ขายเมื่อความจริงโผล่
*บรรยากาศการลงทุนยามนี้ไม่มีอะไรต้องซีเรียสมากก็จริง แต่ก็ไม่มีอะไรต้องลิงโลดแบบไร้ขอบเขต เพราะอาการที่เป็นอยู่ ณ เวลานี้เกิดจากประเด็นขายเมื่อความจริงโผล่ หรือภาษาฝรั่งเขาเรียกกันว่า sell on fact จึงเห็นหุ้นจำนวนมากถูกเทขายทำกำไรกันอย่างถ้วนหน้า และเหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่ง “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับเข้าใจรูปเกมในเที่ยวนี้ด้วยนะคะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*บรรยากาศการลงทุนยามนี้ไม่มีอะไรต้องซีเรียสมากก็จริง แต่ก็ไม่มีอะไรต้องลิงโลดแบบไร้ขอบเขต เพราะอาการที่เป็นอยู่ ณ เวลานี้เกิดจากประเด็นขายเมื่อความจริงโผล่ หรือภาษาฝรั่งเขาเรียกกันว่า sell on fact จึงเห็นหุ้นจำนวนมากถูกเทขายทำกำไรกันอย่างถ้วนหน้า และเหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่ง “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับเข้าใจรูปเกมในเที่ยวนี้ด้วยนะคะ
* เมื่อทุกอย่างยังไม่เข้ารูปเข้ารอยเหมือนที่หลายคนมองไว้ก่อนหน้านี้ “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่แรงซื้อแรงขายกระจุกตัวอยู่ในหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง เพราะเวลานี้เป็นการเล่นหุ้นแบบรายตัวเป็นหลัก เมื่อผู้เล่นเห็นว่า “ใช่” ก็ใส่ไปเลยสุดตัว ในมุมกลับกัน หากเห็นว่า “ไม่ใช่” ก็สาดหุ้นออกมาไม่ยั้งเช่นกัน วานนี้ถึงเป็นอีกหนึ่งวันที่ดัชนีแกว่งตัวแบบไร้ทิศทางตลอดทั้งวันไงล่ะคะ
* จุดที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ ดัชนีดันแกว่งตัวเหมือนรอข่าวดีอะไรบางอย่างตลอดเวลา สุดท้ายกลับไร้ร่องรอยของข่าวดีชิ้นดังกล่าวปรากฏให้เห็น ก่อนจะมารู้ทีหลังกันอย่างพร้อมหน้าค่าตาว่า ไร้กำหนดเลือกตั้ง! แรงซื้อเลยแปรเปลี่ยนเป็นแรงเทขายอย่างรวดเร็ว ก่อนจะฉุดดัชนีลงมาปิดที่ 1,788.63 จุด ลบไป 12.53 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขาย 8.41 หมื่นล้านบาท มันเป็นสถานการณ์ที่ทำให้ทุกอย่างดูแย่ไปหมดเจ้าค่ะ
* ด้วยเหตุนี้ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับเข้าใจบริบทของเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างเต็มใจ เพราะไม่มีประโยชน์ที่จะฝืนธรรมชาติของการลงทุน ในเมื่อทุกคนไม่มีความเชื่อมั่น ก็ต้องเทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงออกมาก่อน ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นกลับเข้าสู่ช่วงของการห่อเหี่ยวอีกครั้ง และดูเหมือนเที่ยวนี้จะมีอาการหนักกว่าเดิมเสียด้วย จึงต้องเตรียมตัวรับแรงกระแทกให้ดีนะคะ
