TKSสยายปีกรุกตปท.ปั๊มรายได้ปี58โต10%
ในปี 2558 TKS วางเป้ารายได้ปีนี้ 1,700 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 10% จากปีก่อน ลุยขยายไลน์ธุรกิจใหม่ผ่านการซื้อกิจการหรือร่วมทุน พร้อมเดินหน้ารุกเจาะตลาดต่างประเทศ
“ศิริวรรณ สุกัญจนศิริ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.เคเอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS เปิดเผยว่า ในปี 2558บริษัทตั้งเป้าจะมีรายได้อยู่ที่ 1,700 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 10% จากปีก่อน แม้ว่าภาพรวมอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ในปี 2558 น่าจะใกล้เคียงกับปีก่อนที่ติดลบ แต่บริษัทก็ยังเชื่อมั่นว่าจะเติบโตได้ เพราะมีแผนจะสร้างการเติบโตด้วยการขยายออกไปยังตลาดต่างประเทศ และเข้าไปลงทุนซื้อกิจการหรือร่วมทุน
โดยในปี 2557ที่ผ่านมาแม้ว่าอุตสาหกรรมจะติดลบ แต่บริษัทก็สามาถมีผลประกอบการที่เติบโตได้ โดยในปี 2557 บริษัทมีกำไรสุทธิ 280 ล้านบาท เติบโตจากปี 2556ที่มีกำไรสุทธิ 233 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้รับงานพิเศษเฉพาะฤดูกาลอย่างงานพิมแสตมป์เซเว่นฯ และงานอื่นๆ เข้ามา ทำให้สามารถเติบโตได้มากกว่าอุตสาหกรรม
สำหรับธุรกิจที่บริษัทสนใจจะเข้าไปซื้อกิจการหรือร่วมทุนนั้น จะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโลจิสติกส์และธุรกิจบรรจุภัณฑ์อาหาร ซึ่งเป็นการแตกไลน์ไปยังธุรกิจใหม่ของบริษัท จากเดิมที่บริษัทเป็นผู้ประกอบการ ซึ่งผลิตและจำหน่ายแบบพิมพ์ธุรกิจ แบบพิมพ์ซีเคียวริตี้ บริการพิมพ์ระบบดิจิตอล กระดาษพิมพ์ต่อเนื่องสำหรับคอมพิวเตอร์และบริการคลังสินค้าแบบพิมพ์ โดยทั้งหมดนั้นเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสิ่งพิมพ์ทั้งหมด
“การแตกไลน์ออกไปยังธุรกิจโลจิสติกส์และบรรจุภัณฑ์นั้น เป็นหนึ่งในแผนการสร้างการเติบโต ให้แก่บริษัทในปี 2558 ซึ่งเป็นการแตกไลน์ออกไปนอกกลุ่มธุรกิจหลักในปัจจุบันที่บริษัทดำเนินการอยู่คือสิ่งพิมพ์ โดยในไตรมาส 2/58 นี้จะเห็นความชัดเจนจากการเข้าไปลงทุนซื้อกิจการหรือร่วมทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์และบรรจุภัณฑ์อาหาร ส่วนจำนวนเงินลงทุนนั้นยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะใช้เท่าไหร่ เพราะการพูดคุยยังไม่ถึงขั้นนั้น”
ส่วนเงินทุนไม่ใช่ปัญหาของบริษัท เพราะบริษัทมีกระแสเงินสดอยู่ในเกณฑ์ที่ดี อีกทั้งอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ของบริษัทไม่สูงมาก ประกอบกับบริษัทมองว่าการเข้าไปลงทุนไม่ได้มีความหมายจำกัดว่าจะต้องนำเงินเข้าไปลงทุนเพียงอย่างเดียว ยังมีอีกหลายวิธี เช่น การแลกหุ้น เป็นต้น
ทั้งนี้ แผนการรุกไปยังตลาดต่างประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในช่องทางสร้างการเติบโตให้แก่บริษัท ตอนนี้บริษัทอยู่ในขั้นตอนของการพูดคุยกับพันธมิตรท้องถิ่นแล้ว สำหรับประเทศที่บริษัทสนใจเข้าไปลงทุน คือ ประเทศพม่า เพราะพม่าเป็นประเทศที่กำลังมีการเติบโตทางเศรษฐกิจ อีกทั้งธุรกิจที่บริษัทจะเข้าไปลงทุนก็เป็นธุรกิจสิ่งพิมพ์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท ซึ่งคาดว่าตลาดในประเทศพม่าค่อนข้างมีความต้องการเป็นอย่างมาก
