ยืดอายุดีหรือแย่
ป่วยการพูดถึงความถูกต้องชอบธรรม ที่คณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.ป.เลือกตั้ง จะยืดเวลาบังคับใช้กฎหมายไปอีก 90 วัน ซึ่งหมายความว่าอาจเลื่อนเลือกตั้งออกไปอย่างน้อย 3 เดือน จากที่ท่านผู้นำให้คำมั่นไว้เดือน พ.ย. 2561
ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง
ป่วยการพูดถึงความถูกต้องชอบธรรม ที่คณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.ป.เลือกตั้ง จะยืดเวลาบังคับใช้กฎหมายไปอีก 90 วัน ซึ่งหมายความว่าอาจเลื่อนเลือกตั้งออกไปอย่างน้อย 3 เดือน จากที่ท่านผู้นำให้คำมั่นไว้เดือน พ.ย. 2561
ไม่ต้องมาอ้างว่า สนช.ทำกันเอง ไม่มีใบสั่ง รัฐบาล คสช.ไม่เกี่ยว อย่าเห็นคนไทยกินแกลบ เหมือนยืมนาฬิกาเพื่อนมาใส่ พอกระแสสังคมรับไม่ได้ ก็โทษว่าสื่อ การเมือง จ้องล้ม คสช. หาว่ามีเครือข่ายจัดตั้ง ทำสงครามไซเบอร์ ถล่มพี่ใหญ่จนเพลี่ยงพล้ำ
พ.ร.ป.พรรคการเมืองประกาศใช้ ก็ไม่ยอมปลดล็อกพรรคการเมือง กลับใช้ ม.44 เซ็ตซีโร่สมาชิกพรรคเก่า แล้ว กมธ.ก็เอาไปอ้าง ยืดเวลาเพื่อให้พรรคการเมืองเตรียมตัวทัน วิษณุ เครืองาม บอกไม่ผิดหลักกฎหมาย ถามจริง ประเทศนี้ยังเหลือหลักอะไร แค่ออกคำสั่ง ก็เป็นกฎหมายได้
อยากทำอะไรก็เอาที่สบายใจ ไม่มีใครลุกฮือไล่ เหมือน 14 ตุลา พฤษภา 35 หรือทักษิณยิ่งลักษณ์ เพราะสังคมไทยอยู่ในจุดอับ ไม่เห็นอนาคต หมดความหวังเสียจนไม่มีใครอยากไล่รัฐบาลทหาร ซ้ำสังคมแตกแยก คนจำนวนหนึ่งก็มืดบอด หลับหูหลับตาสนับสนุนกัน คนจำนวนหนึ่งก็สามานย์ เห็นแก่ผลประโยชน์เฉพาะหน้า ขอแค่ได้ทำมาหากิน คนจำนวนมากก็เลิกสนใจความถูกต้องชอบธรรม ปลีกวิเวก หาความสุขปัจเจก เสพข่าวดาราข่าวดราม่าไปวันๆ ดีกว่า
ฉะนั้น ถ้าอยากยื้อเลือกตั้งก็ไม่มีใครค้านได้ ไม่ว่าไร้เหตุผลไร้ความชอบธรรมเพียงไร มีอำนาจซะอย่าง เพียงแต่ยืดเวลาอยู่นานๆ เป็นผลดีหรือผลเสียกับรัฐบาลกันแน่
รัฐบาลคงคิดว่ายืดเลือกตั้งไปอีก 3 เดือนเป็นผลดีเพราะเศรษฐกิจกำลังฟื้น หุ้นก็ขึ้น ส่งออกก็ดี นักท่องเที่ยวก็เยอะ ราคาข้าวเปลือกก็สูง แถมกำลังทุ่ม 1 แสนล้านแก้ปัญหาเศรษฐกิจฐานราก และเพิ่งขึ้นค่าแรง
แหม่ ไม่ย้อนคิดเลยนะครับว่าหุ้นขึ้นพรวดพราดตั้งแต่วันที่ท่านประกาศจะเลือกตั้ง แม้เลื่อน 3 เดือนคงไม่ทำให้หุ้นตก แต่ความไม่แน่นอนก็กลับมา ขอเวลาอีก 3 เดือน? ขอเวลาอีกไม่นาน?
ไม่ปฏิเสธหรอกว่าตัวเลขเศรษฐกิจดูเหมือนดี แต่ดูเหมือนดีก็ยังมีปัจจัยเสี่ยง ทั้งเศรษฐกิจโลกเศรษฐกิจไทย ในภาวะเงินล้นโลก เงินไหลเข้าจนบาทแข็ง การแก้ปัญหาปากท้องก็ไม่ใช่ว่าเพิ่งทำ รัฐบาลคุยว่าได้ผลมาตลอด 2-3 ปี แต่ชาวบ้านไม่หยุดบ่น
ขณะที่ทางการเมือง นับจากเดือน พ.ย. มีแต่ “ขาลง” เกิดความขัดแย้งกับ 2 พรรคใหญ่ โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ ที่หันไปเป็นปรปักษ์ ขัดแย้งแตกหักกับภาคประชาสังคม NGO ที่บางส่วนเคยเป็นกองหนุน ซ้ำเติมด้วยอุบัติเหตุนาฬิกาเพื่อน ซึ่งกระทบภาพลักษณ์ความเชื่อมั่น ลามไปถึง ป.ป.ช.
รัฐบาลคิดว่าจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ ในขณะที่ภาพลักษณ์ทางการเมืองย่ำแย่ คิดจะลากถูไป โดยหวังให้กระแสวิพากษ์วิจารณ์ซาไปเอง ถูกกำราบ หรือถูกกลบโดยงาน PR รัฐบาล แล้วพอเลือกตั้งต้นปี 62 ก็จะสานต่ออย่างสวยงาม ยังงั้นหรือ
โลกสวยไปมั้ง ลืมคำเตือนพื้นฐาน การลงทุนมีความเสี่ยง ยิ่งยืดเวลา ยิ่งเสี่ยงเห็นๆ เศรษฐกิจอาจผกผัน การแก้ปัญหาไม่บรรลุตามต้องการ การเมืองยิ่งเสี่ยงหนัก แค่พี่ใหญ่ยกมือป้องแดด ยังลุกลามใหญ่โตเกือบ 2 เดือน ใน 1 ปีที่เหลือถ้าพลาดพลั้งอีก 1-2 เรื่องก็แย่แล้ว
ขนาดตอนนี้โพลล์ที่เคยเชียร์ยังคะแนนตก 16% เหลือแค่ 36-37% คิดได้ไงว่ายืดเลือกตั้ง 3 เดือนคะแนนจะขึ้น