ลุยพลังงาน

  *หากคนเล่นหุ้นสังเกตให้ดีๆ จะเห็นว่าช่วงที่ดัชนีทะยานขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,830.68 จุด จังหวะดังกล่าวมีแรงซื้อหุ้นพลังงานไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนทำให้ 10 อันดับแรกของหุ้นบนกระดาน most active เต็มไปด้วยหุ้นกลุ่มพลังงาน 6 ตัว ที่เหลือเป็นบลูชิพดาวเด่นที่มีแฟนคลับขาประจำคอยเคาะขวาไปเรื่อยๆ ซึ่งทำให้ภาพของตลาดหุ้นไทยถูกชี้นำด้วยหุ้นกลุ่มดังกล่าวอย่างเต็มตัวนะจ๊ะ


เจาะกระดานหุ้น:โมนิก้าและทีมงาน

 

*หากคนเล่นหุ้นสังเกตให้ดีๆ จะเห็นว่าช่วงที่ดัชนีทะยานขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,830.68 จุด จังหวะดังกล่าวมีแรงซื้อหุ้นพลังงานไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนทำให้ 10 อันดับแรกของหุ้นบนกระดาน most active เต็มไปด้วยหุ้นกลุ่มพลังงาน 6 ตัว ที่เหลือเป็นบลูชิพดาวเด่นที่มีแฟนคลับขาประจำคอยเคาะขวาไปเรื่อยๆ ซึ่งทำให้ภาพของตลาดหุ้นไทยถูกชี้นำด้วยหุ้นกลุ่มดังกล่าวอย่างเต็มตัวนะจ๊ะ

*เมื่อโมเมนตัมของตลาดหุ้นไทยไหลมาทางนี้มากขึ้น “โมนิก้า” ก็เข้าใจว่าหุ้นกลุ่มนี้จะมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ จึงต้องคอยมอนิเตอร์พระเอกเหล่านี้ตลอดเวลา เพื่อทำให้การเล่นหุ้นเที่ยวนี้คล่องตัวขึ้นกว่าเดิม ขณะเดียวกันก็อย่าลืมดูบลูชิพตัวอื่นที่พยายามตั้งลำ และรอจังหวะที่จะเทกตัวขึ้นแรงๆ ไปพร้อมกันเลย เพราะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการเล่นนะซี

*ด้วยเหตุนี้ถึงอยากให้แฟนคลับดูการกระชากขึ้นมาปิดที่ 1,822.66 จุด บวกไป 12.47 จุด ด้วยมูลค่า 9.42 หมื่นล้านบาท มันเป็นแรงซื้อที่ไหลเข้ามาแบบระยะยาวใช่ไหม? หากคิดว่า ใช่! น่าจะทำให้ดัชนีขยับขึ้นไปได้อีก “โมนิก้า” ถึงรู้สึกแฮปปี้ที่เห็นตลาดหุ้นยังอยู่ในอารมณ์คึกคัก และมีการเทขายทำกำไรหุ้นบางตัว เพื่อโยกเงินไปลงทุนในหุ้นที่คาดว่าจะไปต่อ ซึ่งเป็นการถ่วงดุลตลาดหุ้นได้เป็นอย่างดีเจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของ EA ทำท่าเหมือนจะหยุดนิ่งในช่วงเปิดเทรดระยะหนึ่ง หลังจากนั้นพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ชนิดที่แมงเม่าตาค้างไปตามกัน ก่อนจะปิดตลาดไปที่ระดับ 68.75 บาท บวกไป 3.75 บาท หรือขึ้นไป 5.75% ด้วยมูลค่า 7.58 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของกระแสที่มาค่อนข้างดี บวกกับทุกคนเชื่อว่าการขยายธุรกิจจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้ จึงสวมวิญญาณเป็นชาวไล่กันอุตลุดไงล่ะค่ะ

*ส่วนในรายของ GULF กลายเป็นหุ้นที่สวมบทโหดได้ถึงอกถึงใจแบบนี้ “โมนิก้า” ขอซูฮกในความใจกล้าของผู้เล่นที่เข้าไปประคองหุ้นสุดตัว ทั้งที่เห็นกันทนโท่ว่า ดันหุ้นขึ้นไปทำราคาสูงสุด 83.75 บาท ต่อจากนั้นค่อยๆ รินหุ้นออกมาตลอดทั้งภาคบ่าย จนสุดท้ายหุ้นลงมาปิดเสมอตัวที่ระดับ 76.50 บาท ด้วยมูลค่า 3.99 พันล้านบาท ก็เป็นอีกหนึ่งช็อตที่ทำให้รู้ว่า ได้จังหวะขาย..ต้องรีบขายนะคะ

