เงินกำลังจะหมุนไป?
*ดูเหมือนกระแสการลงทุนในตลาดหุ้นจะแรงสู้กระแสเงินดิจิทัลไม่ได้ “โมนิก้า” เดินไปทางไหน ด้านไหน ก็มีคนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเยอะแยะไปหมด ซึ่งก่อให้เกิดปรากฏการณ์กูรูจอมปลอมขึ้นมาเยอะแยะไปหมด และมีการเปิดออปชันให้กับพวก “คิดเร็ว ทำเร็ว” ให้เข้ามาเป็นสาวกอย่างเป็นทางการแบบนี้กระมัง! ถึงทำให้ทางการต้องเร่งออกกฎหมายขึ้นมาควบคุมนะจะบอกให้
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ดูเหมือนกระแสการลงทุนในตลาดหุ้นจะแรงสู้กระแสเงินดิจิทัลไม่ได้ “โมนิก้า” เดินไปทางไหน ด้านไหน ก็มีคนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเยอะแยะไปหมด ซึ่งก่อให้เกิดปรากฏการณ์กูรูจอมปลอมขึ้นมาเยอะแยะไปหมด และมีการเปิดออปชันให้กับพวก “คิดเร็ว ทำเร็ว” ให้เข้ามาเป็นสาวกอย่างเป็นทางการแบบนี้กระมัง! ถึงทำให้ทางการต้องเร่งออกกฎหมายขึ้นมาควบคุมนะจะบอกให้
*ผนวกกับเสียงของผู้คนในตลาดหุ้นเริ่มแตกออกเป็นฝั่งที่ “เห็นด้วย” กับฝั่ง “ไม่เห็นด้วย” ให้เกิดตลาดเงินดิจิทัล จึงกลายเป็นการถกเถียงที่น่ารำคาญเหลือเกิน! เพราะแต่ละฝั่งก็มีข้อมูลมาหักล้างกันตลอดเวลา “โมนิก้า” ในฐานะผู้เสพข่าวดังกล่าวมาระยะหนึ่ง และมีผู้ใหญ่คอยให้คำแนะนำเกี่ยวกับเป้าหมายของการมีตลาดหุ้นไทย จึงขอเลือกทำตัวเป็นไอ้เข้ขวางคลองแล้วกันเจ้าค่ะ
*เนื่องจากความเสี่ยงของตลาดเงินดิจิทัลมีมากเกินไป และเกินความสามารถของคนไทยที่จะเข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่ง “โมนิก้า” ถึงยังมองไม่เห็นความจำเป็นของการมีเงินดังกล่าว รวมทั้งข้อมูลที่ศึกษาเบื้องต้นมีตัวเลขสถิติรายงานไว้ว่า ราคาเหรียญมักปรับตัวขึ้น 10 เท่า ต่อจากนั้นปรับตัวลง 3 เท่า ก่อนจะเด้งขึ้นใหม่อีก 5 เท่า และปรับตัวลงอีก 3 เท่านั้น..มันคือตลาดเก็งกำไรล้วนๆ นะเนี่ย
*เมื่อตลาดดังกล่าวมีลักษณะเก็งกำไรแบบสุดโต่ง โดยไม่มีอะไรเป็นตัวอ้างอิงในการลงทุน “โมนิก้า” ถึงมองไม่เห็นคุณค่าของตลาดเงินดิจิทัลมีความสำคัญต่อตลาดหุ้นไทยอย่างไร? บวกกับบริษัทจดทะเบียนที่ออกเหรียญไปก่อนหน้านี้ ก็ถูกผู้คนในตลาดหุ้นตั้งคำถามเยอะแยะไปหมด เดี๊ยนถึงรู้สึกไม่ค่อยดีเมื่อเห็นตัวแปรหลายอย่างไม่เอื้อให้ตลาดดังกล่าวเกิดขึ้นพะย่ะค่ะ
*ถึงกระนั้น “โมนิก้า” ก็มองว่า พฤติกรรมของนักแสวงโชคส่วนใหญ่เป็นแบบ “ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ” หลายคนถึงพยายามหาช่องทางในการลงทุนเงินดิจิทัลตลอดเวลา จึงเท่ากับเป็นการเปิดช่องให้พวกสิบแปดมงกุฎต้อนหมูเข้าเล้าแบบชิวๆ เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับจับตาดูกฎหมายที่จะคลอดออกมาในสัปดาห์หน้า สามารถป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ขนาดไหน..อิอิอิ
