พาราสาวะถี
สมกับการประกาศตัวเป็นนักการเมืองเต็มรูปแบบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตอบคำถามนักข่าวเรื่องกกต.เสนอให้คสช.ปลดล็อคพรรคการเมืองทำกิจกรรม ง่ายกว่าการจะเล่นแร่แปรธาตุไปยืมมือสนช.มาเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. 90 วันหรือ 120 วันว่า ให้ สมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ผู้เสนอเอาเวลาไปจัดงานแต่งจะดีกว่า
อรชุน
สมกับการประกาศตัวเป็นนักการเมืองเต็มรูปแบบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตอบคำถามนักข่าวเรื่องกกต.เสนอให้คสช.ปลดล็อคพรรคการเมืองทำกิจกรรม ง่ายกว่าการจะเล่นแร่แปรธาตุไปยืมมือสนช.มาเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. 90 วันหรือ 120 วันว่า ให้ สมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ผู้เสนอเอาเวลาไปจัดงานแต่งจะดีกว่า
งานนี้ไม่ต้องสืบว่าเป็นการกระแนะกระแหน ไม่ใช่การยินดีปรีดาด้วยความจริงใจหรือถ้าจะพูดให้ถูกคือหาเรื่องแถในการที่จะตอบประเด็นซึ่งมันตรงใจคนส่วนใหญ่ เพราะความจริงแล้วท่วงทำนองของคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ที่ชงยืดการใช้กฎหมายออกไป 90 วันและอีกชุดมาเสนอเพิ่ม 120 วันนั้น มันไม่ใช่เรื่องของการคิดเองเออเองอย่างแน่นอน
นาทีนี้ไม่ต้องมาอ้างเรื่องของกระบวนการทางกฎหมาย มาอ้างเรื่องสภาที่ต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้อง ก็เพราะสภาที่มีอยู่โดยผู้ปฏิบัติในนามสนช.นั้น ต้องยอมรับตัวเองว่าเป็นรัฐสภาเผด็จการ เนื่องจากถูกตั้งมาโดยหัวหน้าคณะรัฐประหาร และการทำงานที่ผ่านมาก็เป็นบทพิสูจน์ได้ว่า ไม่มีกระบวนการตรวจสอบใดๆ ต่อเรื่องที่มีคนกังขาในการปฏิบัติงานของฝ่ายบริหาร
ยิ่งท่านผู้นำบอกว่าเลือกตั้งมีแน่แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ โดยอ้างว่าต้องให้ฝ่ายสนช.พิจารณาร่างกฎหมายให้แล้วเสร็จ มิหนำซ้ำ ยังพูดถึงการตั้งคณะกรรมาธิการร่วมมาถกข้อกฎหมายหากเห็นว่าเป็นปัญหา โถ!เด็กอมมือมันยังดูออก สิ่งที่จะเกิดขึ้นมันก็แค่พิธีกรรมในเมื่อตั้งธงกันไว้เสียอย่างนี้ จะมีใครหน้าไหนลุกขึ้นเห็นต่างแล้วเดินไปอีกทางที่ไม่ใช่ความต้องการของแป๊ะ
คำพูดที่กลายเป็นวาจาอมตะของรัฐบาลชุดนี้จาก วิษณุ เครืองาม เรื่องลงเรือแป๊ะต้องตามใจแป๊ะ และ อย่าเหาะเหินเกินลงกา ถือเป็นวลีทองที่คอยกระตุกเตือนผู้ที่อยู่ร่วมองคาพยพแม่น้ำ 5 สายให้ทำตัวเป็นเด็กดี อยู่ในโอวาท สำคัญมากไปกว่านั้น สนช.ชุดนี้ต้องรักษาเนื้อรักษาตัว บางรายอาจจะต้องเสนอหน้าให้ปรากฎเป็นข่าวบ่อยๆ และเร่งสร้างผลงาน เพื่อที่จะได้ไม่หลุดโผเป็น 1 ใน 250 ส.ว.ลากตั้ง
อย่างไรก็ตาม คำพูดของท่านผู้นำนับวันจะขัดแย้งกับสิ่งที่เป็นอยู่ตลอดเวลา เช่น การบอกว่าวันนี้ต้องทำให้สภาเข้มแข็ง ต้องเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม เพราะที่ผ่านมาไม่เป็นเช่นนี้ ต้องทำเป็นตัวอย่างโดยไม่ก้าวล่วงกระบวนการ และขอให้รับฟังทุกภาคส่วน โดยอย่าฟังฝ่ายใดฝ่ายเดียว ทุกอย่างเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ
เอาแค่การทำให้สภาเข้มแข็ง ถ้าจะต้องเป็นเหมือนสนช.ทุกวันนี้ คงไม่มีใครยอมรับได้ เนื่องจากเป็นสภาที่ไม่ได้ทำหน้าที่อย่างที่ควรจะเป็น ถามว่าหากสภาเข้มแข็งจริง คงจะต้องมีใครซักคนลุกขึ้นตั้งกระทู้ถามท่านผู้นำหรือไม่ก็ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ในกรณีนาฬิกาหรูที่เป็นปัญหาแล้ว ไม่ใช่ปล่อยไว้จนกลายเป็นกระแสที่สื่อต่างชาติก็ยังให้ความสนใจ
