ได้ฤกษ์ลบตำนาน PICNI
การหวนสู่สังเวียนรอบใหม่ของ บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ WP หลังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอนุมัติให้พ้นเหตุอาจถูกเพิกถอน หลังปฏิบัติตามข้อกำหนดของการพ้นเหตุเพิกถอนหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์ฯแล้ว และให้หลักทรัพย์ของบริษัทซื้อขายใน SET จะเริ่มการซื้อขายเป็นวันแรก 1 กุมภาพันธ์ 2561 เป็นต้นไป
เส้นทางนักลงทุน
การหวนสู่สังเวียนรอบใหม่ของ บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ WP หลังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอนุมัติให้พ้นเหตุอาจถูกเพิกถอน หลังปฏิบัติตามข้อกำหนดของการพ้นเหตุเพิกถอนหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์ฯแล้ว และให้หลักทรัพย์ของบริษัทซื้อขายใน SET จะเริ่มการซื้อขายเป็นวันแรก 1 กุมภาพันธ์ 2561 เป็นต้นไป
เหตุที่ทาง WP มีการยื่นคำขอพ้นเหตุอาจถูกเพิกถอนและขอให้เปิดการซื้อขาย สืบเนื่องจากตลาดหลักทรัพย์ฯประกาศให้ บริษัท ปิกนิก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNI (ซึ่งปัจจุบัน คือ บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ WP) ที่เกิดจากการควบรวมของบริษัท ปิกนิก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (PICNI) และบริษัท เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด (WG)
สำหรับการควบรวมกิจการมีทุนจดทะเบียนเท่ากับ 2,760,565,700 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวนทั้งสิ้น 2,760,565,700 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ซึ่งเท่ากับทุนชำระแล้วทั้งหมดของ PICNI และของ WG รวมกัน
ภายหลังการปรับโครงสร้างหนี้ของ PICNI แล้วเสร็จและควบรวมบริษัทเป็น บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ WP ฐานะการเงิน “แข็งแกร่งมากขึ้น” นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทเมื่อ 24 พ.ย.2557 ถึงปัจจุบัน
ทาง WP ไม่มีหนี้เงินกู้ระยะสั้น หนี้สินหมุนเวียนส่วนใหญ่อยู่ในรูปเจ้าหนี้การค้า ซึ่งมีระยะเวลาจ่ายเงินให้เจ้าหนี้การค้าประมาณ 20-22 วัน
ส่วนเงินกู้ระยะยาวมีจำนวนเพียงกว่า 200 ล้านบาท สำหรับเงินมัดจำรับจำนวนกว่า 3 พันล้านบาทต่อปี ที่บันทึกเป็นส่วนหนึ่งของหนี้สินไม่หมุนเวียนนั้น เป็นเงินมัดจำค่าถังบรรจุแก๊สที่บริษัทรับจากลูกค้า เงินดังกล่าวจะลดลงเมื่อลูกค้านำถังมาคืน
ด้าน D/E ที่ไม่รวมเงินมัดจำค่าถัง ลดลงต่อเนื่องจาก 2.9 เท่าในปี 2559 เหลือ 2.1 เท่าในงวด 9 เดือนแรกปี 2560
ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 มีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 53.77 ล้านบาท หรือ 0.1037 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 29.81 ล้านบาท หรือ 0.0575 บาทต่อหุ้น ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 มีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 136.70 ล้านบาท หรือ 0.2636 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 37.74 ล้านบาท หรือ 0.0728 บาทต่อหุ้น
ด้วยฐานะการเงินที่มีความแข็งแกร่งขึ้นทำให้ WP กลับมาเทรดในตลาดรอบใหม่อีกครั้ง หลังจากถูกมรสุมทางการเงินจากมหากาพย์ฉ้อฉลในสมัยของ PICNI ซึ่งเป็นฝันร้ายของนักลงทุนกระหน่ำอย่างรุนแรง จนกระทั่งถูกพักการซื้อบนกระดานหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯนานหลายปี
การกลับมาของ WP จะช่วยลบแผลเก่าหรือล้างตำนานของยุคที่สามในชื่อหุ้น PICNI ให้หายออกไปจากนักลงทุนเสียที
สำหรับ WP ดำเนินธุรกิจค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือ LPG ภายใต้แบรนด์ “World Gas” มีปริมาณขายต่อปีประมาณ 9.3-9.4 แสนตัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดในประเทศ 21% เป็นอันดับ 3 รองจาก PTT (39%) และ SGP (25% รวมยูนิคแก๊ส)
ลูกค้าหลักของ WP ใน 48% เป็นลูกค้าที่นำก๊าซ LPG ไปใช้เป็นก๊าซหุงต้ม (Cooking) ส่วนอีก 43% เป็นลูกค้าที่ใช้ในภาคขนส่ง (ปั๊ม LPG) และอีก 9% เป็นลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรม (Industrial)
ทั้งนี้ในยุคของหุ้น WP มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรก (ข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 5 ตุลาคม 2560) ได้แก่ นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา มีสัดส่วน 18.63% อันดับ 2 นายไพศาล พาณิชย์ชะวงศ์ มีสัดส่วน 14.94% อันดับ 3 นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ มีสัดส่วน 13.58% อันดับ 4 นายชัชวาลย์ เจียรวนนท์ มีสัดส่วน 7.29% และอันดับ 5 นายพิศาล พุ่มพันธุ์ม่วง มีสัดส่วน 7.03%
ทั้งนี้ในปัจจุบัน WP มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 518.50 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท จำนวนหุ้น 518.50 ล้านหุ้น
สำหรับการเข้ามาโลดแล่นของ WP อาจไม่รู้อนาคตที่แท้จริงได้ ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของผู้บริหารเท่านั้น “จะบอกได้ว่าจะออกหัวหรือออกก้อย”
…