*ย้อนกลับมาดูบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยสักหน่อย หลังปรากฏรายการชักเย่อให้เห็นตลอดทั้งวัน ก่อนดัชนีจะลงเอยที่ระดับ 1,813.40 จุด บวกไป 3.50 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.82 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้รู้ว่า พอถึงจังหวะทีเด็ดทีขาด แรงซื้อก็หดหายไปดื้อๆ จึงไม่สามารถคาดหวังอะไรได้มากกว่าการเล่นหุ้นแบบวันต่อวันไงล่ะคะ
*เช่นเดียวกับการไขก๊อกจากตำแหน่งซีอีโอของ “ลาร์ส นอร์ลิ่ง” แห่งค่าย DTAC เหมือนเป็นการบอกให้ชาวโลกรู้ว่า ข้างในบริษัทกำลังวุ่นวายอย่างหนัก ถึงมีรายการเปลี่ยนม้ากลางศึกเกิดขึ้นในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน หุ้นถึงรูดลงมาปิดที่ 45 บาท ลบไป 1.75 บาท หรือลงไป 3.75% ด้วยมูลค่า 528 ล้านบาทแบบนี้ เขาเรียกว่า แพ้ตั้งแต่อยู่ในมุ้ง! ทางที่ดีน่าจะรีบชิ่งโดยด่วนเจ้าค่ะ
*เหมือนกับรายของ JMART ยังมีแรงเทขายโผล่ออกมาให้เห็นเป็นระยะ จนวานนี้ลงมายืนอยู่ที่ 14.20 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 3.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 257 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตต่อเนื่องที่นักเล่นต้องคิดให้ดีก่อนจะยื่นมือเข้าไปรับของร้อน เพราะสถานภาพของบริษัทในปีนี้ไม่ค่อยดี และอยู่ในทิศทางขาลงแบบเต็มตัว แถมนักวิเคราะห์ก็ยังส่ายหัวแบบนี้..ถอยดีกว่า ไม่เอาดีกว่า..อิอิอิ
*ส่วนหุ้นที่แรงแบบไม่บอกกล่าวล่วงหน้า “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปยังหุ้น TRUE กระชากขึ้นมาปิดที่ 7.25 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.24 พันล้านบาท ทั้งที่วานนี้เป็นวันขึ้นเครื่องหมาย XD แต่หุ้นก็สามารถบวกสวนได้อย่างแข็งแกร่งแบบนี้ เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับดูช็อตต่อไปอีกสักนิดหนึ่งว่า ยังเดินหน้าขึ้นไปได้ไหม? หากไปไม่ไหว อาจต้องมาเซ็ตเกมใต้ 7 บาทอีกรอบ..หากไปได้ รับรองสนุกแน่นอนค่ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ CPF วนเวียนอยู่ใต้ 25 บาทเป็นเวลานาน พอสบช่องได้โอกาสปุ๊บ ก็วิ่งปรู๊ดปร๊าดในทันที ล่าสุดหุ้นขึ้นมายืนอยู่ที่ 25.50 บาท บวกไป 1.30 บาท หรือขึ้นไป 5.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.89 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่นักลงทุนต้องเข้าใจสักนิดหนึ่งว่า เป้ากำไรปี 2561 อยู่แถว 2 บาทต่อหุ้น หากเทรดกันบนค่า P/E 15 เท่า ราคาเหมาะสมขั้นต่ำก็อยู่ที่ระดับ 30 บาท..เข้าใจตรงกันนะ
*ตบท้ายกันที่หุ้นเล็กแต่จัดจ้านอย่าง SSP สักนิดหนึ่งดีกว่า หลังสตอรี่รายได้และกำไรชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ก็มีแรงซื้อไหลเข้ามาอีกรอบ รวมทั้งผู้บริหารก็ควักเงินเก็บหุ้นเข้าพอร์ตเพิ่มเติม “โมนิก้า” ถึงเชื่อว่า หุ้นน่าจะขยับขึ้นไปยืนเหนือ 8 บาทในไม่ช้า เพราะแวลูของหุ้นในปี 2561 เขาตีราคาไว้แถว 10 บาท ขณะที่วานนี้หุ้นปิดที่ 7.75 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 4.70% ด้วยมูลค่า 56 ล้านบาท แถมเป็นการปิดสูงกว่าราคาไอพีโอ 7.70 บาทแค่นิดเดียว..เก็บเข้าพอร์ตด่วนจี๋!