พาราสาวะถีอรชุน

จะไปกันใหญ่ ได้ฟัง “บิ๊กโด่ง” พลเอกอุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยกลาโหมและผู้บัญชาการทหารบก แสดงอาการหงุดหงิดผ่านคำถามของนักข่าวต่อกรณีโรฮิงญา ถึงขนาดเรียกร้องให้ยูเอ็นและกลุ่มที่เคลื่อนไหวเรื่องสิทธิมนุษยชนในต่างประเทศ มารับคนกลุ่มนี้ไปดูแลแทน ไม่รู้ว่าพลั้งปากไปหรืออย่างไร เพราะในข้อเท็จจริงเหมือนอย่างที่ท่านพูดไทยเป็นแค่ประเทศกลางทาง


จะไปกันใหญ่ ได้ฟัง “บิ๊กโด่ง” พลเอกอุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยกลาโหมและผู้บัญชาการทหารบก แสดงอาการหงุดหงิดผ่านคำถามของนักข่าวต่อกรณีโรฮิงญา ถึงขนาดเรียกร้องให้ยูเอ็นและกลุ่มที่เคลื่อนไหวเรื่องสิทธิมนุษยชนในต่างประเทศ มารับคนกลุ่มนี้ไปดูแลแทน ไม่รู้ว่าพลั้งปากไปหรืออย่างไร เพราะในข้อเท็จจริงเหมือนอย่างที่ท่านพูดไทยเป็นแค่ประเทศกลางทาง

เป้าหมายของกลุ่มโรฮิงญาคือต้องการไปประเทศที่ 3 อยู่แล้ว ไทยไม่ใช่จุดหมายปลายทาง เพียงแต่ว่า สิ่งที่เป็นปัญหาและรัฐบาลก็กำลังแก้มาถูกทางแล้วนั่นคือ ขบวนการค้ามนุษย์ที่ไปเอาคนซึ่งไร้ที่พึ่งเหล่านี้มาค้าขายเหมือนผักปลา เกิดการทารุณกรรมจนถึงขั้นเสียชีวิต นี่ต่างหากคือสิ่งที่บิ๊กโด่งและผู้ที่เกี่ยวข้องต้องชี้แจงให้เขาเข้าใจข้อเท็จจริง

ถูกต้องเหมือนที่ บัน คี มุน เลขาธิการยูเอ็นยกหูหา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องการให้มีการประชุมปรึกษาหารือกับ 15 ประเทศที่เกี่ยวข้องกับปัญหาของโรฮิงญา ตรงนี้ผู้มีอำนาจต้องตัดให้ขาดอย่านำมาพัวพันกันกับประเด็นที่ไทยได้รับใบเหลืองจากอียูกรณีการทำประมงผิดกฎหมายหรือการถูกลดระดับการแก้ปัญหาค้ามนุษย์จากสหรัฐอเมริกา

สองเรื่องหลังนั้น เป็นปัญหาที่รกเรื้อมานาน เพียงแต่ว่ามีปมเรื่องโรฮิงญาเข้ามาแทรก พอจะเข้าใจว่าผู้มีอำนาจกลัวจะเป็นเรื่องของขนมผสมน้ำยา จึงฟาดงวงฟาดงากันอย่างที่เห็น ต้องตั้งสติกันให้ได้ ใช้หลักการของเหตุและผล อธิบายทุกอย่างเหมือนที่ทำอยู่นั้นดีแล้ว การประชดประชันนอกจากจะไม่ช่วยแก้ปัญหาแล้ว ยังจะกลายเป็นผลลบต่อประเทศไทยไปเสียฉิบ

พูดได้ดีบนเวทีที่เกาหลีใต้เมื่อวันวาน ทำให้ พอล แชมเบอร์ส ผู้อำนวยการสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา จังหวัดเชียงใหม่ ออกมาชื่นชม ทักษิณ ชินวัตร ว่า คำพูดของอดีตนายกฯ วันนี้ฉลาดและหลักแหลม แสดงให้โลกรู้ว่า ตัวเองเป็นนักประชาธิปไตยและรักเสรีภาพ อีกทั้งยังเป็นเหมือนการส่งสารให้กับหัวหน้าคสช.ว่า การแก้ปัญหาที่ไม่ได้มาจากระบอบประชาธิปไตยจะไม่เกิดประโยชน์

เพราะไม่สามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งในประเทศและปัญหาเศรษฐกิจ โดยดูได้จากเสียงของประชาชนบางส่วนยังไม่พอใจกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ดังนั้น รัฐบาลปัจจุบันควรคืนอำนาจประชาธิปไตยให้กับประชาชน ทักษิณกำลังเล่นบทบาทให้โลกเห็นว่าตนเองเป็นนักประชาธิปไตยและต้องการสร้างการปรองดอง สันติภาพ และไม่ต้องการความรุนแรง

นั่นคือภาพที่คนภายนอกมองเห็น แต่อีกด้านในมุมของคนใกล้ตัวโดยเฉพาะแกนนำคนเสื้อแดง กลับมองว่าทักษิณยังคงเป็นทักษิณ ที่เล่นเกมได้ทุกหน้า ทั้งประนีประนอมและพร้อมที่จะรุกโต้กลับทุกจังหวะที่ตัวเองมีโอกาส แต่ขณะเดียวกันจากความกล้าได้กล้าเสียก็ทำให้ถูกหลอกอยู่หลายหน ที่เห็นได้ชัดคงเป็นกรณีของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในคดีความต่างๆ

