งานเข้าถ้วนหน้า!

*อันที่จริง “โมนิก้า” เป็นสาวสวยสดใสวัยแรกแย้ม (บางคนชอบแซวว่า ฝาโลง) จึงชอบเผือกเฉพาะเรื่องดีๆ งามๆ เพื่อทำให้ชีวิตมีความสุขสดชื่น แต่เผอิญทุกวันนี้อยู่บนโลกยากขึ้นเรื่อยๆ จึงต้องทำตัวเป็น working woman ที่มีครบทั้งด้าน “บู๊” และ “บุ๋น” เพื่อทำให้สังคมได้รู้ว่า ผู้หญิงยุคใหม่อย่างแม่หญิงการะเกดทำอะไรได้เยอะกว่าการพูดไปวันๆ นะออเจ้า!


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*อันที่จริง “โมนิก้า” เป็นสาวสวยสดใสวัยแรกแย้ม (บางคนชอบแซวว่า ฝาโลง) จึงชอบเผือกเฉพาะเรื่องดีๆ งามๆ เพื่อทำให้ชีวิตมีความสุขสดชื่น แต่เผอิญทุกวันนี้อยู่บนโลกยากขึ้นเรื่อยๆ จึงต้องทำตัวเป็น working woman ที่มีครบทั้งด้าน “บู๊” และ “บุ๋น” เพื่อทำให้สังคมได้รู้ว่า ผู้หญิงยุคใหม่อย่างแม่หญิงการะเกดทำอะไรได้เยอะกว่าการพูดไปวันๆ นะออเจ้า!

*เหมือนกับการแสดงความคิดเห็นเมื่อวันก่อนไว้ว่า ตลาดหุ้นขาดข่าวดีใหม่ๆ เข้ามาหนุน ขณะที่ข่าวร้ายก็พร้อมปะทุออกมาตลอดเวลา โมเมนตัมของตลาดหุ้นถึงได้เป๋ไปเป๋มาบริเวณ 1,800 จุดพักใหญ่ๆ และขยับขึ้นไปทดสอบแนวต้านด้านบนที่ระดับ 1,850 จุดไม่ได้สักที “โมนิก้า” ถึงเลือกที่จะพูดถึงข่าวแย่ๆ มากกว่าข่าวสร้างสรรค์ เพราะอารมณ์ของผู้คนอยากฟังเรื่องฮาร์ดคอร์มากกว่าน่ะซี

*ด้วยเหตุนี้ถึงต้องทำใจเมื่อเห็นดัชนีอ่อนตัวลงมายืนอยู่ที่ 1,799.79             จุด ลบไป 11.97 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขาย 5.13 หมื่นล้านบาท เพราะหุ้นใหญ่ถูกขายแบบเรียงตัวอีกรอบ แถมเมื่อเดินมาถึงจุดสำคัญก็ขยับต่อไม่ได้เสียด้วย “โมนิก้า” ถึงมั่นใจเหลือเกินว่า ตลาดหุ้นไทยต้องเข้าสู่โหมดของการย่ำฐานก่อนขึ้นต่อไปอีกระยะหนึ่ง หลังบรรยากาศการลงทุนไม่เอื้อเลยสักเรื่องพะย่ะค่ะ

*หุ้นใหญ่ที่ต้องเม้าท์ถึงเป็นรายแรกในเที่ยวนี้ “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปยังหุ้นที่บอบช้ำเกินจะเยียวยาอย่าง TPIPL เพราะแค่เดือนเดียวราคาหุ้นรูดลง 30% และยังมีทีท่าจะอ่อนตัวลงไปอีกเรื่อยๆ แบบไม่มีใครช่วยได้แบบนี้ มันเป็นจังหวะต้องกระโดดหนีอย่างเดียว ไม่จำเป็นต้องฟังอะไรอีกต่อไป หลังหุ้นลงมายืนอยู่ที่ 1.70 บาท ลบไป 0.07 บาท หรือลงไป 3.95% ด้วยมูลค่า 125 ล้านบาทอีกหนึ่งวันเจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของน้องแอนแอน ANAN เจอข่าวร้ายเต็มประตูหน้าต่าง แถมเป็นข่าวที่กระทบกำไรของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ หุ้นถึงไหลลงอย่างต่อเนื่องทุกวัน จนไม่มีทีท่าจะหยุดลงเมื่อไหร่แบบนี้ “โมนิก้า” ถึงมองเป็นอีกหนึ่งหุ้นอันตรายที่แมงเม่าอย่าเพิ่งเอามือเข้าไปรับ เพราะเมื่อดูจากแรงเทขายที่ฉุดหุ้นลงมากองอยู่ที่ 3.88 บาท ลบไป 0.38 บาท หรือลงไปอีก 8.90% ด้วยมูลค่า 475 ล้านบาท แสดงว่า มีแต่คนหลีกเลี่ยงนะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ SQ เจอข่าวร้ายสารพัดถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ไล่เรียงตั้งแต่ชวดงานเหมืองแม่เมาะ 9 มูลค่า 4 หมื่นล้านบาท ต่อจากนั้นเป็นเรื่องพลิกขาดทุนในไตรมาส 3 ปี 2560 ซึ่งฉุดให้ภาพของหุ้นในอนาคตดูจะไม่สู้ดีสักเท่าไหร่ ก่อนจะมาเจอเรื่องดินถล่มที่หน้าไซต์งานของบริษัท จึงไม่มีใครคิดจะถือหุ้นอีกต่อไป หุ้นก็เลยรูดลงมากองอยู่ที่ 4.12 บาท ลบไป 0.26 บาท หรือลงไป 5.95% ด้วยมูลค่า 105 ล้านบาทไงล่ะคะ

