BH กำไรดี ปันผลเลิศ

ถือว่า บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH จัดเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียง การรักษาเป็นที่ยอมรับ และเป็นขวัญใจของผู้ป่วยชาวต่างชาติ ทำให้พื้นฐานธุรกิจมีความมั่นคงสูงและมีศักยภาพโตต่อเนื่องในระยะยาว


คุณค่าบริษัท

ถือว่า บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH จัดเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียง การรักษาเป็นที่ยอมรับ และเป็นขวัญใจของผู้ป่วยชาวต่างชาติ ทำให้พื้นฐานธุรกิจมีความมั่นคงสูงและมีศักยภาพโตต่อเนื่องในระยะยาว

เช่นเดียวกับในช่วงปี 2561 แนวโน้มผลประกอบการยังสดใสต่อเนื่องดังช่วงที่ผ่านๆ มา…

ทำไมจึงกล่าวเช่นนั้น เพราะด้วยปัจจัยขับเคลื่อนทั้งจากนโยบายปรับขึ้นค่าบริการราวปีละ 5% บวกกับอัตราเข้ารักษาโรครุนแรงซับซ้อนที่เพิ่มขึ้น อย่างเช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคความดัน เป็นต้น

อีกทั้งจำนวนผู้ป่วยที่มาใช้บริการที่คาดยังสดใสทั้งจากตลาดผู้ป่วยไทยที่น่าจะยังแข็งแกร่งตามกำลังซื้อในประเทศที่ดีขึ้น และจากตลาดผู้ป่วยชาวตะวันออกกลางซึ่งคาดยังฟื้นตัวดีต่อเนื่องหลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น

ที่สำคัญทางบริษัทยังมีแผนขยายตลาดผู้ป่วยกลุ่มใหม่ที่มีกำลังซื้อสูงเพื่อผลักดันการเติบโตระยะยาว เช่นประเทศในกลุ่ม CLMV คือประเทศ กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม

ปัจจัยขับเคลื่อนในช่วงปี 2561 ที่ทางผู้บริหารดำเนินการจะยังคงทำให้บริษัทรักษามาตรฐานต่อผลประกอบการได้อย่างสม่ำเสมออย่างในช่วงที่ผ่านๆ มา 

ส่วนนักวิเคราะห์ บล.เออีซี คาดว่า ในปี 2561 ทาง BH จะมีกำไรสุทธิ 4,195 ล้านบาท โต 5.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อนตามประมาณการเดิม

ส่วนผลการดำเนินงานงวดงบปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2560 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมา 18,526.59 ล้านบาท มีการเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยเทียบกับจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 18,125.79 ล้านบาท ก็ยังคงเป็นรายได้จากกลุ่มผู้ป่วยชาวไทยและกลุ่มผู้ป่วยต่างประเทศร้อยละ 2.3 และร้อยละ 3.1 ตามลำดับ

ผลดังกล่าวคงส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 3,943.89 ล้านบาท หรือ 5.41 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 3,626.17 ล้านบาท หรือ 4.98 บาทต่อหุ้น

ถือว่า BH รักษาระดับของความสามารถด้านผลกำไรสุทธิได้อย่างดีเยี่ยม…

สิ่งสำคัญ ด้านฐานะทางการเงินถือว่าดูดี เนื่องจากบริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียนรวม 10,550.33 ล้านบาท ขณะที่หนี้สินหมุนเวียนรวมแค่ 3,646.89 ล้านบาท เท่ากับว่าได้ค่า Current Ratio อยู่ที่ระดับ 2.89 เท่า แสดงว่า ทางบริษัทมีสภาพคล่องมากเหลือพอในการขยายธุรกิจ

ยิ่งกว่านั้น ทางปัญหาหนี้สินไม่น่าเป็นห่วงเลย เพราะบริษัทมีหนี้สินรวมเพียง 6,779.00 ล้านบาท ขณะที่ส่วนของผู้ถือหุ้นกลับมากถึง 16,704.95 ล้านบาท เท่ากับว่า ค่า D/E อยู่ที่ระดับ 0.41 เท่า แสดงว่า ปัญหาทางด้านหนี้สินไม่มีอะไรที่จะต้องเป็นห่วง…

นอกจากนี้ บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลจากกำไรช่วงครึ่งหลังของปี 2560 หุ้นละ 1.70 บาท คิดเป็น Div. Yield 0.86% โดยขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 7 มี.ค. 2561 และจ่ายปันผลในวันที่ 8 พ.ค. 2561

ทั้งนี้ทางนักวิเคราะห์ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ให้มูลค่าพื้นฐานปี 2561 ที่ 235 บาท

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) 149,660,706 หุ้น 20.54%
  2. บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) 106,760,417 หุ้น 14.65%
  3. UOB KAY HIAN (HONG KONG) LIMITED – Client Account 61,509,565 หุ้น 8.44%
  4. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 55,484,639 หุ้น 7.61%
  5. บริษัท บริหารสินทรัพย์ทวี จำกัด 36,632,014 หุ้น 5.03%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายชาญวิทย์ ตันติ์พิพัฒน์ ประธานกรรมการ
  2. นางลินดา ลีสหะปัญญา กรรมการผู้จัดการ
  3. นายชอง โท กรรมการ
  4. นายสมศักดิ์ เชาว์วิศิษฐ์เสรี กรรมการ
  5. นายพันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ กรรมการ

Back to top button