PLAT กำไรแจ๋ว

หากนักลงทุนติดตามความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบนกระดานของ PLAT ในช่วงระยะปลายปี 2560 จนถึงปัจจุบัน จะเห็นได้ว่า ราคาหุ้นมีการเหวี่ยงในกรอบกว้าง ซึ่งแตกต่างจากอดีตที่ราคาหุ้นเหวี่ยงในกรอบแคบ และราคาหุ้นมีการปรับตัวดีขึ้นเห็นได้ชัดเจน


คุณค่าบริษัท

หากนักลงทุนติดตามความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบนกระดานของ บริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PLAT ในช่วงระยะปลายปี 2560 จนถึงปัจจุบัน จะเห็นได้ว่า ราคาหุ้นมีการเหวี่ยงในกรอบกว้าง ซึ่งแตกต่างจากอดีตที่ราคาหุ้นเหวี่ยงในกรอบแคบ และราคาหุ้นมีการปรับตัวดีขึ้นเห็นได้ชัดเจน

โดยการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนดูจากเริ่มจากช่วงกลางเดือน ส.ค. 2560 ราคาหุ้นอยู่แถว 7 บาท แล้วจากนั้นค่อยๆ ขยับขึ้นไปจนไปปิดสูงสุด 9.40 บาท (ช่วงเดือน ต.ค. 2560) แล้วราคาหุ้นก็เหวี่ยงไปเหวี่ยงมาจนช่วงต้นเดือน ม.ค. 2561 ราคาหุ้นลงมาต่ำที่ระดับ 7.85 บาท อย่างไรก็ตามก็มีแรงซื้อกลับจนทำให้ราคาหุ้นค่อยๆ ปรับตัวขึ้นรอบใหม่จนในที่สุด ณ ราคาปิดปัจจุบันเมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2561 ปิดที่ระดับ 8.55 บาท

นั่นก็หมายความว่าช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ราคาหุ้นมีการขยับขึ้นต่อเนื่อง อาจเป็นการเก็งกำไรในส่วนของผลประกอบการของปี 2560 เติบโตในเกณฑ์ดี…ซึ่งเป็นไปตามคาด…เพราะรายได้และกำไรออกมาแจ๋ว…

ด้วยผลการดำเนินงานงบปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2560 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 2,058.77 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,863.20 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 771.94 ล้านบาท หรือ 0.28 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 704.15 ล้านบาท หรือ 0.25 บาทต่อหุ้น

เป็นผลมาจากโครงการเดอะ แพลทินัมฯ มีการปรับขึ้นค่าเช่า ให้เช่าพื้นที่จัดกิจกรรมการตลาดมากขึ้น ตลาดนีออนมีอัตราการเข้าเช่าพื้นที่สูงขึ้นหลังจากมีการปรับโซนร้านค้าและเพิ่มวันเปิดบริการ ขณะที่รายได้ธุรกิจอาหารเพิ่มขึ้นในช่วงไฮซีซั่นซึ่งมีนักท่องเที่ยวมากขึ้น รายได้ธุรกิจโรงแรมเติบโตจากค่าห้องพักเฉลี่ยและอัตราเข้าพักเพิ่มขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น อีกทั้งสัดส่วนค่าใช้จ่ายต่อยอดขายลดลงจากการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2561 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการงวดครึ่งปีหลังของปี 2560 ในอัตรา 0.20 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดให้วันที่ 7 พ.ค. 2561 เป็นวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 23 พ.ค. 2561

ขณะที่นักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง คาดกำไรสุทธิปี 2561 เติบโตประมาณ 5% เนื่องจากอยู่ในช่วงเตรียมเปิดโครงการใหม่ คือ เดอะมาร์เก็ต แบงคอก ในไตรมาส 4/2561 ซึ่งจะมีการบันทึกค่าใช้จ่ายด้านพนักงานและการทำการตลาดในการเปิดโครงการเข้ามาก่อนขณะที่รายได้ยังเข้ามาไม่มากนัก แต่เราคาดกำไรจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปี 2562 ซึ่งจะมีรายได้จากโครงการ เดอะมาร์เก็ตฯ เข้ามาเต็มปี

ปรับคำแนะนำจาก “ซื้อ” เป็น “ถือ” เนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องจนมีอัพไซด์จำกัดเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมาย 9.20 บาท

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. นายสุรชัย โชติจุฬางกูร 791,422,500 หุ้น 28.27%
  2. นางปัญจพร โชติจุฬางกูร 491,426,800 หุ้น 17.55%
  3. นายวุฒิชัย วิจิตรธนารักษ์ 225,186,300 หุ้น 8.04%
  4. นางพรรณพิลัย ลิมปิวิวัฒน์กุล 108,459,300 หุ้น 3.87%
  5. นายชัชวาล พงษ์สุทธิมนัส 92,000,000 หุ้น 3.29%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายพลากร สุวรรณรัฐ ประธานกรรมการ
  2. นายพลากร สุวรรณรัฐ กรรมการอิสระ
  3. นายสุรชัย โชติจุฬางกูร ประธานกรรมการบริหาร
  4. นายสุรชัย โชติจุฬางกูร รองประธานกรรมการ
  5. นายชาญชัย พันธุ์โสภา กรรมการผู้จัดการใหญ่

Back to top button