*เหมือนกับในรายของ AOT พอทำจุดพีคไว้ที่ระดับ 77.75 บาท ต่อจากนั้นก็ถูกเทขายแบบสะบั้นหั่นแหลก แต่หุ้นยังพยายามเกาะเส้นแนวรับ 10 วันตลอดเวลา ก่อนจะเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ 71.25 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 2.50% ด้วยมูลค่า 5.95 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของจังหวะการเข้าทำมากกว่าเรื่องอื่น จึงขอให้นักเล่นเกาะกระแสให้ดีเจ้าค่ะ

*ถ้ามองการเคลื่อนตัวดังกล่าวไม่ออก “โมนิก้า” ขอให้แฟนคลับย้อนกลับมามอง PTT เพื่อจะได้เห็นภาพการ “ขึ้นแล้วพัก ค่อยไปต่อ” เพราะการขึ้นมาปิดที่ 484 บาท บวกไป 14 บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่า 3.64 พันล้านบาท มันมาจากดีมานด์จริงในตลาดหุ้น และมีการหยั่งเชิงแรงขายตลอดเส้นทาง ย่อมทำให้การขึ้นเที่ยวนี้มั่นคงขึ้นเป็นกองนะจะบอกให้

*คล้ายคลึงกับกรณีของ BANPU พอผ่านการ take profit พร้อมกับมีแรงช้อนซื้อเข้ามาอีกวัน หุ้นก็ยกฐานใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิมได้ในทันที “โมนิก้า” ถึงรู้ได้ทันทีว่า สตอรี่ของหุ้นค่อนข้างสำคัญ เพราะทำให้คนซื้อหุ้นมีความมั่นใจมากขึ้น วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นมายืนที่ 22.20 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 2.30% ด้วยมูลค่า 3.14 พันล้านบาท จึงเชื่อว่าหุ้นน่าจะไปต่อได้นะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ GPSC ทำท่ายึกยักเหมือนหมดแรงข้าวต้ม แต่ทันทีที่ถึงบทกระชากขึ้นแรง ก็ไปอย่างรวดเร็วในทันทีเช่นกัน “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับจับตาการขึ้นมาปิดที่ 78 บาท บวกไป 0.75 บาท ด้วยมูลค่า 2.32 พันล้านบาท พร้อมกับเกิดสัญญาณ doji ให้เห็นในตอนท้ายตลาด มันหมายความว่าหุ้นกำลังจะย่อตัวเพื่อเด้งรอบใหม่หรือเปล่า?..ลองติดตามดูกันดีๆ นะคะ

*ถ้านึกภาพดังกล่าวไม่ออก “โมนิก้า” ขอให้ย้อนกลับไปดูพี่เทพ PTTEP โซซัดโซเซเป็นเวลานานพอสมควร พอได้จังหวะเทกตัวก็ไปในทันที และในระหว่างทางที่กำลังขึ้นอยู่นั้น ก็มีแรงเทขายไหลออกมาเป็นระยะ แต่สุดท้ายหุ้นก็ขึ้นมายืนปิดที่ 113 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 1.80% ด้วยมูลค่า 1.78 พันล้านบาท ทั้งที่กลางเดือน ธ.ค. 2560 หุ้นยืนแกว่งตัวไปมาแถว 94 บาท มันสื่ออะไรให้รู้บ้าง..ต้องไปคิดกันเอาเองจ้า

*ตบท้ายกันที่หุ้นข้าวโพดหวาน SUN พุ่งขึ้นมาปิดที่ 5.90 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 9.25% ด้วยมูลค่า 280 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของความเชื่อมั่นอีกเช่นกัน ทั้งที่สถานการณ์ของบริษัทในตอนนั้นกับตอนนี้ก็ไม่มีอะไรแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ และเมื่อดูจากแรงซื้อที่ไหลเข้ามาเยอะในเที่ยวนี้ บรรดาผู้เล่นที่เก๋าเกมถึงเชื่อว่าหุ้นยังมีโอกาสไปต่อนะจ๊ะ

Back to top button