โหดเรียกพี่

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ได้มีโอกาสงัดวิชาสัญญาณเทคนิคมาใช้บรรยายสถานการณ์ของตลาดแบบจุใจ เพราะรูปแบบที่เคยเกริ่นนำไว้ก่อนหน้านี้ มา 3 ตัวตรง..อุ๊ย..มาตรงตามที่พูด จึงขอใช้เวทีแห่งนี้สำหรับออกของที่มีอยู่ในตัวแล้วกัน ขืนไม่ปล่อยเคล็ดวิชาอะไรออกไปเลย มีหวังได้อกแตกตายเข้าสักวัน (ทุกวันนี้ก็หนักอกด้วยไซส์บิ๊กของตัวเองอยู่แล้ว) นะจะบอกให้

*ประเด็นที่อยากจะชี้นำสังคมมากสุดในเวลานี้คือ เมื่อตลาดหุ้นเข้าสู่โหมดของการเทขายทำกำไร และปรากฏแท่งเทียนสีแดงสองแท่งติดกันในเวลาต่อมา ก็อนุมานได้ในทันทีว่า จะมีแท่งเทียนสีแดงแท่งที่สามตามหลังมาติดๆ เพราะดัชนียังลงมาไม่ถึงแนวรับสำคัญจุดแรก จึงทำให้คนที่อ่านสัญญาณเทคนิคแตกฉาน ต้องเร่งระบายหุ้นที่มีอยู่ในพอร์ตออกมาก่อนไงล่ะค่ะ

*ประกอบกับตลาดหุ้นอยู่ในอาการนอยด์เล็กๆ หลังผลงานของหุ้นกลุ่มแบงก์ไม่โดนใจ เท่ากับเป็นการบั่นทอนกำลังใจของผู้เล่นไปเยอะเลยทีเดียว “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับทำตัวให้ยืดหยุ่นกับสถานการณ์ที่กำลังจะเปลี่ยนไปอีกแบบหนึ่ง เพราะวันนี้ไม่มีอะไรต้อง “ยึดมั่น ถือมั่น” จนหลงลืมหน้าที่ของแมงเม่าคือ ต้องทำกำไรให้ได้ทุกวิถีทางนะจ๊ะ

*ฉะนั้นการที่ดัชนีทรุดตัวลงมาที่ 1,803.55 จุด ก่อนจะเด้งกลับในช่วงท้ายมาปิดที่ 1,821.34 จุด บวกไป 2.02 จุด  ด้วยมูลค่า 7.80 หมื่นล้านบาท มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับปัจจัย “พื้นฐาน” ร่วมกับสัญญาณ “เทคนิค”  จึงเป็นที่มาของคำว่า “โหดเรียกพี่” “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับทำตัวพลิ้วตามกระแส เพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากหุ้นเด้งกลับคือ น่าจะมีการดันหุ้นอีกนิดหน่อย ก่อนจะสาดทิ้งอีกรอบนะจะบอกให้

*ช็อกซีเนม่าไปตามกัน หลังหุ้นทีเด็ดที่โบรกฝรั่งเชียร์สุดตัวอย่าง BANPU ถูกกระหน่ำเทขาย จนราคาหุ้นรูดลงมาปิดที่ 21 บาท ลบไป 1.60 บาท หรือลงไป 7% ด้วยมูลค่า 1.06 หมื่นล้านบาท กลายเป็นบทเรียนสำคัญให้กับเหล่านักเล่นได้เป็นอย่างดีว่า หุ้นที่มีคดีความฟ้องร้องยืดเยื้อเป็นเวลานาน มักทำให้นักเล่นเกิดอาการวิตกเป็นประจำเมื่อข่าวดังกล่าวปรากฏขึ้นอีกครั้ง..วันนี้ถึงบอกได้แค่ว่า ทำใจ..ทำใจ..ทำใจ เจ้าค่ะ

