CCET เป๋หนัก?
ถ้าให้อาจารย์พูดถึงหุ้นพื้นฐานดี แต่ไม่เป็นที่นิยม แถมราคาหุ้นก็แกว่งตัวแคบๆ เป็นเวลาหลายเดือน คงต้องพุ่งเป้าไปที่เรื่องผลประกอบการมากกว่าประเด็นอื่น เพราะทุกครั้งที่เกิดเรื่องลักษณะนี้ขึ้นมาทีไร มักเห็นผลการดำเนินงานของบริษัทนั้นๆ มีปัญหาเป็นประจำ
ตีแผ่บจ.ดัง
คุณปฐมพร จากบางกะปิ กรุงเทพฯ พูดถึงสถานการณ์ของหุ้น CCET หรือ บริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มีประเด็นให้คิดเพียงเรื่องเดียวคือ ทำไมราคาหุ้นถึงทรุดโทรมเหลือเกิน ทั้งที่ทิศทางการทำธุรกิจก็ยังไปได้เรื่อยๆ กำไรก็ไม่ได้ลดจนทำให้บริษัทอยู่ในขั้นวิกฤติ จึงอยากให้อาจารย์ช่วยประเมินสถานการณ์ต่อไปของหุ้นตัวนี้จะเป็นอย่างไร? เพราะไม่ค่อยเห็นนักวิเคราะห์พูดถึงหุ้นตัวนี้สักเท่าไหร่เลยครับ
ถ้าให้อาจารย์พูดถึงหุ้นพื้นฐานดี แต่ไม่เป็นที่นิยม แถมราคาหุ้นก็แกว่งตัวแคบๆ เป็นเวลาหลายเดือน คงต้องพุ่งเป้าไปที่เรื่องผลประกอบการมากกว่าประเด็นอื่น เพราะทุกครั้งที่เกิดเรื่องลักษณะนี้ขึ้นมาทีไร มักเห็นผลการดำเนินงานของบริษัทนั้นๆ มีปัญหาเป็นประจำ
โดยประเด็นดังกล่าวเชื่อมโยงโดยตรงกับความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ และยังครอบคลุมถึงการบริหารจัดการต้นทุนที่หย่อนประสิทธิภาพ ส่งผลให้บริษัทมีกำไรลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้นักวิเคราะห์หันไปพูดถึงหุ้นตัวอื่นแทน
สถานการณ์ข้างต้นเหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับหุ้น CCET หรือ บริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้รับความนิยมในช่วงแรกๆ ที่เข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้น แต่หลังจากนั้นกลับไม่ค่อยได้รับความนิยม ล้วนมาจากตัวเลขกำไรที่ลดลงในช่วงที่ผ่านมา ทำให้นักวิเคราะห์ไม่มั่นใจว่าหุ้นตัวนี้จะเป็นทางเลือกที่ดีในการลงทุนนั่นเอง
ที่สำคัญคือ เมื่อดูจากตารางข้อมูลสำคัญทางการเงินด้านล่างจะเห็นว่า เสน่ห์ความน่าสนใจของหุ้น CCET หดหายลงไปมากจริงๆ ซึ่งเป็นปัญหาที่ยากจะแก้ไขได้ในเวลาอันสั้น ผนวกกับราคาหุ้นยังทรงๆ อยู่ที่เดิม จึงทำให้แก๊ปในการเข้าลงทุนแคบเกินไป
ยิ่งถ้ามองในแง่ของค่า P/E ที่ระดับ 10 เท่า เทียบกับกำไรในอนาคตมีแนวโน้มลดลง ยิ่งทำให้เห็นว่า การเข้าลงทุน ณ เวลานี้มีแต่คำว่า “ทรง” กับ “ทรุด” และทางที่ดีที่สุดในการเข้าลงทุนในหุ้นตัวนี้ก็คือ รอให้ราคาหุ้นย่อตัวลงมาอีกสักนิดหนึ่ง ต่อจากนั้นค่อยเข้าลงทุนก็ยังไม่สายเกินไป
ในเมื่อของมันเห็นกันอยู่แล้วว่า ภาวะการลงทุนไม่ค่อยเป็นใจ บวกกับผลประกอบการของบริษัทมีแนวโน้มทรุดตัวลงอีก จึงไม่มีความจำเป็นต้องเอาตัวเข้าไปเสี่ยงในเรื่องที่รู้อยู่แก่ใจว่า ได้ไม่คุ้มเสียนะครับ
สภาแมงเม่า : ดร.สมชาย
…