EA ส้มหล่นประจำปี?

ทุกปี ราคาหุ้นของบริษัทดาวรุ่งด้านพลังงานทางเลือก บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA มักจะมีอาการ “วูบ” โดยไม่มีสาเหตุเป็นกิจวัตร ปี 2561 นี้ก็เช่นกัน


แฉทุกวันทันเกมหุ้น

ทุกปี ราคาหุ้นของบริษัทดาวรุ่งด้านพลังงานทางเลือก บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA มักจะมีอาการ “วูบ” โดยไม่มีสาเหตุเป็นกิจวัตร ปี 2561 นี้ก็เช่นกัน

เดือนมีนาคมปีนี้ มีความแตกต่างจากปีก่อน ตรงที่ว่า ราคาที่ร่วงหนักชนิดใบไม้ร่วงเกิดเป็นอีกา 3 ​ตัวเกิดขึ้นหลังจากที่ราคาเพิ่งทำ “ออล ไทม์ ไฮ” ไปได้ไม่นาน แล้วก็ตามมาด้วยการทำกำไร…ทำนองเดียวกันอีก

เดือนมกราคมปีนี้ ราคาหุ้น EA ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงทำนิวไฮในรอบ 6 ปี เป็นผลมาจากล่าสุดทางนักวิเคราะห์ บล.ธนชาต เกิดอาการกินยาผิดซอง……ได้ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายใหม่หุ้น EA ขึ้นมาสูงถึง 110 บาท จากเดิม 46 บาท

นักวิเคราะห์ให้เหตุผลถึงการปรับเป้าที่เกินเป้าเดิมเกือบ 150% ว่า มีมุมมองเชิงบวกขานรับการเติบโตของธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจแบตเตอรี่กักเก็บพลังงาน (Energy storage : ES) ที่ EA จะเดินหน้าลงทุนในอนาคต พร้อมกับประเมินว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดปี 2560 ของ EA จะมีกำไรสุทธิปรับเพิ่มขึ้นเป็นระดับ 4,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงปี 2559 ที่มีกำไรสุทธิ 2,921 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากบันทึกผลตอบแทนธุรกิจไฟฟ้าทั้งโซลาร์ฟาร์มและพลังงานลมรวม 404 MW บางส่วน

ไม่เพียงเท่านั้น ยังคาดเพิ่มเติมว่า งวดปี 2561 กำไรสุทธิของ EA จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5,000 ล้านบาทได้เป็นครั้งแรก หลังจากบันทึกไฟฟ้า 404 เมกะวัตต์ ได้แบบเต็มปี และในช่วงครึ่งหลังปี 2561 ยังมีแผนทยอยผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) พลังงานลมหนุมานรวม 260 เมกะวัตต์ ซึ่งหากทางบริษัท COD ครบ 260 เมกะวัตต์ ได้ทันภายในปี 2561 จะส่งผลให้ EA มีกำลังการผลิตไฟฟ้าในมือรวมเป็น 664 เมกะวัตต์ …แม้จะไม่เต็มปี ก็ดีกว่าเดิมเยอะ

ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีมุมมองชนิด “อะไรๆ ก็ดีไปหมด” ว่า แผนลงทุนธุรกิจ ES ในเบื้องต้นเฟสแรกขนาด 1 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) จะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2561 ซึ่งเป็นการเริ่มต้นทดลองตลาด จึงยังไม่สร้างรายได้และกำไรแบบนัยสำคัญนัก แต่ในแผนระยะยาวที่ตั้งเป้าหมายลงทุนให้ครบ 50 GWh หากประสบความสำเร็จจะผลักดันให้ EA มีกำไรเติบโตแข็งแกร่งในระยะยาวได้

แม้ว่า นักวิเคราะห์จะยัง “สงวน” ความเห็นแบบ “แทงกั๊ก” เพื่อความรอบคอบว่า…มุมมองเชิงบวกดีเลิศนั้น มีเงื่อนไขสำคัญที่ต้องบรรลุให้ได้ด้วย คือ 1) ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของไทยจะเติบโตได้รวดเร็วมากน้อยเพียงใด 2) สถานีชาร์จ EV ที่ต้องมีเพียงพอรองรับการใช้ในตลาด จะเพียงพอหรือไม่….ก็หาได้มีผู้ใดสนใจไม่เพราะราคาห้นุที่วิ่งกระฉูดไปยิ่งกว่าจริงหลังบทวิเคราะห์เกินจริงออกมา…เป็นยิ่งกว่าเสียงเพลงบาดหูของนางอัปสรไซเรนส์ในตำนานหลายเท่า

ราคาเป้าหมายใหม่เป็นระดับ 110 บาท ทำให้ลืมเรื่องอื่นๆ ไปชั่วคราว….ยกเว้นเรื่องเป้าหมายกำไรสุทธิ 4,111 ล้านบาท

คนที่เคยติดหุ้น EA มานาน หรือ คนที่เคยขาดทุนหุ้นอื่นๆ มาก่อนก็ได้เวลาออกของที่ EA แทน …เริงร่ากันไป จนราคาหุ้นวิ่งไปแตะ 70.00 บาทก็ชนเพดานแนวต้าน แล้วทรงตัวรองบไตรมาสสี่และงบสิ้นงวดปี 2560 ออกมา

ผลลัพธ์ก็หงายเก๋ง …เพราะ EA โชว์ผลงานจากงบปี 2560 กำไรสุทธิ 3,817 ล้านบาท แม้จะเพิ่มขึ้น 17% พร้อมทำสถิติสูงสุดใหม่ จากการที่โซลาร์ฟาร์ม-วินด์ฟาร์ม จ่ายไฟเข้าสู่ระบบ 404 เมกะวัตต์ ตามแผน พร้อมกับมีรายได้รวม 11,674 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,234 ล้านบาท หรือ 12%…ก็ห่างจากความคาดหมายมากทีเดียว

เมื่อกำไรไม่เป็นไปตามเป้า ความรู้สึกคันไม้คันมือก็เกิดขึ้นทันที…คันมืออยากขาย มากกว่าอยากซื้อน่ะสิ…ถามได้?

