BSM เกินกว่าเทิร์นอะราวด์

งบการเงินที่เพิ่งประกาศของบริษัทที่กำลังเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจเพื่อเร่งโตอย่าง บริษัท บิวเดอสมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ BSM บอกให้รู้ว่า กำไรที่โดดเด่นจากตัวเลขขาดทุนปีก่อนหน้า ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และไม่ใช่ความหวือหวาชั่วคราว แต่คือการทะยานรอบใหม่ด้วยประสบการณ์และโมเดลที่มั่นใจ


แฉทุกวันทันเกมหุ้น

 

งบการเงินที่เพิ่งประกาศของบริษัทที่กำลังเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจเพื่อเร่งโตอย่าง บริษัท บิวเดอสมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ BSM บอกให้รู้ว่า กำไรที่โดดเด่นจากตัวเลขขาดทุนปีก่อนหน้า ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และไม่ใช่ความหวือหวาชั่วคราว แต่คือการทะยานรอบใหม่ด้วยประสบการณ์และโมเดลที่มั่นใจ

เป้ารายได้ปี 2561 เป็นมากกว่าแค่การเทิร์นอะราวด์ แต่เป็นจุดเริ่มของยุคใหม่ที่ไม่ใช่แค่ “จิ๋วแต่แจ๋ว” เพราะของใหม่เดินหน้า ส่วนของเก่าโตต่อเนื่อง

นายสัญชัย เนื่องสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BSM เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 2561 จะแตะที่ระดับ 800 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ จากการเดินหน้ารุกธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มตัว ผ่านบริษัท ทีค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท

ส่วนธุรกิจการผลิต และจำหน่ายอะลูมิเนียม อัลลอย และธุรกิจผลิต และจำหน่ายประตู หน้าต่าง ก็ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้า

ปี 2561 เป็นปีที่สองที่มั่นใจว่าเดินมาถูกทาง จากการย้ายความสนใจสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด จากการลงทุนขยายธุรกิจเป็นผู้พัฒนาอสังหาฯอย่างเต็มรูปแบบ

ผลประกอบการประจำปี 2560 ที่ BSM แสดงตัวเลขกำไรสุทธิอยู่ที่ 35.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.16 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 434.24% เมื่อเทียบกับผลประกอบการประจำปี 2559 ที่ขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 10.63 ล้านบาท ถือว่าเป็นกำไรสุทธิที่สูงเป็นประวัติการณ์ ระดับ all time high ในขณะที่บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 562.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.55 ล้านบาท หรือ 7.97% เมื่อเทียบกับผลประกอบการประจำปี 2559 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 521.15 ล้านบาท

นายสัญชัย กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของรายได้และกำไรสุทธิในปีที่ผ่านมา เกิดจากการที่บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นในผลิตภัณฑ์ที่มีความสามารถในการทำกำไรสูง คือผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียมสำหรับตกแต่งภายใน หรือ Aluminum for Interiors ซึ่งส่งผลให้บริษัทมีอัตราส่วนการทำกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 26.58% เป็น 29.84% ในปี 2560 ประกอบกับบริษัทได้ปรับปรุงระบบการบริหารจัดการภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลง นอกจากนี้บริษัทยังสามารถบริหารต้นทุนทางการเงินดีขึ้น

ที่น่าสนใจคือ การรุกเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในฐานะ “ผู้มาทีหลัง” ไม่เป็นอุปสรรคขัดขวางโอกาสแต่อย่างใด เพราะกลยุทธ์ในการเข้าสู่ตลาดนั้น มีแบบฉบับเป็นของตนเอง

ปลายปี 2560  BSM รุกเข้าลงทุนทุ่มซื้อโครงการระดับพรีเมี่ยมชื่อ The Teak Sukhumvit 39 จากเจ้าของโครงการเดิม บริษัท แอล เค เอช ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เป็นโครงการประเภทคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น จำนวน 70 ยูนิต สำหรับเป็นที่พักอาศัยในย่านใจกลางสุขุมวิท มีมูลค่าซื้อขายที่ตีราคากันระดับ 145 ล้านบาท รวมค่าที่ดินและค่าใช้จ่ายเตรียมการเบื้องต้น อาทิ ค่าใช้จ่ายในการขอใบอนุญาตก่อสร้าง และมียอดการจองซื้อจำนวน 68 ยูนิต จาก 70 ยูนิต หรือคิดเป็น 97.14% ของจำนวนห้องชุดทั้งหมด แต่ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ ต้องสร้างต่อก่อนส่งมอบ

