AQUA สุนัขในปากเสี่ยอ่าง
ก่อนหน้าของสัปดาห์นี้ นายกัมพล วิระเทพสุภรณ์ เป็นใคร...ไม่มีคนสนใจ ทั้งที่ชื่อของเขาปรากฏในรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 12.88% หรือ 591,406,000 หุ้น ใน บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และถือมายาวนานอย่างเงียบๆ ไม่เคยเป็นข่าวดีหรือร้ายอะไร
แฉทุกวันทันเกมหุ้น
ก่อนหน้าของสัปดาห์นี้ นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ เป็นใคร…ไม่มีคนสนใจ ทั้งที่ชื่อของเขาปรากฏในรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 12.88% หรือ 591,406,000 หุ้น ใน บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และถือมายาวนานอย่างเงียบๆ ไม่เคยเป็นข่าวดีหรือร้ายอะไร
AQUA เป็นธุรกิจที่มีการเปลี่ยนมือผู้ถือหุ้นรายใหญ่มาหลายครั้ง เดิมชื่อ ดี อี แคปิตอล ต่อมาเปลี่ยนชื่อเอาเคล็ดใหม่เป็น ซันไชน์ คอร์ปอเรชั่น (SSE) ดำเนินธุรกิจเช่าซื้อ แต่ก็ไปไม่รอด…ต้องเปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหญ่ใหม่ และเปลี่ยนชื่อเป็น ป็อป พี พลัส พี (PLUS) แล้วก็ผันตัวเป็นธุรกิจกึ่งโฮลดิ้ง ร่วมลงทุนในกิจการ 3 ประเภท คือ ธุรกิจสื่อป้ายโฆษณา คลังสินค้า และโรงพิมพ์-พลังงาน
จากหุ้นที่เคยหวือหวา เพราะวิศวกรรมการเงินหลายซับหลายซ้อน มีราคาแพงเกินพื้นฐานมายาวนานจนชื่อติดปากว่า AQUA นับตั้งแต่ปี 2559 กลายมาเป็นหุ้นที่ราคาไม่หวือหวา…แถมราคาซึมกระทือเป็นส่วนใหญ่…..เพราะมีรายได้ไม่มาก แต่อัตรากำไรสุทธิสูงตามกติกาหุ้นพื้นฐานดี ไม่มีผิดเพี้ยน
ไม่มีใครสนใจว่านายกำพลถือหุ้น AQUA นานเท่าใด รับปันผลไปเท่าไหร่ กำไรจากหุ้นนี้หรือขาดทุน ….มากหรือน้อย หากไม่มีคนชื่อนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาพูดถึง
นายชูวิทย์ หรือ เสี่ยอ่าง อดีตเจ้าของธุรกิจอาบอบนวดชื่อดัง ที่ล้างมือจากอ่างทองคำ ผันตัวเองไปเป็นนักการเมือง คนคุก และล่าสุด….แปลงบทบาทตัวเองใหม่เป็นผู้แสดงความเห็น…ที่จริงน่าจะถูกต้องกว่าถ้าเรียกว่า นักแฉ…..ทางสังคมและการเมืองในสื่อโทรทัศน์หลายช่อง
17 มกราคม เสี่ยอ่าง ออกมาเปิดเผยผ่านรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่วง “ชูวิทย์มีเรื่องเล่า” ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 โดยโยงใยเข้ากับกรณีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอสนธิกำลังร่วม เจ้าหน้าที่กรมการปกครอง และทหาร บุกตรวจสถานบริการอาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท ย่านถนนพระราม 9 เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ พบหญิงบริการ 113 คน ขณะที่เตรียมการดำเนินคดี น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ หุ้นส่วนใหญ่ของสถานบริการดังกล่าวและกรรมการบริษัท รวมทั้งพวกอีกร่วม 20 คน พร้อมกับเตรียมยื่นศาล ขออนุมัติหมายจับรวม 10 ข้อหา ตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์, กฎหมายตรวจคนเข้าเมือง, ค้าประเวณี, และสถานบริการฐานค้ามนุษย์
เสี่ยอ่างเปิดโปงแบบ “เสือสำนึกบาป” ว่า ตนเองเป็นคนสร้างอาบอบนวดแห่งนี้มาเมื่อปี 2532 ในยุคที่ตนยังทำตัวเป็น “สีเทาๆ” ก่อนที่จะขายกิจการดังกล่าว (รวมทั้งอีกหลายแห่ง เช่น โคปาคาบาน่า ที่รัชดาฯ, ฮอนโนลูลู ปัจจุบันคือเลิฟโบ๊ต ที่พระราม 9) ทิ้งไปในปี 2551 และไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อีกเลย หลังจากมีประเด็นเรื่องการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในฐานความผิดของกฎหมายฟอกเงินแก้ไขล่าสุด ที่ทำให้ธุรกิจนี้ร่วงโรยลง
