IFEC เกมรุกฆาตหมอเม้ง

แฉทุกวันทันเกมหุ้น

ข่าวล่าสุดของ ก.ล.ต.ฉบับล่าสุด 21/2561 ลงวันศุกร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2561 มีความหมายต่อเนื่องจากการขยับตัวของพลตรีบุญเลิศ แจ้งนพรัตน์ ประธานกรรมการตรวจสอบ เมื่อวันที่ 12 มีนาคม เรื่องการตรวจสอบทุจริตภายใน บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC ที่ลึกซึ้ง…..ล้วนพุ่งเป้าตรงไปที่ นายแพทย์วิชัย ถาวรวัฒนยงค์ หรือ หมอเม้ง อดีตประธานกรรมการ ที่ปัจจุบันขาดคุณสมบัติไปแล้วตามคำสั่งเมื่อปีก่อนของหน่วยงานนี้

วันศุกร์ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์สำคัญที่นางสิริวิภา สุพรรณธเนศ หรือ ผู้ช่วยจิ๋ม ผู้ช่วยเลขาธิการ ก.ล.ต.ออกมารับเรื่องจากกลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อยของ IFEC ได้เดินทางมาที่ ก.ล.ต. เพื่อให้ช่วยเร่งรัดให้คณะกรรมการ IFEC แก้ไขปัญหาเพื่อให้บริษัทสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ และให้ข่าวที่กลายเป็นประกาศทางการว่า ก.ล.ต. รับทราบความเดือดร้อนของผู้ลงทุน และกำชับให้กรรมการ IFEC แก้ไขปัญหาโดยเร็ว…หลังจากที่ ก.ล.ต. ได้ดำเนินการในหลายวิถีทางเพื่อจะช่วยแก้ไข…แต่ไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร จึงทำให้ปัญหาที่ IFEC ไม่สามารถจัดประชุมผู้ถือหุ้นได้ยังคงยืดเยื้อจนถึงปัจจุบัน แม้จะประสานงานกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้ามาอย่างต่อเนื่อง

ผู้ช่วยเลขาธิการ ก.ล.ต. ออกมาชี้ช่องว่า มี 2 ช่องทางออกเพื่อ “ผ่าทางตัน” ของ IFEC ประกอบด้วย

– ก.ล.ต. ได้มีหนังสือลงวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2561 ให้กรรมการ IFEC ชี้แจงต่อ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใน 7 วัน หรือภายในวันที่ 22 มีนาคม 2561 เกี่ยวกับกำหนดการและขั้นตอนที่ IFEC จะดำเนินการจัดประชุมผู้ถือหุ้น หลังจากกรรมการ IFEC จำนวนรวม 4 ราย หลุดพ้นจากตำแหน่ง นายพีรธัช สุขพงษ์ พลตรีไชยนาจ ญาติฉิมพลี และนายปิยะพงศ์ วงศ์สุวัฒน์ ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการของบริษัท และนายธีติพันธ์ เทพผดุงพร ถูกคำสั่ง ศาลแพ่งที่มีผลให้ ไม่มีสถานะเป็นกรรมการของบริษัทต่อไป หากไม่ดำเนินการใดๆ ก.ล.ต. อาจพิจารณาว่ากรรมการ IFEC ไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริต รวมทั้งไม่ได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัท ตามมาตรา 89/7 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ

– ผู้ถือหุ้นของ IFEC สามารถเลือกอีกช่องทางหนึ่ง โดยใช้สิทธิตามมาตรา 100 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัดฯ รวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นเกิน 20% เพื่อขอให้กรรมการบริษัทจัดการประชุมผู้ถือหุ้นได้อีกทางหนึ่ง

การ “ชี้ช่อง” ของผู้ช่วยจิ๋ม สำทับซ้ำในการออกโรงของพลตรีบุญเลิศ หลังจากเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ก.ล.ต. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้เข้าไปตรวจค้นอุปกรณ์และเอกสารต่างๆ ในสำนักงานของ IFEC พร้อมกับยึดเอกสาร ข้อมูลจากอุปกรณ์ดักฟัง กล้อง วงจรปิด และเอกสารทางบัญชีการเงิน (ที่สามารถตรวจสอบการลงทุนในต่างประเทศ การซื้อโรงแรมดาราเทวี การลงทุนของบริษัทลูกทุกบริษัท) เพื่อนำไปรวบรวมหาข้อเท็จจริงในการบริหารงาน และการลงทุนต่างๆ ที่มีความไม่โปร่งใสเกิดขึ้น