เรื่องการจ่ายปันผลหุ้นละ 0.20 บาท (ซึ่งต่ำตามปกติ) พร้อมเตรียมออกหุ้นกู้ 20,000 ล้านบาท…จึงไม่มีเสน่ห์อะไรทั้งสิ้น สำหรับแมงเม่าหน้ามืด

ส่วนเรื่องแผนธุรกิจปี 2561 ที่ นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทฯแถลงว่า เตรียมใช้งบลงทุน 2.47 หมื่นล้านบาท รองรับการขยายธุรกิจ โดยใช้แหล่งเงินทุนทั้งจากการดำเนินงานของบริษัทฯเอง การกู้ยืม และจากผู้ร่วมทุน โดยคาดว่าจะมีรายได้จากธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มขึ้น จากการรับรู้รายได้โครงการพลังงานลมหาดกังหัน ขนาดกำลังการผลิต 126 เมกะวัตต์ ได้เต็มปี และคาดว่ากำลังการผลิตโรงไฟฟ้าทั้งโซลาร์ฟาร์มและโรงไฟฟ้าพลังงานลมจะขยับขึ้นเป็น 664 เมกะวัตต์ หลังจากโรงไฟฟ้าพลังงานลมหนุมาน ขนาดกำลังการผลิต 260 เมกะวัตต์ จ่ายไฟเข้าสู่ระบบในช่วงปลายปีนี้….ไม่มีความหมายอะไรไปชั่วคราว

แล้วข่าวร้าย…ด้วยเจตนา หรือพาซื่อ ก็ไม่ชัดเจน….ตามมาอย่างได้จังหวะเหมาะเหม็ง

วันที่ 5 มีนาคม บทวิเคราะห์สั้นๆ….แต่มีความหมาย….ที่บังเอิญไม่ใช่ความรัก…..โดยนักวิเคราะห์ บล.ไทยพาณิชย์ ออกมาฟันธงชนิด “หักมุม 180 องศา” พร้อมกับแนะให้ขาย โดยให้เป้าราคาปี 2561 แค่ 27.00 บาท….ไม่ขาดและไม่เกิน

แรงขายชนิดยั้งไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ออกมาในวันที่ 6 มีนาคมมากกว่า 6.6 พันล้านบาท….เป็นมากกว่ากระต่ายตื่นตูมทั่วทั้งตลาด

พิเคราะห์ตรรกะของนักวิเคราะห์หลังสุดแล้ว ก็พอจะรับฟังได้ เพราะบอกว่า จุดอ่อนของยุทธศาสตร์ EA ที่จะลงทุนมูลค่า 1.35 แสนล้านบาท…อาจจะมีความเสี่ยงขาลงจากการที่มีต้นทุนค่าใช้จ่าย และอาจมีประเด็นเรื่องโครงการล่าช้า ในขณะที่ค่าพี/อียังแพงที่ระดับ 31 เท่า…..น่าขายมากกว่าน่าซื้อ เป็นซะอย่างงั้น

แม้ว่าเสียงของนักวิเคราะห์ “ขาเชียร์” จะยังยืนยันตอกย้ำราคาเป้าหมาย 80.00 บาทไม่เปลี่ยนแปลง แต่จะมีความหมายอะไร เมื่อนักลงทุน “ขาเม่า” ส่วนหนึ่งเชื่อไปทางคนที่แนะให้ขายมากกว่า

แถมล่าสุด แมงเมาท์ “ขาลือ” ยังเที่ยวปล่อยทีเด็ดตามสไตล์ว่า เรื่องโครงการล่าช้า…มีเค้า…โดยเฉพาะโครงการซื้อที่ดินตั้งนิคมอุตสาหกรรมที่มี กนอ. เป็นพี่เลี้ยงอยู่นั้น…อาจจะมีปัญหาเพราะว่า ที่ดินที่ซื้อมาเป็น “พื้นที่สีเขียว” ไม่ใช่ “พื้นที่สีม่วง” สำหรับทำอุตสาหกรรม

ใครที่คิดว่าในยุคนี้ จะเปลี่ยนพื้นที่สีเขียวมาเป็นนิคมอุตสาหกรรมด้วยทางลัด มาตรา 44 …ถือว่ามองโลกสวยเกินจริงไปสักหน่อย

ลือกันเป็นตุเป็นตะ ถึงขนาดนี้….ราคาหุ้นที่ทำท่ารีบาวด์กลับเหนือ 52.00 บาทเช้าวานนี้ …ถึงกับม่อยกระรอก ไปต่อไม่เป็นเลยทีเดียว

ประเด็นล่าสุดนี้ ….ที่เคยคาดว่าจะเป็นการ “วูบ” ชั่วคราวแบบส้มหล่นประจำปี…อาจจะมากกว่า…แต่เป็น “ค้างทั้งคืน…หรือ หลายคืน” ก็ได้

อิ อิ อิ

Back to top button