วิธีการเข้าซื้อโครงการ อาศัยวิศวกรรมการเงินเข้าช่วย ด้วยการที่ BSM จัดตั้งบริษัทย่อย ชื่อ บริษัท ทีค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ทุนจดทะเบียน 1.0 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 10,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท โดย BSM ถือหุ้น 99.99% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด

การเข้าซื้อที่ไม่มีการใช้เงินสด โดยที่ BSM ทำการออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 200 ล้านหุ้น ตีราคาขายหุ้นละ 0.65 บาท (มูลค่าพาร์หุ้นละ 0.10 บาท) ให้กับผู้ถือหุ้นของ บริษัท แอล เค เอช ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ในลักษณะของการทำสว็อปหุ้น โดยจัดสรรหุ้นให้แก่ นายวรุตม์ ภาณุพัฒนพงศ์ จำนวน 140 ล้านหุ้น ส่วนที่เหลืออีก 60 ล้านหุ้น แบ่งเฉลี่ยให้กับอีก 3 คนคือ นายวิศวัฒน์ แสงอรุณ, นายภูริชญ์ กูลโฆษะ และนายพรรษนนท์ ฉินทองประเสริฐ ทำให้ทรัพย์สินของบริษัท แอล เค เอช ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กลายมาเป็นทรัพย์สินของบริษัทย่อยที่ตั้งขึ้นมาใหม่ของ BSM โดยที่บริษัทแม่ไม่ต้องปรับแก้โมเดลธุรกิจใหม่ แต่ได้เพิ่มสินทรัพย์เข้ามาผ่านทางบริษัทย่อยในเครือข่ายแทน

ผลของการสว็อปหุ้น ทำให้ BSM ต้องเพิ่มทุนอีก 200 ล้านหุ้น คิดเป็น 9.5% ของจำนวนหุ้นเดิมในราคาที่สูงกว่าพาร์ ก็ไม่ได้ทำให้เสียหายอะไรเพราะ BSM ตีราคาสว็อปขายหุ้นสูงกว่าพาร์ มีส่วนเหลื่อมมูลค่าหุ้นเพิ่ม….แม้จะต่ำกว่าราคาหน้ากระดาน

การได้โครงการใหม่ที่สุขุมวิท ประจวบเหมาะกับโครงการ แซน-สรา ที่หัวหินของ BSM  ประกอบไปด้วยที่พักอาศัยแบบวิลล่า และคอนโดมิเนียมสไตล์รีสอร์ท ที่มีการบริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แล้วเสร็จและเริ่มบันทึกรายได้บางส่วน และคาดหมายผลตอบแทนระยะยาวได้ดีในอนาคต ….ทำให้เกิดความต่อเนื่องในระยะยาว รายได้ไม่สะดุด แม้จะเป็นโครงการเล็กๆ

จังหวะลงทุนใน The Teak ในช่วงเวลาที่งบการเงินของ BSM เริ่มกลับมาเทิร์นอะราวด์สวยงาม และ…ธุรกิจเดิมของบริษัท ดีแอนด์ดับบลิว (เอเชีย) จำกัด (D&W) ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายประตู หน้าต่าง กลับมามีผลกำไร หลังจัดการต้นทุนที่ดี….จึงเป็นจังหวะเหมาะ ขาขึ้นที่เกิดจากฝีมือของคู่หู “แฝดคนละฝา” อย่าง นายสุเรซ ซูบรามาเนียม ประธานกรรมการบริหาร และนายสัญชัย เนื่องสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

ปีนี้ หุ้นจิ๋วแต่แจ๋ว อย่าง BSM น่าจะถึงเวลาทะยานพร้อมกับกำไรต่อหุ้นอีกครั้ง เพราะล่าสุดค่า PEG อยู่ที่ต่ำกว่า 1 เท่า มีอัพไซด์เหลือเฟือ …ซื้อราคาเท่าไหร่ก็ไม่แพง

….อิ อิ อิ

Back to top button