GPI เดินหน้าโตต่อ

มีการคาดการณ์จากนักวิเคราะห์ว่าในปี 2561 ทางด้าน บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI ดีขึ้นกว่าเก่าด้วยทั้ง 3 ปัจจัยหนุนดังนี้


คุณค่าบริษัท

มีการคาดการณ์จากนักวิเคราะห์ว่าในปี 2561 ทางด้าน บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI ดีขึ้นกว่าเก่าด้วยทั้ง 3 ปัจจัยหนุนดังนี้

  • อานิสงส์บวกจากการฟื้นตัวของธุรกิจยานยนต์ในประเทศ โดยล่าสุดสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) คาดปีนี้ยอดขายรถยนต์ในประเทศจะอยู่ที่ระดับ 9 แสนคัน เติบโต 3.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หนุนให้บริษัทมีโอกาสปรับขึ้นค่าเช่าพื้นที่จัดแสดงสินค้า Bangkok International Motor Show
  • การรุกธุรกิจจัดแสดงสินค้าด้านยานยนต์ที่ประเทศเมียนมา
  • การรับงานพิมพ์พิเศษเพิ่มขึ้น

สำหรับปัจจัยดังกล่าวทำให้นักวิเคราะห์ คาดปี 2561 จะมีกำไรสุทธิ 160 ล้านบาท เติบโต 14.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ตามประมาณการเดิม

ที่สำคัญผลการดำเนินงานงบปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2560 บริษัทมีรายได้จากการขายหรือการให้บริการขยับขึ้นมาอยู่ที่ 814.92 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 752.62 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 140.17 ล้านบาท หรือ 0.28 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 111.67 ล้านบาท หรือ 0.24 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นผลจากรายได้ธุรกิจจัดงานแสดงสินค้าหรือกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่เพิ่มขึ้นจากการจัดงาน Air Race 1 World Cup Thailand 2017 (17-19 พ.ย. 2560) มีรายได้มากขึ้น และธุรกิจรับจ้างพิมพ์ที่เพิ่มขึ้น

หากวิเคราะห์ฐานะทางการเงินเพื่อเป็นตัวแปรในการตัดสินใจต่อการลงทุน พบว่าฐานะทางการเงินของบริษัทยังดูดี เพราะบริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียนมากถึง 906.68 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับหนี้สินหมุนเวียนเพียง 320.78 ล้านบาท ได้ค่า CURRENT RATIO อยู่ที่ระดับ 2.83 เท่า ถือว่าสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทมากพอสมควรในการขยายกิจการ

ส่วนหนี้สินของบริษัทไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง เพราะบริษัทมีหนี้สินรวมแค่ 342.99 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้นมากถึง 741.91 ล้านบาท ได้ค่า D/E อยู่ที่ระดับ 0.46 เท่า แสดงว่า ปัญหาหนี้สินของบริษัทยังไม่มีมารบกวน

เพื่อสะท้อนโมเดลธุรกิจที่มีความมั่นคงของรายได้และสร้างกระแสเงินสดได้สม่ำเสมอ ซึ่งเป็นผลจากประสบการณ์และชื่อเสียงในธุรกิจจัดงานแสดงสินค้ายานยนต์ที่ยาวนานกว่า 38 ปี บวกกับปี 2561 กำไรมีแนวโน้มโตต่อจากงวดเดียวกันของปีก่อน

อีกทั้งราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside 45.1% จากมูลค่าพื้นฐานปี 2561 ที่ 4.70 บาท (วิธี DCF) ดังนั้น บล.เออีซี จึงคงแนะนำ “ซื้อ”

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. นายปราจิน เอี่ยมลำเนา 300,832,000 หุ้น 50.14%
  2. นายอโณทัย เอี่ยมลำเนา 62,710,050 หุ้น 10.45%
  3. นายพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา 62,710,050 หุ้น 10.45%
  4. นายวิรุฬห์ ปริวุฒิพงศ์ 13,400,000 หุ้น 2.23%
  5. นางรุจิโรจ เอี่ยมลำเนา 12,542,100 หุ้น 2.09%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายยุทธ วรฉัตรธาร ประธานกรรมการ
  2. นายยุทธ วรฉัตรธาร กรรมการอิสระ
  3. นายปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
  4. นายปราจิน เอี่ยมลำเนา กรรมการ
  5. นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ กรรมการ

Back to top button