กรรมการผู้จัดการ TKS กล่าวว่า สำหรับแผนการเข้าไปลงทุนในประเทศพม่านั้น คาดประมาณช่วงไตรมาส 2/58 จะเห็นความชัดเจนจากการเข้าไปร่วมลงทุนกับพันธมิตรท้องถิ่น ซึ่งบริษัทมองว่าการที่แตกไลน์ไปยังธุรกิจใหม่และการรุกไปยังตลาดต่างประเทศ จะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างการเติบโตให้แก่บริษัท ไม่จำกัดเฉพาะในปี 2558แต่จะต่อยอดไปถึงการเติบโตของบริษัทในปี 2559ด้วย
ทั้งนี้ นอกจากบริษัทจะเป็นผู้ประกอบการธุรกิจแล้ว ยังได้มีการลงทุนเข้าไปถือหุ้นในบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯด้วย โดยการเข้าไปลงทุนถือหุ้น ซึ่งจะมีทั้งการลงทุนเข้าไปถือหุ้นในบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องในเชิงโครงสร้างผู้ถือหุ้น ได้แก่บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX ที่บริษัทถือหุ้นอยู่ในสัดส่วนประมาณ 38.51 % และการลงทุนเข้าไปถือหุ้นในบริษัท ที่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทในแง่ของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกัน ได้แก่ บริษัท ไทยบริติช ซีเคียวริตี้ พริ้นติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TBSP ที่บริษัทถือหุ้นอยู่ในสัดส่วนประมาณ 19.89 % โดยทั้งสองบริษัทก็ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของเงินปันผลกับบริษัทเป็นอย่างดีมาตลอด โดยตอนนี้บริษัทยังไม่มีความสนใจที่จะเข้าไปลงทุนในหุ้นของบริษัทอื่นอีก
สำหรับนโยบายการปันผลของบริษัทนั้น ได้กำหนดไว้ว่าจะปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิในแต่ละปีที่มีผลกำไรจากการดำเนินงาน แต่ทั้งนี้จะต้องไม่มีขาดทุนสะสมในส่วนของผู้ถือหุ้น ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้มีการจ่ายปันผลที่ดีอย่างต่อเนื่องมาตลอด โดยในปี 2557 ที่ผ่านมา บริษัทได้มีการจ่ายปันผลทั้งการปันผลระหว่างกาล ซึ่งได้จ่ายในอัตราหุ้นละ 0.15 บาทของจำนวนหุ้นทั้งหมด 327 ล้านบาท รวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 49 ล้านบาท และได้จ่ายไป ณ วันที่ 10 กันยายน 2557
ส่วนการจ่ายเงินปันผลประจำงวดปี 2557 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2558 มีมติเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลังของปี 2557 (1 ก.ค.-31 ธ.ค.57) เป็นหุ้นปันผลและเงินสดรวมหุ้นละ 0.50 บาท แบ่งเป็นจ่ายเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.40 บาท และจ่ายเป็นหุ้นสามัญในอัตรา 10 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ คิดเป็นอัตราจ่ายหุ้นละ 0.10 บาท โดยจ่ายเป็นหุ้นสามัญของบริษัทจำนวนไม่เกิน 32.75 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท
ทั้งนี้ ถ้าผู้ถือหุ้นอนุมัติจะสามารถจ่ายปันผลได้ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2558 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) จะในวันที่ 30 มีนาคม 2558 ส่วนวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล ตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ จะเป็นวันที่ 2 เมษายน 2558