* ขนาดพ่อพานทองแท้ PTT กระชากขึ้นมาปิดที่ 540 บาท บวกไป 18 บาท หรือขึ้นไป 3.45% ด้วยมูลค่า 1.79 หมื่นล้านบาท ยังช่วยอะไรได้ไม่มากสักเท่าไหร่ “โมนิก้า” ถึงกล้าฟันธงว่า หุ้นตัวนี้ยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งมาจากข่าวดีส่วนตัวที่บริษัทปั้นเอง จึงสามารถยืนบวกสวนภาวะตลาดหุ้นได้อย่างยอดเยี่ยม เพียงแต่วันนี้ยังต้องลุ้นกันอีกเฮือกใหญ่ๆ นะจะบอกให้
* เหมือนกับในรายของ PTTGC ยืนหยัดปิดที่ระดับ 93.75 บาท บวกไป 0.50 บาท ด้วยมูลค่า 3.61 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลเป็นอย่างยิ่ง เพราะหุ้นเทรดบนค่า P/E 11 เท่า ซึ่งน้อยเกินไปสำหรับหุ้นที่มี growth อย่างชัดเจนในปีนี้ เดี๊ยนถึงกล้าฟันธงว่า ราคาขั้นต่ำที่เหมาะสมสำหรับหุ้นตัวนี้อยู่ที่ 100 บาท หลังพรายกระซิบเม้าท์ให้ฟังว่า ผลงานในปี 2561 ยังดูดีพะย่ะค่ะ
* เม้าท์ถึงหุ้นที่มีสถานภาพดีแล้ว ขอย้อนกลับมาดูหุ้นที่เคยดี ต่อจากนั้นแย่ลงเรื่อยๆ และกำลังจะยืนได้อีกครั้งอย่าง BEM สักหน่อย เพราะเริ่มมีแรงซื้อเข้ามาพยุงหุ้นเป็นระยะ จึงเชื่อว่า ในไม่ช้าหุ้นจะดีดกลับขึ้นมาได้ บวกกับหุ้นลงมาถึงจุด oversold มาระยะหนึ่ง “โมนิก้า” ถึงมองราคาปิดที่ 7.30 บาท ลบไป 0.10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 372 ล้านบาท เป็นจุดที่ทยอยเก็บของได้สบายๆ นะคะ
* ส่วนรายที่ไม่ควรเอามือไปรับของร้อนอย่างหุ้น CBG กลายเป็นช็อตอันตรายที่มองแล้วไม่คุ้มในทุกๆ ด้านของการเล่น เพราะผลงานปี 2560 ออกมาแย่กว่าที่มีการเม้าท์มอยปากต่อปาก รวมทั้งราคาปิดที่ระดับ 59.75 บาท ลบไป 9.75 บาท หรือลงไป 14% ด้วยมูลค่า 2.39 พันล้านบาท ก็ยังอยู่สูงกว่าระดับปลอดภัยที่บริเวณต่ำกว่า 50 บาท จึงไม่มีประโยชน์ที่จะเอาตัวเข้าไปเสี่ยงเจ้าค่ะ
* เช่นเดียวกับในรายของ TKN มีมือมืดสาดทิ้งครั้งแล้วครั้งเล่า จนมองไม่เห็นจุดเด้งกลับอยู่ตรงบริเวณไหน? “โมนิก้า” ถือเป็นลางร้ายสำหรับหุ้นที่หมดเสน่ห์เรื่องเติบโต เพราะขนาดหุ้นลงมายืนในเขตขายมากเกินไปมาระยะหนึ่ง แต่แรงเทขายกลับไม่เบาบางลงเลย จึงไม่แปลกใจที่หุ้นทรุดลงมายืนอยู่ที่ 18 บาท ลบไป 1.80 บาท หรือลงไป 9% ด้วยมูลค่า 174 ล้านบาทไงล่ะคะ
* เหมือนกับในรายของ WP ถูกมือที่มองไม่เห็นทุบหุ้นในช่วงท้ายตลาด จนสุดท้ายลงมากองอยู่ที่ระดับ 8.20 บาท ลบไป 1.20 บาท หรือลงไป 12.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 130 ล้านบาท พร้อมกับทำ new low ตั้งแต่กลับมาเทรดใหม่เมื่อไม่นานมานี้ “โมนิก้า” มองเป็นเกมอันตรายสำหรับการเล่นเที่ยวนี้ เพราะมันหมายความว่า คนที่กล้าสาดหุ้นลงมาเป็นคนที่มีต้นทุนต่ำกว่าราคาในกระดานเยอะ..จริงไหมตัวเอง