กลับมายืนที่เดิม
*วานนี้มีผู้คนมากมายเล่าเรื่องต่างๆ ให้ฟังเยอะแยะไปหมด โดยแต่ละเรื่องก็เจ็บๆ แสบๆ คันๆ ทั้งนั้น “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยข่าวลือมากมายก่ายกอง ซึ่งขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของคนรับฟังจะเชื่อข่าวสารดังกล่าวมากน้อยขนาดไหน? เดี๊ยนถึงพยายามให้ผู้เล่นกำหนดจังหวะของการ “เคาะขวา เคาะซ้าย” ให้ทันกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันไงล่ะคะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*วานนี้มีผู้คนมากมายเล่าเรื่องต่างๆ ให้ฟังเยอะแยะไปหมด โดยแต่ละเรื่องก็เจ็บๆ แสบๆ คันๆ ทั้งนั้น “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยข่าวลือมากมายก่ายกอง ซึ่งขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของคนรับฟังจะเชื่อข่าวสารดังกล่าวมากน้อยขนาดไหน? เดี๊ยนถึงพยายามให้ผู้เล่นกำหนดจังหวะของการ “เคาะขวา เคาะซ้าย” ให้ทันกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันไงล่ะคะ
*เนื่องจากข่าวดีที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เอาเข้าจริงก็เป็นเพียงแค่ลมพัดผ่าน แรงซื้อเลยเปลี่ยนเป็นแรงเทขายอย่างฉับพลัน พร้อมกับฉุดหุ้นกลับลงมาอยู่ที่เดิมอย่างง่ายดาย “โมนิก้า” ถึงมองเรื่องที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้มีลักษณะเป็น money game ซึ่งมีตัวแปรหลักอยู่ที่กองทุนตัวแสบจะหันมาสวมบทเป็น คนทุบ หรือ คนดัน ภาพของตลาดหุ้นถึงออกอาการเป๋ไปเป๋มาตลอดเวลาพะย่ะค่ะ
*ขนาดวานนี้มีการดันดัชนีขึ้นไปถึงระดับ 1,810.53 จุด พอทำไปทำมาดันอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,802.58 จุด บวกไป 1.48 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6 หมื่นล้านบาท ไม่สามารถตีความเป็นอย่างอื่นไปได้ นอกเสียจากข่าวดีขาดช่วงนานเกินไปนั่นเอง ส่งผลให้คนเล่นหุ้นส่วนใหญ่เลือกใช้วิธีเทขายทำกำไรสั้นๆ มากกว่าการถือหุ้นต่อไป หุ้นหลายตัวถึงยังขยับเขยื้อนไปไม่ถึงไหนน่ะซี
*เหมือนกับในรายของ TRUE อุตส่าห์ตั้งลำเหนือ 7 บาทได้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมกับทำท่าจะเดินหน้าขึ้นไปเรื่อยๆ พอเอาเข้าจริงกลับโดนขายทำกำไรอย่างหนัก จนหุ้นไหลลงมาปิดที่ 7 บาท ลบไป 0.15 บาท หรือลงไป 2.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.26 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นผลพวงจาก คสช. สั่งเบรก ม.44 ผ่อนผันค่าคลื่นโทรศัพท์ ซึ่งจะทำให้ฐานะทางการเงินของบริษัทแย่ลงไปอีกไงล่ะจ๊ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ ADVANC ไปได้สวย ไปได้ดี เตรียมยกฐานใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิม พอเจอข่าวดังกล่าวเข้าไปจังเบ้อเร่อ ราคาหุ้นถึงกับทรุดลงมาปิดที่ 206 บาท ลบไป 6 บาท หรือลงไป 2.80% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2.26 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่สุดวิสัยจริงๆ ถึงทำให้คนเล่นโยนหุ้นออกมาก่อน เพราะไม่มีความจำเป็นต้องถือหุ้นต่อไปเรื่อยๆ วันนี้ถึงต้องมาเซ็ตเกมใหม่เจ้าค่ะ
*กรณีนี้คล้ายคลึงกับ MINT ถูกถล่มเทขายแบบไม่ปรานีปราศรัย แต่ในช่วง 2 สัปดาห์พยายามสู้สุดตัว จนสามารถรักษาฐานแนวรับ 37 บาทได้อย่างเหนียวแน่น ก่อนวานนี้จะกระชากขึ้นมาปิดที่ 38.50 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 3.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 655 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะของการไหลตามน้ำสั้นๆ เพื่อเกาะกระแสเด้งกลับในช่วงนี้นะจะบอกให้
*ส่วนในรายของ THANI กระชากขึ้นมาปิดที่ 7.55 บาท บวกไป 0.65 บาท หรือขึ้นไป 9.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 116 ล้านบาท น่าจะเป็นการซื้อกลับแบบธรรมดาๆ หลังราคารูดลงมาใกล้แนวรับ 6.70 บาท และเมื่อปลายปีก่อนก็เคยเด้งขึ้นตรงบริเวณนี้ ก่อนจะไปปิดเกมกันบริเวณ 8.50 บาท “โมนิก้า” ถึงอยากให้บรรดาขาลุยเข้าใจวงรอบการเคลื่อนตัวของหุ้นไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวนะจ๊ะ
*เช่นเดียวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในหุ้นโรงแรม ERW โดนรินหุ้นออกมาเรื่อยๆ จนหุ้นร่วงจากระดับ 9 บาท ลงมายืนอยู่ที่บริเวณ 7.50 บาท ก่อนจะเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ 7.80 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 61 ล้านบาท มันเป็นเกมที่น่าเสียวไส้เหลือเกิน เพราะหุ้นดันวิ่งขึ้นมาชนเส้น 10 วัน ตรงบริเวณแนวต้าน 7.80 บาท จึงต้องลุ้นเฮือกใหญ่ว่า หุ้นจะไปต่อได้หรือเปล่า?
*ส่วนหุ้นที่น่าลุ้นอีกตัวในเที่ยวนี้ “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้นฮอตฮิตอย่างเช่น COM7 สักนิดหนึ่งดีกว่า หลังหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 18.60 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 3.90% ด้วยมูลค่า 277 ล้านบาท ก็เป็นช็อตที่ต้องตามไปดูอีกเช่นกัน เพราะยอดเก่าที่เคยทำไว้อยู่สูงกว่านี้ แถมวอลุ่มวานนี้อัดเข้ามาอย่างหนาแน่น เกมหุ้นไม่น่าจะจบลงง่ายๆ แบบนี้นะคะ
*ไหนๆ ก็ชอบลุ้นกันแล้ว “โมนิก้า” ขอแถมหุ้น ADB ให้กับนักเล่นที่ชอบลุยไฟสักหน่อย เพราะการขึ้นมาปิดที่ 1.71 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 11.75% ด้วยมูลค่า 114 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่มาด้วยสตอรี่ไตรมาส 1 ออกมาดี พวกนกรู้ถึงกระโจนเข้าใส่มือเป็นระวิง พร้อมกับทำให้มิตรรักแฟนเพลงเกิดความอยากขึ้นมาในทันทีแบบนี้ เดี๊ยนถึงไม่อยากขัดศรัทธาของมหาชนไงล่ะคะ..อิอิอิ