สังคมข่าวหุ้น

เกียรติก้อง ว่องไวยากร

*จับตาผลประชุมเฟด-ส่งออก

*ตลาดหุ้นไทยรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ ระหว่าง วันที่ 20-21 มี.ค.  โอกาส 94.4% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย  ซึ่งเป็นครั้งแรกในปีนี้ ภายใต้การนำของเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดคนใหม่   ส่วนวันนี้ติดตามตัวเลขการส่งออกเดือน ก.พ.ที่กระทรวงพาณิชย์ คาดว่าอาจจะเติบโต 8% ถือว่าต่ำสุดในรอบ 10 เดือน ส่งสัญญาณส่งออกเติบโตชะลอตัวลง เงินทุนมีโอกาสไหลออกบ้าง แต่คงไม่มากแล้ว แต่แนวโน้มไม่ค่อยดี สัญญาณเลือกตั้งไม่ชัดเจน แนวรับ 1,790 จุด ส่วนแนวต้าน 1,810 จุด

*MTLS  ของชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง  จังหวะนี้ยังอยู่ในช่วงปรับฐาน จากหลายกรณี ทั้งเรื่องของกฎหมายใหม่จัดระเบียบนอนแบงก์ของกระทรวงการคลัง ข่าวดอกเบี้ยกู้ แม้ว่าจะพยายามชี้แจงหลายรอบแต่นักลงทุนก็ยังระแวง ข่าวดีฟังมาจนชิน พอข่าวร้ายมาก็ร่วงทันที *****แรงขาย EA พลังงานบริสุทธิ์ยังไม่สะเด็ดน้ำ หลังขึ้น XD  แม้สมโภชน์ อาหุนัย ประธานกรรมการบริหารบริษัท จะชี้แจงไปว่าไม่ได้ทิ้งหุ้นก็ตาม แต่ราคาหุ้นลดลงกว่า 30% ช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาน่าจะสะท้อนความกังวลความเสี่ยงของธุรกิจแบตเตอรี่ และข่าวการยกเลิก MOU กับ PTT ไปแล้ว  ถ้าจะเก็บก็ไม่น่ากลัว เป้า  77 บาท*******สุกัญญา สุขเจริญไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป หรือ ACAP  เตรียมเนื้อเตรียมตัวรับพันธมิตรใหม่จากประเทศจีน ช่วงสงกรานต์น่าจะได้รับข่าวดีกัน งานนี้ฟินเทคล้วนๆ รับกับสมัยดิจิทัล 4.0 ที่รัฐบาลสนับสนุน ราคาหุ้นก็ยังนิ่งๆ รอจังหวะดีดตัวรอบใหม่

*ช่วงนี้ เฮียคีรี กาญจนพาสน์  เจ้าพ่อรถไฟฟ้าบีทีเอส ต้องรับบทหนัก หลังมีเหตุการณ์ต่อเนื่อง  ล่าสุดเรื่องของบันไดเลื่อนหยุดทำงาน และก่อนหน้านี้ถูกทุบลิฟต์ กราฟหุ้นก็ขยับขึ้นมาได้ดี อาจมีขายบ้างเป็นบางวัน แต่โดยรวมแล้วกราฟเป็นขาขึ้น หากไม่หลุดแนวรับ 8.30 บาท

*กระแส “บุพเพสันนิวาส” ดันหุ้น BEC ของกลุ่มมาลีนนท์ นักวิเคราะห์คาดว่ากำไรสุทธิปีนี้ จะโตกว่า 590%  เนื่องจากบริษัทตั้งเป้าผลิตรายการให้ตรงความต้องการกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ซึ่งเริ่มเห็นผลตอบรับที่ดี

*น่าจับตา AEONTS  ภายใต้การบริหารของคิโยะยะซึ อะซะนุมะ กรรมการผู้จัดการ ล่าสุดนักวิเคราะห์ปรับเพิ่มเป้าราคาเป็น 192 บาทแล้ว  โดยมองว่าการเติบโตของสินเชื่อยังอยู่ในระดับสูง  และหากรวมกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์ 150–250 ล้านบาท คาดว่า Q1 น่าจะออกมาสวยหรูอีก หลังจากไตรมาสก่อนก็โตแบบก้าวกระโดด

*ครม.เห็นชอบแผนก่อหนี้เพิ่ม เป็น 1.58 ล้านล้าน รองรับการกู้ชดเชยขาดดุล ตามแผนสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ  ส่งผลให้หนี้ต่อจีดีพีเพิ่มเป็น  42.8% จากเดิมที่ 42.7% พร้อมเห็นชอบออมสิน เดินหน้าโครงการสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉินระยะที่ 2 วงเงิน  1  หมื่นล้าน

*วันนี้ บมจ. เคมีแมน ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายปูนไลม์และผลิตภัณฑ์เคมีต่อเนื่องรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 21 มี.ค.นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 3,686.40 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า CMAN ราคาไอพีโอหุ้นละ 3.84 บาท มี บมจ.ธนาคาร ทิสโก้ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บล.ทิสโก้ เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

*เริ่มทำธุรกรรมการเงินข้ามชาติแล้วสำหรับธนาคารธนชาต ล่าสุด เดินหน้า “สังคมไร้เงินสด” ตามนโยบาย ธปท. ด้วยการจับมือพันธมิตร BCEL จาก สปป.ลาว พัฒนาในการใช้มาตรฐาน QR Code สำหรับธุรกรรมชำระเงินผ่านระบบ พร้อมเพย์ข้ามประเทศครั้งแรก! เปิดโอกาสร้านค้าไทยรับลูกค้าประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้น เผยก้าวต่อไปเล็งขยายความร่วมมือสู่กลุ่มประเทศ CLMV

*หุ้นร้อนประจำวัน 20 มี.ค.2561 ที่มีราคาและมูลค่าซื้อขายปรับขึ้นแรงและอยู่ระหว่าง (Trading Alert List) คือ บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KOOL ทำให้เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 ต้องใช้เกณฑ์ Cash Balance (ซื้อขายด้วยเงินสดทั้งจำนวน) มีผลตั้งแต่ 21 มี.ค.-10 เม.ย. 2561