หุ้นถีบตัวขึ้นแรงก็เฉยๆ เพราะมันเป็นเกมทำรอบที่เห็นแบบเต็มสองลูกตาในช่วง 2 ปีกว่าๆ ล่าสุดหุ้นปิดที่ 25 บาท บวกไป0.80บาท หรือขึ้นไป 3% เดี๊ยนถึงมองเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 28 บาทเลยนะจ๊ะ
*ตบท้ายกันที่หุ้นขวัญใจตลอดกาลอย่าง EA เพื่อชี้ให้เห็นว่า กลุ่มผู้บริหารเป็นคนพูดจริงทำจริง แถมยังทำตัวเป็นสามีที่น่ารักของภรรยาอีกด้วย ล่าสุดคุณน้อง “อมร ทรัพย์ทวีกุล” โยนบิ๊กล็อตให้ภรรยาสุดสวยเบาะๆ 9 ล้านหุ้น มูลค่า 222 ล้านบาท จนพรายกระซิบเม้าท์ให้ฟังข้างหูว่า มันเป็นค่าสินสอดที่เคยคุยกันไว้ตั้งนานแล้ว และสาเหตุที่เพิ่งมาโยนให้ภรรยาสุดสวยตอนนี้ ก็เพราะทุกอย่างเข้าที่เข้าทางหมดแล้ว “โมนิก้า” จึงขอมอบรางวัลสามีดีเด่นของปี 58 ให้อีกหนึ่งรางวัล..อิอิอิอิ