KTC (ไม่) แตกพาร์

ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

ราคาหุ้น “บัตรกรุงไทย” (KTC) ขึ้นมายืนเหนือ 200 บาทแล้ว

รับกับข่าวผลประกอบการไตรมาส 4/2560 ที่ออกมา 936 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46%

ตัวเลขนี้มากกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ทุกแห่ง

จริงๆ แล้วในช่วงเดือนธันวาคม 2560 “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ก็เคยเสนอข่าวที่มีนักวิเคราะห์ออกมาบอกว่า กำไรของ KTC ไตรมาส 4 จะออกมามากกว่าคาดการณ์กันไว้ก่อนหน้านี้

พร้อมกับมีการดีดลูกคิดกันใหม่

แต่เมื่อตัวเลขที่ออกมาจริงๆ กลับมากกว่าที่คาดการณ์ใหม่ไว้ล่าสุดอีก

ไม่เพียงเท่านั้น

เพราะขณะนั้น นักวิเคราะห์ก็คาดไว้อีกว่าโบรกฯ หลายแห่งจะขยับราคาพื้นฐาน KTC ขึ้นมาอีก

KTC ไม่ได้ทำกำไรออกมาเซอร์ไพรส์แต่ช่วงไตรมา 4 เท่านั้น

หากย้อนกลับไปดูในไตรมาส 3/2560 พวกเขาก็โชว์ตัวเลขที่น่าอัศจรรย์ใจไว้เช่นกัน

เพราะ KTC มีกำไรสุทธิ  846 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมาอีก 32%

มาดูกันว่า เหตุใด เคทีซีจึงสามารถปั้นกำไรได้มากทั้งที่มีปัญหาการควบคุมสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

KTC นั้นใช้แผนรักษายอดใช้จ่ายผ่านบัตร และจำนวนขอสินเชื่อใหม่

วิธีการก็คือ “เพิ่มวงเงิน” ให้กับลูกค้าเดิม และเน้นขยายฐานลูกค้าในกลุ่มที่มีรายได้สูงกว่า 3 หมื่นบาท/เดือนขึ้นไป

ลูกค้ากลุ่มนี้ ไม่ได้รับผลกระทบจากเกณฑ์จัดชั้นวงเงินของลูกหนี้รายใหม่ตามระดับรายได้ครับ

KTC ยังเพิ่มความสะดวกการเข้าถึง และกิจกรรมการตลาดของสินเชื่อส่วนบุคคล (Spread สูงกว่าบัตรเครดิต) เพื่อชดเชย Asset Yield ที่ลดลง จากการปรับลดเพดานดอกเบี้ยที่เก็บจากบัตรเครดิตลงจาก 20% เหลือเพียง 18%

ด้านคุณภาพสินทรัพย์ก็ดีขึ้น ทำให้ Credit Cost ลดลง และมีโอกาสลดลงอีก รวมถึงหนี้สูญรับคืนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ยังไม่รวม Coverage Ratio ที่สูงถึง 589% ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องตั้งสำรองหนี้ และคาดว่าจะไม่มีการกันสำรองหนี้เพิ่มเมื่อเริ่มปรับใช้ IFRS 9

หลังการแจ้งงบปี 2560 ของ KTC

นักวิเคราะห์ต่างปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ”

พร้อมกับได้ปรับราคาเป้าหมายขึ้นมาอีก และเกินกว่า 200 บาท

เท่าที่สำรวจดูล่าสุด ราคาเป้าหมายของ KTC จะอยู่ระหว่าง 208 -225 บาทต่อหุ้น

ราคาหุ้น KTC ปรับขึ้นมาต่อเนื่อง หลังจากช่วงเดือนสิงหาคมลงไปต่ำกว่า 100 บาท จากข่าวที่แบงก์ชาติเพิ่มความเข้มสินเชื่อไม่มีหลักประกัน

ราคาหุ้น KTC เคลื่อนไหวอยู่ระดับ 100 บาทมาโดยตลอด

กระทั่งในช่วงในตุลาคม 2560 ราคาค่อยๆ เริ่มขยับขึ้นมาเรื่อย และล่าสุด มายืนเหนือระดับ 200 บาทได้

แน่นอนว่า เมื่อราคาหุ้นที่ขึ้นมาสูง ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า เป็นไปได้ไหมที่ KTC จะมีการ “แตกพาร์”

“ระเฑียร ศรีมงคล” ซีอีโอ ของ KTC เคยกล่าวตอบคำถามนี้ที่งานสัมมนาหุ้นประจำไตรมาสที่จัดโดย “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่าไม่เคยมีความคิดนี้เลย

เหตุผลของ ระเฑียร คือ “ไม่เห็นว่าการแตกพาร์ (ขณะนั้น) หุ้นจะเกิดประโยชน์อะไร”

หรือหากจะแตกพาร์จริงๆ

ราคาหุ้น KTC ต้องขึ้นเป็นตัวเลข 4 หลัก

“KTC เป็นหุ้นยั่งยืนมากกว่าที่ต้องมีการเติบโตทุกปี” ระเฑียร กล่าวไว้ครับ

และยังได้แนะนำนักลงทุนด้วยว่า หากสนใจหุ้น KTC ก็ให้ทยอยสะสมหุ้นทุกๆ เดือนแทนน่าจะเหมาะสม ส่วนนักลงทุนที่คิดว่าราคาหุ้นแพงเกินไปก็เข้าไปลงทุนผ่านกองทุนได้

วานนี้ราคาหุ้น KTC ขึ้นมาปิดตลาด 218 บาท

นักลงทุนต่างให้ความสนใจลงทุนจำนวนมาก

ไม่แน่ใจว่าหากราคาหุ้น KTC ยังพุ่งแรงต่อเนื่อง และโบรกฯขยับราคาเป้าหมายขึ้นอีก

อาจมีการทบทวนเรื่องแตกพาร์

ก็เป็นไปได้