เสี่ยอ่าง ระบุว่า คนที่ซื้อกิจการต่อไปจากตนเอง และเป็นเจ้าของสถานอาบอบนวดดังกล่าวที่แท้จริง คือ นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ …ซึ่งมอบหมายให้น้องสาว น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ แสดงตนเป็นผู้ถือใบอนุญาตของสถานอาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท …ซึ่งเสี่ยอ่าง ไม่เคยรู้จัก
แฉแค่นั้นยังไม่พอ เสี่ยอ่างยังเปิด “เส้นทางการเงินลับ”…ประหนึ่งเคยทำเสียเองอย่างช่ำชอง…ว่าเงินรายได้ของสถานบริการ ได้ถูกนำเข้าสู่บัญชีธนาคารของบริษัทแห่งหนึ่ง หากเช็กจากทางเครื่องรับบัตรเครดิตของสถานบริการ …จะทราบว่าเข้าบัญชีของใคร ก่อนที่จะย้ายไปยังบัญชีอื่น เพื่อโอนเข้าสู่พอร์ตหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ คือ AQUA ที่มีนายกำพล เป็นผู้ถือหุ้นอันดับหนึ่ง
ข้อมูลจากการแฉของเสี่ยอ่าง… แม้จะย้อนแย้งข้อเท็จจริงที่ปรากฏในเอกสารของตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งยืนยันว่า บุคคลที่ถูกกล่าวอ้างถึงโดยเสี่ยอ่าง…. คือ นายกำพล ไม่เคยมีรายการปรากฏใน “แบบรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ของกิจการ” โดย ก.ล.ต. เท่ากับว่า นายกำพล ไม่มีการทำรายการซื้อหรือขายหุ้น AQUA ในช่วงวันและเวลาที่มีการกล่าวอ้าง….ครั้งสุดท้ายที่นายกำพล เคยเข้าทำรายการซื้อ-ขายหุ้น AQUA คือวันที่ 16 มิ.ย. 2558 หรือกว่า 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา…แต่คนบางส่วนก็เชื่อเสี่ยอ่างไปสนิทเสียแล้ว
ความเชื่อดังกล่าว ผิดหรือถูกไม่รู้…ปรากฏสิ่งที่ตามมาคือ แพนิก เซลล์…ขายแบบกระต่ายตื่นตูม
อย่าถามถึงเหตุผลเลย เพราะการ “ขายหมู” จากข่าวลือมั่วๆ ว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่ได้ทำการขายหุ้น AQUA ออกมา เพื่อยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน ก่อนจะที่ถูกตรวจสอบ …ทั้งที่ไม่เคยมีข้อกล่าวหานายกำพลเลยว่าทำผิดอะไร…แล้วเกี่ยวข้องกับผลประกอบการของ AQUA ตรงไหน อย่างไร…เปิดช่องให้การ “จ่ายค่าโง่” และ “ช้อนซื้อของถูก” เสมอ….ไม่แปลก
งานนี้เดือดร้อนต้องถึงกับให้นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (รักษาการ) AQUA ออกมาเปิดเผยว่า ได้ติดต่อเพื่อสอบถามไปยังบุคคลที่ถูกกล่าวอ้าง แล้วได้รับการยืนยันว่ากระแสข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยยืนยันว่าไม่ได้มีการขายหุ้นแต่อย่างใด..แล้วก็ขอยืนยัน (ตามสูตร) ว่า พื้นฐานและสถานการณ์ทางธุรกิจของบริษัททุกกลุ่มธุรกิจยังมั่นคงและเติบโตสอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศ ขณะที่ผลการดำเนินงานปี 2561 คาดว่าจะมีรายได้รวมเติบโตกว่า 20% จากปี 2560 เนื่องจาก ธุรกิจสื่อ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้เช่าและบริการ และธุรกิจของบริษัท โรงพิมพ์ ตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EPCO ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 38.4% ยังเติบโตขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง
ราคาหุ้น AQUA กระเตื้องขึ้นเล็กน้อยวานนี้….ไม่รู้ว่าเพราะหายตกใจ หรือ เทคนิคัล รีบาวด์…หรือเพราะว่าเชื่อมั่นคำชี้แจงของนายอารักษ์
รู้เพียงแค่ว่า มลพิษจาก “สุนัขในปาก” ของเสี่ยอ่าง อดีตปาป้าซังครั้งนี้….ช่วยเพาะเพิ่มศัตรูของเสี่ยอ่างในอัตราเร่ง
อิ อิ อิ