กติกาล้าหลังขวางสิ่งใหม่

อารมณ์สังคมเข้าสู่โหมดเลือกตั้งแล้ว หลังการเปิดตัวพรรคใหม่ คนใหม่ ปลุกบรรยากาศการเมืองให้คึกคัก วิพากษ์วิจารณ์กันทั่วไป เผลอแป๊บเดียว รู้ตัวอีกที ก็เลื่อนเลือกตั้งไม่ได้แล้ว คนทั้งประเทศนับถอยหลัง เมื่อไหร่จะถึง ก.พ.62 เสียที


ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง 

อารมณ์สังคมเข้าสู่โหมดเลือกตั้งแล้ว หลังการเปิดตัวพรรคใหม่ คนใหม่ ปลุกบรรยากาศการเมืองให้คึกคัก วิพากษ์วิจารณ์กันทั่วไป เผลอแป๊บเดียว รู้ตัวอีกที ก็เลื่อนเลือกตั้งไม่ได้แล้ว คนทั้งประเทศนับถอยหลัง เมื่อไหร่จะถึง ก.พ.62 เสียที

แต่ปู่มีชัย ฤชุพันธ์ กลับยุให้นำร่าง พ.ร.ป.การได้มาซึ่ง ส.ว. ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความซะงั้น อ้าว แล้วจะไม่ทำให้เลื่อนเลือกตั้งอีกหรือ เพราะต้องรอกฎหมาย ส.ส. ส.ว.ใช้พร้อมกัน ปู่บอกว่าไม่กระทบโรดแมป ถ้าคำนวณแบบเต็มเหยียด ก็ยังอยู่ในกรอบเดือน ก.พ.62

เข้าใจตรงกันนะ กฎหมาย ส.ส.มีบทเฉพาะกาลให้เลื่อนใช้ 90 วัน ถ้าส่งกฎหมาย ส.ว.ให้ศาลตีความเสร็จใน 90 วัน ก็ใช้พร้อมกัน แต่ถ้าบานปลายล่ะ จะนานเท่าไหร่ อย่างน้อยก็จะพะวักพะวง และคงไม่เป็นอย่างที่วิษณุ เครืองาม พูดไว้ว่าอาจเลือกตั้งได้ตั้งแต่ ก.ย.61 ไปถึง ก.พ.62

พูดอย่างนี้ ผมสนับสนุนให้ส่งตีความนะ เพราะกฎหมายที่ผ่านกรรมาธิการ 3 ฝ่าย เละเทะสิ้นดี

กรธ.ร่างที่มา ส.ว. 200 คนจาก 20 กลุ่มอาชีพ เลือกไขว้กันทีละระดับ สนช.กลับแก้ไขเหลือ 10 กลุ่ม เลือกกันเอง แถมแบ่งเป็น 2 ประเภทคือสมัครเอง 100 คน มีองค์กรส่งสมัคร 100 คน

ผลของการตั้งกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย ลงมติให้ฉบับถาวรใช้แบบ กรธ. แต่บทเฉพาะกาล 5 ปี (ที่จะให้ลุงตู่เลือกเหลือ 50 คนอีกที) ให้ใช้ของ สนช.

ชาวบ้านทั่วไปไม่ต้องเป็นนักกฎหมาย ก็ยังสังเวช “พบกันครึ่งทาง” อย่างนี้ก็มีด้วย ไม่ต้องมีหลักกงหลักการอะไรหรือ แต่อย่างว่าแหละ คนทั่วไปเลิกสนใจมานานแล้ว เพราะรู้สึกว่าการเลือก ส.ว.ไร้ความหมาย แถม 5 ปีแรกยังให้ คสช.แต่งตั้งอีกที

แต่ฝั่งปู่มีชัยข้องใจไง ว่าการแยก ส.ว.เป็น 2 ประเภทขัดรัฐธรรมนูญไหม จึงอยากส่งศาลตีความให้เคลียร์ แต่เรื่องนี้อย่าโทษเฉพาะ สนช.เลย กรธ.ไม่เขียนรัฐธรรมนูญให้ชัด รวมทั้งเรื่องรีเซตเซตซีโร่องค์กรอิสระ ปล่อยให้ สนช.ยำใหญ่  แล้วกรธ.ก็ไม่เห็นด้วย ทำราวกับแม่น้ำ 5 สายไหลคนละทาง

กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.ที่กรรมาธิการ 3 ฝ่ายเห็นพ้องกันก็ตลก สนช.มาเพิ่มให้หาเสียงด้วยมหรสพได้ ถามจริง เพิ่มเพื่ออะไร เพื่อให้เป็นประเด็นโต้แย้งกัน? แล้วก็ตัดออกไป แต่สาระที่สำคัญกว่า อย่างให้พรรคการเมืองใช้เบอร์ต่างกันในแต่ละเขต กลับไม่มีใครสนใจ

ทำเรื่องง่ายให้ยากเข้าไว้ สำหรับพรรคการเมือง ซึ่งจะทำให้พรรคเล็กเสียเปรียบพรรคใหญ่ ที่แบรนด์ติดตลาดอยู่แล้ว ทั้งที่ปากบอกอยากให้มีพรรคใหม่ๆ คนรุ่นใหม่ๆ จะได้หลุดพ้นจากวังวนเดิม แต่เขียนกติกาให้พรรคใหญ่ได้เปรียบทุกอย่าง ตั้งแต่ระบบบัตรใบเดียว พรรคทางเลือกไม่สามารถลงแข่งเฉพาะระบบปาร์ตี้ลิสต์อย่างพรรคชูวิทย์อีก ถ้าอยากได้พรรคทั้งประเทศต้องส่งผู้สมัคร 350 เขต ซึ่งกกต.สมชัยคำนวณให้อย่างมัธยัสถ์ ค่าสมัคร 1 หมื่น ค่าใช้จ่ายต่างๆ รวม 1 แสน ก็ 35 ล้าน

นั่นทั้งๆ ที่เราอยู่ในยุคมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก 44 ล้านบัญชี แทนที่จะเอื้อให้สมัครปาร์ตี้ลิสต์หาเสียงออนไลน์ ยังต้องไปทำป้ายติดที่เขต เพราะต่างเขตต่างเบอร์

ที่ทักท้วงนี่ไม่ใช่ห่วงใคร แต่เห็นไหมล่ะ พรรค กปปส.ยังสองจิตสองใจ ต้องส่งสมัคร 350 เขตๆ ละ 200 คะแนน จึงได้ ส.ส.1 คน ลงทุนหลายสิบล้านอาจเป็นได้แค่พรรคต่ำสิบ จะไหวเรอะ

Back to top button