*เหมือนกับการดีดกลับของ KBANK ขึ้นมายืนปิดเสมอตัวที่ 227 บาท ด้วยมูลค่า 4.97 พันล้านบาท ทั้งที่ตอนแรกทรุดลงไปที่ 218 บาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของการใช้หุ่นยนต์เคาะหุ้นรัวๆ ถึงสามารถเล่นบทโหดแบบนี้ได้อย่างไม่กระดากใจ เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับเข้าใจกระบวนการเล่นหุ้นเที่ยวนี้ไม่ง่าย และอย่าเผลอใจไปกับอารมณ์ของตลาดมากนัก เพราะอาจจะเสียค่าโง่โดยไม่ได้ตั้งใจนะซี

*ส่วนรายของพี่เทพ PTTEP สามารถยืนปิดที่ 115 บาท บวกไป 1 บาท ด้วยมูลค่า 1.90 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่มีของดีอยู่กับตัว จึงไม่มีอะไรต้องกังวลมากนัก บวกกับราคาหุ้นยังไม่สูงเกินเอื้อม เลยกลายเป็นภูมิคุ้มกันแรงเทขายได้เป็นอย่างดี เดี๊ยนถึงมีความเชื่อส่วนตัวลึกๆ ว่า หากไม่มีรายการแอ็กซิเดนต์เกิดขึ้นเหมือนก่อนหน้านี้ ราคาสูงกว่านี้ก็ยังเคาะได้นะนายจ๋า!

*ประเด็นดังกล่าวเทียบได้กับหุ้น DDD กว่าจะทะลุ 100 บาทก็ใช้เวลาพอสมควร พอวิ่งทะลุปุ๊บปั๊บ หุ้นก็ไปต่อในทันที “โมนิก้า” มองเป็นภาพที่นักเล่นต้องสร้างความคุ้นเคยมากหน่อย เพราะดูเหมือนจะมีคนอัพราคาหุ้นขึ้นไปอีกแล้ว เมื่อวันศุกร์ถึงเห็นหุ้นขึ้นมาปิดที่ 113 บาท บวกไป 7 บาท หรือขึ้นไป 6.60% ด้วยมูลค่า 357 ล้านบาทแบบสบายๆ สไตล์พี่เบิร์ดไงล่ะค่ะ

*พูดถึงเรื่องชิวๆ “โมนิก้า” ก็อยากให้แฟนคลับหันมาดู DTAC กระชากขึ้นมาปิดที่ 51.50 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 5.10% ด้วยมูลค่า 1.19 พันล้านบาท ทั้งที่มีประเด็นน่าหนักใจหลายเรื่องแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่สร้างความสับสนให้กับนักเล่นพอสมควร เดี๊ยนถึงอยากให้ขาประจำลองนั่ง “บวก ลบ คูณ หาร” ก่อนจะลงมือเคาะหุ้นอย่างจริงจังในวันนี้นะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ PSTC เจอมรสุมข่าวลือโรงไฟฟ้ากับท่อส่งน้ำมันระเบิดเข้าไปดอกนี้ เกิดอาการจุกเสียดแน่นท้องกันไปถ้วนหน้า ร้อนถึงผู้บริหารต้องออกมาให้แก้ข่าวว่า โรงไฟฟ้ายังปกติทุกอย่าง และธุรกิจท่อน้ำมันยังไม่ได้ทำ ราคาหุ้นถึงเด้งกลับจากฟลอร์ที่ระดับ 0.67 บาท ขึ้นมาปิดที่ 0.86 บาท ลบไป 0.09 บาท หรือลงไป 9.50% ด้วยมูลค่า 702 ล้านบาท พอสืบไปสืบมาพบว่าเป็นการสาดหุ้นของหมอจอมแสบอีกแล้ว..เจ้าของคอนเฟิร์ม!

*ส่วนในรายของ FLOYD ทะยานขึ้นมาปิดที่ 2.86 บาท บวกไป 0.66 บาท หรือขึ้นไป 30% ด้วยมูลค่า 145 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นการพร้อมใจกันเคาะสนั่นหวั่นไหว เพราะหุ้นเพิ่งเริ่มขยับขึ้นวันแรก จึงไม่มีใครที่มีต้นทุนต่ำกว่าที่เล่นกันอยู่ จึงไม่ต้องกลัวโดนสาดใส่แบบไม่ทันตั้งตัว เดี๊ยนถึงมองว่าวันนี้น่าจะมีการเล่นกันต่ออีกหนึ่งช็อต..ไม่เชื่อลองดูแล้วกัน..555