ส่วนเรื่องของการไม่ก้าวล่วงกระบวนการนั้น จริงแค่ในทางนิตินัย แต่โดยพฤตินัยแล้วก็อย่างที่เห็นและเป็นอยู่ ทุกเรื่องล้วนแต่มีใบสั่งและรับคำบัญชา มิเช่นนั้น คงไม่มีสนช.บางรายออกมาพูดถึงปมยืดเวลาบังคับใช้กฎหมายเลือกตั้งส.ส.ว่า บางเรื่องก็พูดไม่ได้ทั้งหมด และกรณีเดียวกัน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็บอกว่า มีพรายกระซิบบอกล่วงหน้า 2 สัปดาห์ก่อนกรรมาธิการของสนช.จะขยับรับลูกว่า มีบางคนอยากเลื่อนการเลือกตั้งออกไปจากโรดแมป
คนที่ไปกระซิบหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่น่าจะใช่ข้าราชการไม่สุจริตเหมือนอย่างที่ท่านผู้นำเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ แต่ต้องเป็นคนวงในที่ต้องอินไซด์สุดๆ ถึงจะรู้ถึงความต้องการของคนที่อยากจะเลื่อนการเลือกตั้ง จนแปรมาเป็นภาคปฏิบัติโดยกรรมาธิการของสนช. ที่ท่านผู้นำบอกว่าอย่าฟังฝ่ายใดฝ่ายเดียว น่าจะต้องไปกระตุกเตือนพวกเดียวกันเองเสียมากกว่า
เพราะยิ่งกว่าฟังความข้างเดียวเสียอีก เป็นการกรอกหูและชี้นิ้วสั่งการตามความประสงค์ของผู้ที่มอบอำนาจให้ ส่วนเรื่องที่บอกว่าทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ แค่เรื่องการไม่ปลดล็อคพรรคการเมืองทำกิจกรรมทั้งๆ ที่กฎหมายว่าด้วยพรรคการเมืองมีผลบังคับใช้แล้ว เท่านี้ก็ชี้ให้เห็นแล้วว่า ใครพวกไหนที่จงใจไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญกันแน่
ไม่เพียงเท่านั้นกับคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 53/2560 ล่าสุด หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้ไปยื่นร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยเห็นว่าคำสั่งดังกล่าวขัดกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ รวมทั้งยังสร้างความไม่เป็นธรรมระหว่างพรรคการเมืองเก่าและพรรคที่เตรียมจัดตั้งใหม่ โดยการกำหนดให้พรรคที่เตรียมจัดตั้งสามารถเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมนี้เป็นต้นไป
สามารถหาสมาชิกพรรคได้ และสามารถโน้มน้าวให้ผู้ที่สังกัดเป็นสมาชิกพรรคหนึ่งลาออกแล้วไปสังกัดพรรคใหม่นั้นได้ ขณะที่พรรคเก่ากำหนดให้เพียงแค่ยืนยันความเป็นสมาชิก ไม่สามารถหาสมาชิกใหม่ได้ อีกทั้งจะเริ่มดำเนินการในวันที่ 1 เมษายน และคำสั่งยังสร้างภาระเกินจำเป็นให้กับประชาชน โดยเฉพาะการยืนยันการเป็นสมาชิกพรรค ทั้งที่กระบวนการดังกล่าวสามารถดำเนินการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ในปัจจุบัน
โดยที่อภิสิทธิ์ ชี้ว่า คำสั่งดังกล่าวมีประเด็นที่ทำให้เกิดการละเมิดสิทธิ เสรีภาพของประชาชน สวนทางการปฏิรูปการเมือง การตราคำสั่งไม่เป็นไปตามกระบวนการตรากฎหมายในรัฐธรรมนูญและไม่ชอบด้วยหลักนิติธรรม การออกคำสั่งดังกล่าวจึงไม่เป็นไปตามกรอบและเงื่อนไขที่จะใช้บังคับได้ ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับการปฏิรูป ความมั่นคง และปรองดอง สมานฉันท์ จึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเร่งรัดพิจารณาก่อนวันที่ 1 มีนาคมนี้ที่คำสั่งจะมีผลบังคับใช้เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย
หากเป็นพรรคการเมืองอย่างเพื่อไทยต้องถูกว่าเป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาลเผด็จการ แต่เมื่อตัวละครคือพรรคเก่าแก่ ย่อมไม่ธรรมดา แต่ก็คงได้แค่ความหวือหวา ปรากฏเป็นข่าว ทว่าจะไร้ผลใดๆ ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองไหนก็ตาม อย่างที่รู้กันกระบวนการตรวจสอบเวลานี้เข้าสู่โหมดเป็ดง่อย ยิ่งพวกที่ได้อานิสงส์จากการได้ไปต่อ คงถามหาความเป็นธรรมได้ยาก ทำได้คือปล่อยให้ทุกอย่างเดินไปสุดทางแล้วก็คอยดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น