ในช่วงที่ตัวแทน ก.ล.ต. และ DSI เข้าไปตรวจค้นในออฟฟิศของ IFEC ยังปรากฏว่า….ได้พบหมอเม้ง นั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋อ ทำงานอยู่ที่สำนักงานต่อไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ….ทั้งที่ถูก ก.ล.ต.กล่าวโทษจนไม่สามารถมีตำแหน่งหน้าที่เกี่ยวข้องกับ IFEC อย่างสิ้นเชิงไปแล้ว

วันที่ตรวจค้นนั้น เกิดขึ้นพร้อมกับที่ ก.ล.ต. ได้ออกประกาศกล่าวโทษหมอเม้ง (เจ้าของฉายา ศรีธนญ(วิ)ชัย) เพิ่มเติมจากกรณีเก่า…ซึ่ง ก.ล.ต. เคยกล่าวโทษหมอเม้งเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2560 กรณีกระทำโดยทุจริตโดยแสวงหาประโยชน์อันมิควรได้เพื่อตนเองหรือบุคคลอื่น โดยการใช้วิธีการลงคะแนนเลือกตั้งกรรมการโดยไม่สุจริต…..ในข้อหาใหม่ว่า ไม่ดำเนินการให้บริษัทชี้แจงประเด็นที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสอบถาม กรณี IFEC ผิดนัดชำระหนี้ตั๋วแลกเงิน (B/E) ที่เข้าข่ายการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหาย หรือทำให้ตนเองได้รับประโยชน์ตามมาตรา 89/7 และมาตรา 281/2 วรรคสอง แห่งพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ

พลตรีบุญเลิศระบุว่า การตรวจสอบความไม่โปรงใสของการดำเนินงานต่างๆ ของ IFEC ที่เกิดขึ้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1 เดือน…หลังจากที่คณะกรรมการตรวจสอบให้ข้อคิดเห็นและตั้งประเด็นสงสัยและสอบถามหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร ทำให้การทำงานยากลำบากมาก ซึ่งจะสามารถเดินหน้าต่อได้ เพราะทางคณะกรรมการตรวจสอบมีความต้องการให้นายวิชัยยุติบทบาทในการบริหารงาน หลังจากที่ถูก ก.ล.ต.กล่าวโทษ เพื่อทำให้กระบวนการทำงานและการตรวจสอบต่างๆ เดินหน้าต่อไปได้อย่างราบรื่น

คำประกาศของก.ล.ต. โดยผู้ช่วยจิ๋ม นอกจากชี้ช่องแล้ว ยังมีผลลดทอนความน่าเชื่อถือของหมอเม้งที่ยังคงเจื้อยแจ้วชนิด “จ้อไม่มีหยุด” จนเพจเฟซบุ๊ก Wichai Talk ได้ดำเนินมาถึงตอนที่ 132 แล้ว เมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งอ้างว่าเป็น “วาระที่ถูกพาดพิง” มีสาระสำคัญย่นย่อว่า….คำสั่งศาลให้เพิกถอนมติผู้ถือหุ้นวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 เป็นการลงมติการแต่งตั้งกรรมการโดยไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนข้อบังคับของบริษัทฯ โดยคำสั่งมีเรื่อง วรรค 1 ขอให้พิจารณาถึงข้อบังคับ ยังมีประเด็นที่ไม่มีการวินิจฉัยออกมาที่ชัดเจน “อาจถูกใครต่อใครจะเอาไปใช้ในอนาคตหากมีการใช้ผิดเรื่องก็ไม่จบ สุดท้ายนำมาซึ่งการฟ้องร้องอยู่ร่ำไป”…. ลงจนเกือบเท่ากับ 0%

เส้นทางที่บีบรัดเข้ามามากทุกขณะ เสมือนเกมรุกฆาตเกือบถึง “หมากตาจน”…. เท่ากับทำให้ทางถอยของหมอเม้งเรียวแคบลงต่อเนื่อง

แต่…เชื่อขนมกินล่วงหน้าได้เลยว่า ตำนานฉาวนับตั้งแต่ปฏิบัติการเข้าซื้อกิจการขายและเช่าเครื่องถ่ายเอกสารของอดีตบริษัทเครือสหกรุ๊ปเมื่อปี 2557 ของ “คู่โฉด” วิชัย-สิทธิชัย จะยังโจษขันกันไปอีกยาวนาน

หรือว่า วิชัยทอล์ก…ยังจะเถียงแบบ “ปลาหมอแถกเหงือก” ต่อไปอีก

อิ อิ อิ