*สถานการณ์ดังกล่าวคล้ายกับหุ้นกระเบื้องเฟื่องฟูลอย DCC ราคาหุ้นถึงร่วงลงมาเรื่อยๆ จนมองไม่เห็นจุดกลับตัวอยู่ตรงบริเวณไหน? ทั้งหมดเป็นผลมาจากกำไรในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาลดลงฮวบฮาบ และในปีนี้ก็มีแนวโน้มที่จะลดลงอีก วานนี้ถึงเห็นหุ้นทิ้งตัวลงมายืนปิดที่ 3 บาท ลบไป 0.14 บาท หรือลงไป 4.45% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 53 ล้านบาท เพราะมันไม่มีตัวแปรที่จะเหนี่ยวรั้งให้ถือหุ้นอีกต่อไปนะจ๊ะ

*อีกหนึ่งรายที่น่าประหลาดใจสุดๆ “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่หุ้น SYNEX เพื่อทำให้เห็นภาพของการเล่นในเที่ยวนี้ให้ชัดขึ้นอีกนิดหนึ่ง เพราะโปรไฟล์เรื่องธุรกิจก็ไปได้สวย แถมกำไรก็โตทุกปี บวกกับสตอรี่ใหม่ๆ ก็มีมาให้เห็นเป็นระยะ แต่เที่ยวนี้กลับโดนเทขายอย่างหนัก พร้อมกับปรากฏข่าวในทำนองกำไรในปีนี้ไม่สวย หุ้นก็ไหลลงจากระดับ 16 บาท ลงมายืนอยู่ที่ 12.70 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 5.20% ด้วยมูลค่า 55 ล้านบาทอย่างง่ายดายแบบนี้..ไม่สวยเลยค่ะ

*เหมือนกับในรายของ RS ทำท่าจะไปได้สวยกว่าที่เป็นอยู่ พอเอาเข้าจริงก็ถูกเทขายกดลงมาเรื่อยๆ จนหุ้นทรุดตัวลงมายืนอยู่ที่ 28 บาท ลบไป 1.75 บาท หรือลงไป 5.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 442 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นความเสี่ยงในรูปของแวลูที่ให้เยอะเกินไป เมื่อภาพของบรรยากาศการลงทุนไม่เอื้อ และภาวะเศรษฐกิจไม่แจ่มอย่างที่ควรจะเป็น การเทขายถึงเป็นทางออกที่ดีสุดไงล่ะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ GL กระชากขึ้นมาปิดที่ 9.20 บาท บวกไป 1.70 บาท หรือขึ้นไป 22.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 320 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่โอเวอร์แอ็กติ้งมากๆ สำหรับการเล่นเที่ยวนี้ เพราะมองไปข้างหน้าก็มีแต่กำไรลด หรือมองในมุมของคดีความก็มีเรื่องยุ่งวุ่นวาย หรือถ้ามองในมุมของบุ๊คแวลูที่ระดับ 3.67 บาทเทียบกับราคาหุ้นที่ไม่มีสตอรี่ growth เข้ามาเป็นตัวขับเคลื่อน..มันไปไม่รอดหรอก..เชื่อหัวน้องโมเถอะ!

*ส่วนพวกที่ชอบเล่นเก็งกำไรกันแบบสุดโต่ง “โมนิก้า” ขอแนะนำให้ดู HPT ไว้เป็นทางเลือกสำหรับคนชอบเสียว เพราะการถีบตัวขึ้นมาปิดที่ 1.32 บาท บวกไป 0.09 บาท หรือขึ้นไป 7.30% ด้วยมูลค่า 65 ล้านบาท หลังมีการส่งเสียงให้ชาวหุ้นได้รู้ว่า ออเดอร์พุ่ง ดันรายได้โต 15% บวกกับแบ็กล็อกแตะระดับ 40 ล้านบาท มันเป็นข่าวดีแค่ชั่วคราวหรือเปล่า? อีกทั้งค่า P/E ก็ปาเข้าไปกว่า 30 เท่าแบบนี้..เข้าเร็ว ออกเร็ว ไว้ก่อนดีกว่ามั้ง!

Back to top button