คงไม่ต้องสาธยายต่อไปว่าเกิดอะไรขึ้น เบื้องลึกเบื้องหลังนั้นคนในเครือข่ายรู้กันดี หลายเรื่องนั้นเป็นสิ่งที่คนกันเองก็ยังรับไม่ได้ กรณีล่าสุดคงหนีไม่พ้นนิรโทษกรรมสุดซอย ที่เป็นสารตั้งต้นนำมาซึ่งหายนะของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เป็นภาพสะท้อนถึงความดันทุรังและการถูกหลอกของนายใหญ่ได้เป็นอย่างดี มาจนถึงวันนี้ ที่เป็นปมบาดหมางกันของพวกเดียวกัน ยังเคลียร์ได้ไม่สนิทใจ

แม้กระทั่งในสถานการณ์สู้รบปัจจุบัน คนแดนไกลไม่อาจที่จะประสานให้แนวร่วมที่สนับสนุนตนเองผสานกันเป็นหนึ่งเพื่อต่อสู้กับอำนาจจากการรัฐประหารได้ ไม่ใช่เพราะฝ่ายตรงข้ามเข้มงวดหรือมัดมือมัดเท้าจนกระดิกไม่ได้ หากแต่เป็นการพลิกพลิ้วของเจ้าตัวเองที่ทำให้พวกพรรคบางกลุ่มไม่อาจไว้วางใจ เรียกได้ว่า ในจังหวะหน้าสิ่วหน้าขวานแท้ๆ ยังมีการเดินเกมเจาะยางพวกเดียวกันตลอดเวลา

เป็นเรื่องทุ่มเถียงกันอยู่เวลานี้กับการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ หลังจากที่ครม.และคสช.มีมติให้แก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว เพื่อเปิดช่องให้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวได้ คำถามคงไม่ได้อยู่ที่ว่า จะทำหรือไม่ทำอีกต่อไป แต่ถามกันไว้ล่วงหน้า ถ้าประชามติไม่ผ่านแล้วจะทำกันอย่างไรต่อ คำตอบก็มีอยู่ 2-3 แนวทางอย่างที่เคยบอกไว้ก่อนหน้า

วันนี้ชัดเจนมากขึ้นจากปากคำของ วิษณุ เครืองาม เนติบริกรประจำรัฐบาลและคสช. ถ้าร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติคงมี 3-4 แนวทางที่จะดำเนินการคือ ตั้งสปช.และคณะกรรมาธิการยกร่างฯ ใหม่ ตั้งคณะกรรมาธิการยกร่างใหม่โดยไม่มีสปช. หรือมอบให้สนช.เป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญ สุดท้ายให้องค์กรหนึ่งองค์กรใดทำงานร่วมกับคณะรัฐมนตรี ยกรัฐธรรมนูญฉบับใดฉบับหนึ่งมาพิจารณาปรับปรุง

ดูแนวโน้มแล้วน่าจะเป็นอย่างหลังมากที่สุด เพราะรัฐบาลและคสช.สามารถที่จะควบคุมเนื้อหาให้เป็นไปตามความประสงค์ได้มากที่สุด ปัญหาที่เห็นจากการยกร่างรัฐธรรมนูญที่ทำกันอยู่เป็นภาพสะท้อนได้ชัดเจน ไม่เช่นนั้นเนติบริกรใหญ่ คงไม่ต้องออกมาพูดหลายๆ หนว่าเนื้อหาที่ยกร่างกันมานั้นเยอะจนเกินความจำเป็น ต้องตัดออกหลายมาตรา

ปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตร บักโกรกที่สุดเวลานี้หนีไม่พ้นชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน สงสารพี่น้องชาวใต้ที่คาดหวังกันไว้สวยหรู หลังช่วยล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์แล้วมีรัฐบาลใหม่อนาคตจะสดใสแต่กลายเป็นหนังคนละม้วน ขู่จะปิดถนนก็ขยับต่อไม่ได้เพราะมีกฎหมายพิเศษค้ำคออยู่ งานนี้สงสัยต้องรอคนที่จะสละผ้าเหลืองมาทำงานเอ็นจีโอให้ช่วยเป็นหัวขบวนในการทวงถามมาตรการช่วยเหลือจากทางรัฐบาล (ฮา)

ส่วนเรื่องล็อตเตอรี่ขายเกินราคา “บิ๊กแดง” พลตรีอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ประชุมบอร์ดกองสลากนัดแรกแล้วทุบโต๊ะตั้งแต่งวด 16 มิถุนายนนี้ ประชาชนจะซื้อได้ในราคาฉบับละ 80 บาทแน่นอน ฟังวิธีการแล้วยังมองไม่เห็นหนทางว่าผู้ค้ารายย่อยจะมีกำไรตามที่ตั้งไว้ฉบับละ 9.60 บาทได้อย่างไร แต่ก็ดีที่มีการตั้งทีมตรวจสอบอย่างใกล้ชิดเพื่อจะได้รู้สาเหตุว่าถ้าปลายน้ำขายไม่ได้ตามราคาที่กำหนด ต้นตอมาจากจุดไหน สิ่งสำคัญคือ ถ้าเจอแล้วต้องจัดการให้เด็ดขาดอย่าเป็นประเภทลูบหน้าปะจมูกก็แล้วกัน

Back to top button